Sunday, April 28, 2024
NEWS

เอชพี ประเทศไทย วางกลยุทธ์ Future Ready รองรับโลกไฮบริด การบริการ และบิซิเนสโมเดลบอกรับสมาชิก

เอชพี ประเทศไทย

เอชพี ประเทศไทย ประกาศกลยุทธ์ Future Ready เพื่อมุ่งสู่การเติบโตของธุรกิจในอนาคต พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อตอบโจทย์วิถีชีวิตแบบไฮบริดทั้งในการทำงานและการใช้ชีวิต

อชพี ประเทศไทย ประกาศกลยุทธ์ธุรกิจประจำปี  2566 และ 2567 ผ่านแนวคิด Future Ready ที่มุ่งเน้นในการยกระดับบุคลากร (People) พอร์ตโฟลิโอธุรกิจ (Portfolio) และการปฏิบัติการ (Operations) เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดและสร้างการเติบโตของธุรกิจในระยะยาว

ในโอกาสนี้ ผู้บริหารระดับสูงนำโดย ซาเมียร์ ชาห์ รองประธาน และหัวหน้าฝ่ายธุรกิจการพิมพ์ ประจำภูมิภาคเอเชีย เดวิด ตัน รองประธานและกรรมการผู้จัดการ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ เอชพี อิงค์ และ วรานิษฐ์ อธิจรัสโรจน์ กรรมการผู้จัดการ เอชพี  ประเทศไทย ได้พบปะลูกค้าและพาร์ทเนอร์ เพื่อพบปะ รับฟังความเห็น รวมถึงถ่ายทอดกลยุทธ์ ของเอชพี

ซาเมียร์ ชาห์ รองประธาน และหัวหน้าฝ่ายธุรกิจการพิมพ์ ประจำภูมิภาคเอเชีย เอชพี อิงค์

ซาเมียร์ กล่าวว่า “ประเทศไทยเป็นตลาดที่สำคัญมากสำหรับเรา มีศักยภาพมาก จากข้อมูลของ IDC พบว่าว่าตลาดงานพิมพ์เติบโต โดยเฉพาะในประเทศไทย เอชพี มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 ในประเทศไทยในช่วงสองปีที่ผ่านมา”

“เราตื่นเต้นมากกับศักยภาพและโอกาสในประเทศไทย จุดประสงค์ของการจัดงานและมาประเทศ คือ การมีส่วนร่วมกับลูกค้า และคู่ค้า เพื่อทำความเข้าใจว่าเราจะทำงานร่วมกับพวกเขาได้อย่างไร เพราะความต้องการของลูกค้าเปลี่ยนไปเช่นกัน”

“ดังนั้นการทำความเข้า รับข้อมูลเชิงลึก และรับข้อเสนอแนะจากลูกค้าและคู่ค้าว่า เอชพี จำเป็นต้องทำอะไรเพิ่มเติมเพื่อส่งมอบ เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดในชั้นเรียนให้กับพวกเขาต่อไป”

“หัวใจหลักของการวางกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ของเอชพี นั้นสำคัญมาก ซึ่งต้องเป็นการผสมผสานระหว่างเทรนด์ของโลกผนวกเข้ากับความต้องการของแต่ละที่ สิ่งนั้นจะแปลงเป็นการวางแผนสำหรับประเทศไทย”

ซาเมียร์ อธิบายเพิ่มว่า “เอชพีมองเห็นแนวโน้มของโลกใน 3 ประเด็นสำคัญ ซึ่งจะเป็นตัวแปรสำคัญสำหรับการสร้างกลยุทธ์ ซึ่งประกอบด้วย แนวโน้มแรก การปรับเข้าสู่คำว่า การทำงานแบบไฮบริด ที่ได้กลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ ระหว่างชีวิตการทำงานกับชีวิตส่วนตัว ที่ผสานกลายเป็นเรื่องเดียวกัน”

“เทรนด์ที่ 2 ซึ่งเอชพีคิดว่า เป็นจริงสำหรับพวกเราทุกคน นั่นคือ ลูกค้าและผู้บริโภคต่างต้องการประสบการณ์ที่พวกเขาต้องการดีที่สุดในระดับเดียวกัน ส่วนเทรนด์ที่สามคือ บิซิเนสโมเดลแบบบอกรับสมาชิก ที่มีการเติบโตมากขึ้นอย่างเป็นปรากฏการณ์ในแทบทุกธุรกิจ

