Thursday, July 17, 2025
AIeGovernmentNEWS

นายกฯ แพทองธาร ชูไทยผู้นำจริยธรรม AI บนเวทีโลก ตั้งศูนย์ธรรมาภิบาล AI แห่งแรกในเอเซีย

AIGPC

นายกฯ แพทองธาร ชูไทยผู้นำจริยธรรม AI บนเวทีโลก The 3rd UNESCO Global Forum on the Ethics of AI 2025 ดัน AIGPC เป็นศูนย์ธรรมาภิบาล AI แห่งแรกในเอเซีย

ายกฯ แพทองธาร นำประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพการประชุมระดับโลก ภายใต้ 3 กระทรวงหลัก กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี), กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.), กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จับมือ องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) 

เปิดการประชุมวิชาการนานาชาติ The 3rd UNESCO Global Forum on the Ethics of AI 2025 ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์เซ็นทรัลเวิลด์ ระหว่างวันที่ 24–27 มิถุนายน 2568 มีผู้เข้าร่วมกว่า 104 ประเทศ 

โดยไทยร่วมแสดงบทบาทผู้นำระดับภูมิภาคในการพัฒนา AI อย่างมีจริยธรรม พร้อมแสดงวิสัยทัศน์ว่า ประเทศไทยพร้อมเดินหน้าพัฒนา AI อย่างมีธรรมาภิบาล เพื่อให้เกิดประโยชน์กับทุกคนอย่างเท่าเทียม โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

 แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมวิชาการนานาชาติฯ โดยได้กล่าวถึงแนวทางสำคัญ 3 ประการในการกำหนดทิศทางอนาคตของ AI ในประเทศไทย ได้แก่ หนึ่ง การส่งเสริมการใช้ AI เพื่อประโยชน์ของสังคม โดยเฉพาะในด้านเกษตรกรรม สาธารณสุข และการศึกษา 

สอง การป้องกันการใช้ AI ในทางที่ผิด เช่น การสร้างข่าวปลอมหรือ Deepfake ที่บ่อนทำลายความน่าเชื่อถือในสังคม และสาม การเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องและการพัฒนา AI โดยยึดมนุษย์เป็นศูนย์กลาง เพื่อสนับสนุนแรงงาน ไม่ใช่แทนที่แรงงานโดยรัฐจะร่วมมือกับภาคธุรกิจและสถาบันการศึกษาในการยกระดับทักษะแรงงานให้พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลง

รัฐบาลไทยยังเดินหน้าแผนยุทธศาสตร์ชาติด้าน AI ภายใต้การกำกับของ “คณะกรรมการ AI แห่งชาติ” โดยมีเป้าหมายเพื่อใช้ AI เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน

บนพื้นฐานของความโปร่งใส ความรับผิดชอบ และหลักจริยธรรมที่เข้มแข็ง รัฐบาลตั้งเป้าว่าจะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจจาก AI ได้ไม่น้อยกว่า 4,000 ล้านบาทภายในปี 2570 พร้อมส่งเสริมให้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เข้าถึงเทคโนโลยี AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดต้นทุน เพิ่มผลิตภาพ และยกระดับความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก 

พร้อมกันนี้ ประเทศไทยยังให้ความสำคัญกับการนำ AI ไปใช้ในภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประชาชนโดยตรง โดยเฉพาะด้านการแพทย์ เกษตรกรรม และการศึกษา เพื่อให้เทคโนโลยีนี้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนในทุกมิติอย่างแท้จริง

ตั้งศูนย์ธรรมาภิบาลปัญญาประดิษฐ์ระดับภูมิภาค

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้มีการหารือทวิภาคีกับ ออเดรย์ อาซูเลย์ ผู้อำนวยการใหญ่ของยูเนสโก ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันในการตั้ง ศูนย์ AI Governance Practice Center (AIGPC) หรือ ศูนย์ธรรมาภิบาลปัญญาประดิษฐ์ระดับภูมิภาคเพื่อสนับสนุนการดำเนินการตามข้อเสนอแนะว่าด้วยจริยธรรม AI โดยเฉพาะในบริบทของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก 

ความร่วมมือนี้จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของประเทศต่างๆ ในการใช้ AI อย่างมีความรับผิดชอบความร่วมมือนี้ยังจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของภูมิภาคในการรับมือกับภัยคุกคามรูปแบบใหม่ที่เกิดจากการใช้ AI ในทางที่ผิด โดยเฉพาะการนำ AI มาใช้เพื่อหลอกลวงประชาชน 

เช่น การปลอมเสียงและใบหน้าผ่านเทคโนโลยี Deepfake การส่งข้อความหลอกลวงผ่านระบบอัตโนมัติ และการสนับสนุนขบวนการหลอกลวงทางโทรศัพท์หรือ Call center ซึ่งล้วนเป็นภัยที่เกิดขึ้นจริงและแพร่กระจายรวดเร็วในหลายประเทศ ซึ่งการสนับสนุนความร่วมมือระหว่างทุกภาคส่วนนี้ เป็นการสะท้อนว่าประเทศไทยพร้อมเดินหน้าร่วมกับประชาคมโลกอย่างมั่นคงบนเส้นทางของการพัฒนา AI ที่มีจริยธรรม โปร่งใส และยั่งยืน

ขณะที่ ประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ยืนยันว่า รัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการพัฒนา AI อย่างมีจริยธรรม ไม่ใช่เพียงแค่ในเชิงนโยบาย แต่เน้นการ นำไปใช้จริง โดยเฉพาะกับภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม และการบริการที่เกี่ยวข้องกับประชาชนโดยตรง 

โดยไทยยังได้ประเมินความพร้อมด้าน AI ผ่านเครื่องมือ UNESCO RAM (UNESCO Readiness Assessment Methodology) เพื่อให้เข้าใจสถานะปัจจุบันของประเทศอย่างเป็นระบบ พร้อมระบุจุดแข็ง จุดอ่อน และแนวทางปรับปรุงในมิติต่างๆ เช่น โครงสร้างพื้นฐาน นโยบายข้อมูล และทักษะบุคลากร ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการกำหนดแผนยุทธศาสตร์ที่เหมาะสมกับบริบทของไทย 

ทั้งนี้ รองนายกฯ ประเสริฐกล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดตั้ง ศูนย์ AIGPC ภายใต้การดำเนินงานของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) จะเป็นศูนย์กลางสำคัญในการฝึกอบรม สร้างองค์ความรู้ แลกเปลี่ยนแนวปฏิบัติ และยกระดับบุคลากร AI ในระดับภูมิภาคต่อไป