Tuesday, July 15, 2025
ColumnistDr.Kriengsak ChareonwongsakManagement

ความอยุติธรรม ประเด็นสำคัญระดับโลก

ความยุติธรรม

มนุษย์โดยทั่วไปต้องการความยุติธรรม ไม่ชอบความอยุติธรรม (injustice) ความยุติธรรมจึงเป็นคุณธรรมพื้นฐานของสังคมมนุษย์ ​ผู้เขียนมีข้อเสนอแนะสำคัญบางประการเพื่อส่งเสริมให้เกิดความยุติธรรมและลดความอยุติธรรมในสังคม

มเคยเขียนและกล่าวไว้ว่า “เมื่อร้องหา…“ความยุติธรรม” ให้ตนเองได้ ต้องร้องหา…“ความยุติธรรม” ให้ผู้อื่นด้วย”

ความยุติธรรม (justice) สำคัญสำหรับการอยู่ร่วมกันเป็นสังคมทุกระดับแต่ความอยุติธรรม (injustice) มักเกิดขึ้นให้เห็นกันทั่วไปในสังคม เริ่มตั้งแต่หน่วยย่อยสุดคือ ครอบครัว จนถึงหน่วยใหญ่สุดคือ สังคมโลก เช่น การเหยียดสีผิว เพศ การกดขี่ข่มเหงคนด้อยโอกาส เป็นต้น ความอยุติธรรมเป็นสาเหตุสำคัญประการหนึ่งที่นำสู่ปัญหาความขัดแย้งในสังคม และยังเป็นประเด็นสำคัญระดับโลกของปีค.ศ. 2024

พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 นิยาม ยุติธรรม ว่า (คำนาม) ความเที่ยงธรรม, ความชอบธรรม, ความชอบด้วยเหตุผล, เช่น ศาลย่อมทรงไว้ซึ่งความยุติธรรม, (คำวิเศษณ์) เที่ยงธรรม, ไม่เอนเอียงเข้าข้างใดข้างหนึ่ง, ชอบด้วยเหตุผล, เช่น ราคายุติธรรม กรรมการตัดสินอย่างยุติธรรม.” ขณะที่ความอยุติธรรมมีลักษณะตรงกันข้าม 

ความยุติธรรมมิได้หมายถึงการปฏิบัติกับทุกคนเหมือนกัน ขึ้นอยู่กับความจำเป็นและความต้องการของแต่ละคนเป็นสำคัญ คนลักษณะหรือประเภทเดียวกันควรได้รับการปฏิบัติแบบเดียวกัน คนมีน้อยหรือขาดแคลนควรได้รับมาก ขณะที่คนมีมากเกินความต้องการหรือเกินพอดีควรได้รับน้อยกว่าในเรื่องเดียวกัน เช่น การให้เงินคนรวย 500 บาทกับคนจน 500 บาท มิได้สร้างให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีโดยรวมแก่สังคม เป็นต้น

ในทางเศรษฐศาสตร์ มนุษย์ทุกคนมี ค่าเสียโอกาส (opportunity cost) ไม่สามารถทำทุกอย่างพร้อมกัน จำเป็นต้อง เลือก ทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่เกิดประโยชน์คุ้มค่าสูงสุดภายใต้ความจำกัดของทรัพยากรที่มีอยู่ การได้ทำตามความถนัดของตนเองย่อมทำได้ผลลัพธ์จากการทำงานมากกว่า 

ผู้เขียน: ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ นักวิชาการอาวุโส มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดประธานสถาบันการสร้างชาติ (NBI) ประธานสถาบันอนาคตศึกษาเพื่อการพัฒนา (IFD) ผู้เชี่ยวชาญ เศรษฐศาสตร์ นโยบายการศึกษา การต่างประเทศ สังคม การเมือง การศึกษา

สังคมจึงควรสร้างความยุติธรรมทางโอกาสด้วยการส่งเสริมให้แต่ละคนได้ค้นพบและได้รับการพัฒนาตามศักยภาพของตนเองมากที่สุด เช่น บางคนเก่งทางด้านวิชาการ

การเป็นนักวิชาการย่อมให้ผลลัพธ์มากกว่าการเป็นนักร้องนักแสดง แม้ทั้งสองจะมีความสำคัญเช่นเดียวกัน การลงทุนเวลา 1 ชั่วโมงเท่ากัน แต่ผลลัพธ์ที่ได้จากการทำงานที่ถนัดและไม่ถนัดย่อมแตกต่างกัน เป็นต้น 

ระบบกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินเป็นของส่วนรวมตามระบบเศรษฐกิจแบบคอมมิวนิสต์ (communism) จึงมักถูกวิพากษ์ในประเด็นดังกล่าวนี้