สิ่งที่เกิดขึ้นทั้ง 3 นั้น ส่งผลต่อรูปแบบการบริโภค ดังนั้นนี่จึงเป็นแนวโน้ม ที่เอชพีต้องการเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน และเป็นแนวทางกลยุทธ์แบรนด์ของเอชพี และจะต้องเป็นสิ่งที่เอชีต้องการปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ ของเอชพีให้ทันสมัย สมาร์ท และไร้รอยต่อสำหรับลูกค้า

“กลยุทธ์นี้จะเป็นตัวชี้นำพอร์ตโฟลิโอผลิตภัณฑ์ของเอชพี รวมถึงข้อเสนอในการบริการ และนี่คือสิ่งที่ทำให้เรายังคงเป็นแบรนด์ชั้นนำในประเทศไทย” ซาเมียร์ กล่าว

โดยเกิดเป็นแนวคิดและการทำงานภายใต้กลยุทธ์ HP Future Ready ออกแบบมาโดยมีลูกค้าและผู้ใช้งานเป็นหัวใจสำคัญ ผ่าน 3 แนวทางหลักที่ประกอบไปด้วย

Future Ready Portfolio – สร้างพอร์ตโฟลิโอของผลิตภัณฑ์ที่ส่งเสริมการเติบโต โดยสามารถปรับรูปแบบให้เข้ากับวิถีชีวิตการทำงานและการใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ที่หลากหลาย

Future Ready Operations – ปรับรูปแบบการทำงานเพื่อความสำเร็จโดยการปรับให้บริษัทมีความเป็นดิจิทัลมากยิ่งขึ้น พร้อมขับเคลื่อนความเป็นเลิศในการดำเนินงานในทุกแง่มุม

Future Ready People – เพิ่มขีดความสามารถให้บุคลากรของเราให้ประสบความสำเร็จทั้งในการทำงานและในการใช้ชีวิตส่วนตัว เพื่อขับเคลื่อนวัฒนธรรมที่มุ่งเน้นการสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้กับสังคม

เดวิด ตัน รองประธานและกรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอชพี อิงค์

เดวิด ตัน รองประธานและกรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ เอชพี อิงค์ กล่าวว่า “กลยุทธ์ Future Ready ของ เอชพี จะช่วยให้เราสามารถรักษาการเป็นผู้นำในยุคดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันนี้ได้ ด้วยนวัตกรรมใหม่และเส้นทางการเติบโตที่ชัดเจน”

“เรามีเป้าหมายในการช่วยสร้างความก้าวหน้าอย่างเข้มแข็งและมีความยืดหยุ่น ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจมหภาคที่มีความผันผวน ซึ่งแนวคิด Future Ready ของ เอชพี จะใช้ความแข็งแกร่งที่เรามีเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าของเรา และยังช่วยต่อยอดเป้าหมายด้านความยั่งยืนของเราอีกด้วย”

วรานิษฐ์ อธิจรัสโรจน์ กรรมการผู้จัดการ เอชพี ประเทศไทย กล่าวว่า “ในช่วงหลายปีที่ผ่านมารูปแบบการทำงานของผู้คนได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วอย่างมีนัยยะสำคัญ ซึ่ง เอชพี มองว่าการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ถือเป็นโอกาสในการส่งเสริมการทำงานร่วมกัน เพิ่มประสิทธิภาพ และพัฒนาประสบการณ์ของผู้ใช้งานดียิ่งขึ้น ซึ่งเกิดขึ้นได้จากการมีเทคโนโลยีที่เหมาะสม”

“โดยหนึ่งในแนวคิดสำคัญของ Future Ready คือการสร้างพอร์ตโฟลิโอที่สร้างสรรค์ ซึ่งจะเห็นได้จากผลิตภัณฑ์ใหม่หลายตัวที่เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานไปอีกขั้น ทำให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น การประกาศยุทธศาสตร์ของเอชพีในครั้งนี้ เอชพี มีเป้าหมายในการส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงานให้แก่คนไทยให้พร้อมรับการทำงานยุคใหม่และใช้ประโยชน์จากความยืดหยุ่นของการทำงานแบบไฮบริดได้อย่างเต็มที่ในทุกที่และทุกเวลา”