เอสซีจี แสดงนวัตกรรมสำหรับการใช้ชีวิตดิจิทัล พร้อมการดูแลโลกให้ยั่งยืน

“เอสซีจี จัดแสดงนวัตกรรมดิจิทัลภายใต้แนวคิด Sustainability for All โชว์ตัวอย่างเทคโนโลยีเพื่อการใช้ชีวิตในอนาคตดิจิทัลและเพื่อสิ่งแวดล้อม สอดรับและตอกย้ำความมุ่งมั่นการดำเนินธุรกิจตามแนวทาง ESG 4 Plus

เอสซีจี จัดแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการใช้ชีวิตดิจิทัล ที่มีความอัจฉริยะ สะดวกสบาย ปลอดภัย ผนวกเข้ากับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ในการเข้าร่วมงาน SUSTAINABILITY EXPO 2022: GOOD BALANCE, BETTER WORLD มหกรรมด้านความยั่งยืนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาเซียน ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

การจัดแสดงนวัตกรรมของเอสซีจีอยู่ภายใต้แนวคิด Sustainability for All ที่ต้องการนำความสุขในการใช้ชีวิต ความเพลิดเพลินของการอยู่อาศัย และสังคม สิ่งแวดล้อมที่น่าอยู่มาสู่ทุกคน ที่สอดรับและตอกย้ำความมุ่งมั่นการดำเนินธุรกิจของเอสซีจีตามแนวทาง ESG 4 Plus ที่วางเป้าหมายไว้ที่ Net Zero 2050 – Go Green – Lean เหลื่อมล้ำ – ย้ำร่วมมือ ภายใต้ความเชื่อมั่น โปร่งใส

รุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี กล่าวว่า “ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ นอกจากจะเน้นเรื่องความสะดวกสบาย ปลอดภัยแล้ว ยังต้องไม่สร้างผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมด้วย เอสซีจีได้นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อตอบโจทย์เหล่านี้มาให้ทุกคนสัมผัสในงาน SUSTAINABILITY EXPO 2022

ซึ่งเกิดจากการทำงานร่วมกันระหว่างเอสซีจีและคนรุ่นใหม่หลากหลายสาขา เพื่อให้ทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความสุข และได้ร่วมดูแลโลกไปพร้อมกันในทุกๆ วัน”

ภายในส่วนจัดแสดง เอสซีจี ได้แบ่งการแสดงนวัตกรรมที่สอดรับแนวคิด Sustainability for All ไว้ 3 ประเด็น ประกอบด้วย

คุณภาพชีวิตดียั่งยืน (Sustainable Being) อาทิ SCG Bi–ion ระบบไอออนกำจัดเชื้อโรคในอากาศ กำจัดเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย สูงถึง 99% รวมถึงช่วยลดฝุ่น PM 2.5, Wellness Home Hub เทคโนโลยีเชื่อมโยงบริการด้านสุขภาพมาไว้ที่บ้านของทุกคน ส่งข้อมูลสุขภาพ-ติดตามอาการ-ปรึกษาแพทย์ได้เรียลไทม์

การอยู่อาศัยยั่งยืน (Sustainable Living) อาทิ Trinity ระบบ IoT Ecosystem Platform ที่เชื่อมต่อการทำงานของนวัตกรรมต่างๆ ภายในบ้านได้อย่างสะดวกสบายในแพลตฟอร์มเดียว ทั้ง SCG Solar Roof Solutions, SCG Active AIRflow System

และ SCG Active AIR Quality, Smart Faucet ก๊อกน้ำอัจฉริยะสั่งงานด้วยเสียง ควบคุมการเปิด-ปิดน้ำสะดวก ประหยัดน้ำได้มากกว่าเดิม และ Mixed Reality เทคโนโลยีความเป็นจริงผสม ที่ช่วยให้อาชีพเสี่ยงอันตราย ฝึกฝนได้ยาก เช่น นักผจญเพลิง นักสํารวจอวกาศ สามารถฝึกอบรมได้เสมือนจริงโดยไม่ต้องอยู่ในสถานการณ์จริง

อนาคตยั่งยืน (Sustainable Future) อาทิ SCG Solar Roof Solutions ระบบ Hybrid ระบบหลังคาโซลาร์ เทคโนโลยีไฮบริด มีแบตเตอรี่กักเก็บพลังงานไฟฟ้าสำหรับใช้ไฟฟ้าได้ทั้งกลางวันและกลางคืน ช่วยประหยัดสูงสุดถึง 60%, CPAC BIM เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการออกแบบก่อสร้างแม่นยำ ลดการสูญเสียทรัพยากร

ซึ่งนวัตกรรมที่นำมาแสดงนั้น เป็นผลงานที่มาจากการวิจัยและพัฒนาของเอสซีจี ที่ต้องการผลักดันเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการใช้ชีวิตดิจิทัล ผนวกเข้ากับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม รวมถึงเป็นผลงานที่มาจากโครงการ Young Talent Program ที่ให้นิสิตนักศึกษามาร่วมพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล นำมาแสดงในงานด้วย

เชิญชวนทุกคนลงมือลดการใช้พลังงาน

วีนัส อัศวสิทธิถาวร  ผู้อำนวยการสำนักงาน Enterprise Brand Management Office เอสซีจี กล่าวว่า “เราดำเนินองค์กรในหลักการ ESG 4 Plus ที่วางเป้าหมายไว้ที่ Net Zero 2050 – Go Green – Lean เหลื่อมล้ำ ย้ำร่วมมือ ภายใต้ความเชื่อมั่น โปร่งใส”

“การเข้าร่วมงาน SUSTAINABILITY EXPO 2022 ก็เพื่อจะแสดงให้เห็นถึงรูปแบบการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างไร

ซึ่งเรานำเอาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ ESG 4 Plus ใช้งานได้จริง ในการลดการใช้พลังงาน การลดขยะในกระบวนการก่อสร้าง สามารถสร้างความยั่งยืนและอำนวยความสะดวกได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

“ปัญหาที่ทุกคนเผชิญหน้าอยู่ มีหลายเรื่อง อาทิ เรื่องสภาวะอากาศเปลี่ยนแปลง เศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว ค่าเงิน รวมถึงเรื่องพลังงาน ที่ทุกธุรกิจ ทุกอุตสาหกรรมต่างก็ได้รับผลกระทบ

โดยเฉพาะผลกระทบด้านพลังงาน เพราะฉะนั้นประเด็นสำคัญคือ องค์กรจะมองทางออกอย่างเรื่อง ลดการใช้พลังงาน หรือการใช้พลังงานทดแทน อย่างไร”

“ก็อยากเชิญชวนภาคธุรกิจ ไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็กคุณก็เป็นผู้ได้รับผลกระทบด้านค่าพลังงานทั้งสิ้น มากน้อยต่างกันไป การมีแนวนโยบายด้านพลังงาน ไม่ใช่แนวคิดแค่การประหยัดค่าใช้จ่ายเพียงอย่างเดียว เราต้องคิดเพื่อโลกด้วย เพื่อให้องค์กรอยู่ได้นานขึ้น ทุกคนต้องช่วยกัน”

“รวมถึง อยากเชิญชวนประชาชนให้มีแนวคิดเรื่องความยั่งยืน ง่ายที่สุดคือการแยกขยะ พลาสติก กระดาษ ขยะเปียก ขยะแห้ง และการประหยัดพลังงานซึ่งเป็นสิ่งสำคัญจริงๆ” วีนัส กล่าว

ผลจากการเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งการพัฒนา

อภิรัตน์ หวานชะเอม Chief Digital Officer ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี เผยว่า “2 ปีที่ผ่านมา เอสซีจีได้ริเริ่มโครงการ Young Talent Program เพื่อเปิดพื้นที่ให้นิสิตนักศึกษามาร่วมพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อผู้คนและโลกยุคใหม่ในสนามจริง

พร้อมมีเมนเทอร์ที่มีประสบการณ์จากเอสซีจีคอยให้คำแนะนำ โดยมีผู้เข้าร่วมโครงการเพื่อบ่มเพาะความรู้กว่า 1,100 คน และเข้าพัฒนานวัตกรรมร่วมกันกว่า 86 คน

ทำให้เราเห็นว่าคนรุ่นใหม่มีศักยภาพครบเครื่องทั้ง Design Thinking, Future Thinking และ Sustainable Thinking ส่งผลให้มีนวัตกรรมใหม่ๆ เกิดขึ้นกว่า 17 ชิ้น เช่น Naiyana เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มองเห็นได้ (Computer Vision) ผู้ช่วยนำทางให้ผู้พิการทางสายตาปลอดภัยจากสิ่งกีดขวางเหนือศีรษะ

และ Brain Computer Interface เทคโนโลยีสั่งงานอุปกรณ์ IoT ด้วยคลื่นสมอง ช่วยให้ผู้ป่วยติดเตียงสามารถสื่อสารกับครอบครัวได้

ซึ่งได้นำมาจัดแสดงในงานนี้ด้วย นอกจากนี้ น้องๆ ยังสามารถนำทักษะความรู้ ประสบการณ์จากการร่วมโครงการไปประยุกต์ใช้พัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลอื่นๆ ที่สนใจ ถือเป็นการเตรียมความพร้อมให้นักนวัตกรรมรุ่นใหม่ที่จะเป็นกำลังสำคัญของประเทศในอนาคต”

โชว์ 7 วันเต็มถึง  2 ต.ค. นี้ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

ผู้ที่สนใจสามารถร่วมสัมผัสนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนจากเอสซีจี ได้ที่บูธเอสซีจี ฮอลล์ 2 ชั้น G และเลือกซื้อสินค้ารักษ์โลกราคาสุดพิเศษ คิด-จาก-ถุง และ สินค้าจาก SCGP ที่ Marketplace ชั้น LG ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตั้งแต่วันที่ 26 กันยายน – 2 ตุลาคม 2565 เวลา 10.00-21.00 น. เข้าร่วมงานโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

นอกจากนี้ เอสซีจี ยังได้ร่วมแบ่งปันมุมมองด้านเทคโนโลยีและความยั่งยืน ในหลากหลายหัวข้อ อาทิ หัวข้อ Leading Sustainable Business ร่วมเสวนาโดย รุ่งโรจน์  รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี ในวันที่ 1 ต.ค. 2565 เวลา 11.00-12.00 น. ณ เวทีกลาง ชั้น G

และ หัวข้อ เทคโนโลยีเพื่อชีวิตที่ดีกว่า ร่วมเสวนาโดย อภิรัตน์ หวานชะเอม Chief Digital Officer เอสซีจี ในวันที่ 29 ก.ย. 2565 เวลา 13.00-14.00 น. ณ เวที Talk Stage ชั้น G และ หัวข้อ Idea Pitching: Youth for the Future โดยตัวแทนเยาวชนจากโครงการ Young Talent Program ของเอสซีจี ในวันที่ 1 ต.ค. 2565 เวลา 11.00-11.30 น. ณ เวที Talk Stage ชั้น G