มนุษย์โดยทั่วไปต้องการความยุติธรรม ไม่ชอบความอยุติธรรม ความยุติธรรมจึงเป็นคุณธรรมพื้นฐานของสังคมมนุษย์มาโดยตลอด กรณีสังคมมีความอยุติธรรมเกิดขึ้นมักทำให้เกิดปฏิกิริยาโต้ตอบในลักษณะใดลักษณะหนึ่งตามมา

สาเหตุและการแสดงออกลักษณะของความอยุติธรรมในสังคม

จากการวิเคราะห์ลักษณะของความอยุติธรรมในสังคมพบสาเหตุและการแสดงออกสำคัญ ดังนี้

อคติ หรือ ความรู้สึกไม่ดี ต่อบางสิ่งที่มีอยู่ก่อน ทำให้ไม่สามารถประเมินสิ่งนั้นอย่างยุติธรรม ตามเหตุผลและข้อเท็จจริงได้ อาจเกิดจากความเกลียดชัง ความโกรธ ความกลัว ความรังเกียจเดียดฉันท์ ความไม่ชอบ ความไม่น่าพึงพอใจ ที่ฝังอยู่ในความคิด เพราะรู้สึกว่าสิ่งนั้นไม่ดี ส่งผลร้ายต่อตนเอง หรือรู้สึกตนเองเหนือกว่า ดีกว่า อีกฝ่ายด้อยกว่า ต่ำต้อยกว่า ฯลฯ (คนดีสร้างได้: โมเดลบริบูรณ์ธรรม, เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์, 2560) 

เช่น ความขัดแย้งระหว่างชาวเมเต (Meitei) และชาวกูกิ (Kuki) ในรัฐมณีปุระ อินเดีย จากนโยบาย (สิทธิชนเผ่ากับปัญหาความขัดแย้งครั้งใหม่ในอินเดีย: บทเรียนน่าคิดต่อนโยบายด้านชาติพันธุ์ของไทย, ศุภวิชญ์ แก้วคูนอก, 2566) การเหยียดสีผิวระหว่างคนผิวดำและคนผิวขาว กรณี จอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวดำที่ถูกตำรวจผิวขาวกระทำความรุนแรง การเหยียดกลุ่มชาติพันธุ์ เป็นต้น

ลำเอียง หรือ ความรู้สึกดี ต่อบางสิ่งมีอยู่ก่อน ทำให้ไม่สามารถประเมินสิ่งนั้นอย่างยุติธรรม ตามเหตุผลและข้อเท็จจริงได้ เกิดจากความรักใคร่ชอบพอ ความใกล้ชิดสนิทสนม ความเป็นเครือญาติ ความสัมพันธ์แบบอุปถัมภ์ ทำให้สนับสนุน เข้าข้างฝ่ายนั้น ไม่วางตัวเป็นกลาง โดยไม่สนใจความถูกต้อง ไม่ได้พิจารณาและให้เหตุผลต่อเรื่องนั้นอย่างเป็นธรรม ไม่สนใจว่าคนอื่นและส่วนรวมจะเสียเปรียบอย่างไร (คนดีสร้างได้: โมเดลบริบูรณ์ธรรม, เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์, 2560) 

เช่น ระบบอุปถัมภ์เชิงลบใช้ความใกล้ชิดสนิทสนม ความเป็นเครือญาติ หรือความรักใคร่ชอบพอส่วนบุคคล ทำให้หน่วยงาน องค์กร ได้คนที่มีคุณสมบัติไม่เหมาะสมเข้าสู่ตำแหน่งเป็นต้น

กดขี่ พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 นิยาม กดขี่ ว่า (คำกิริยา) ข่มให้อยู่ในอำนาจตน, ใช้บังคับเอา, ทำอำนาจเอา, บางทีใช้เข้าคู่กับคำ ข่มเหง เป็น กดขี่ข่มเหง เช่น การกดขี่ทางเพศ การกดขี่แรงงานต่างด้าว เป็นต้น 

การกดขี่เป็นการปฏิบัติไม่ถูกต้องหรือผิดจากความเป็นจริงต่อบุคคลอื่น อาหรับสปริง (Arab Spring) เป็นตัวอย่าง ประชาชนถูกกดขี่ ลิดรอนสิทธิเสรีภาพ จากชนชั้นปกครองจนเป็นเหตุทำให้เกิดการลุกฮือและเป็นกระแสนำสู่การเปลี่ยนแปลงผู้ปกครองในหลายประเทศ ความเป็นจริงประชาชนทุกคนควรได้รับการดูแลจากผู้ปกครองของตนเองอย่างเหมาะสมทั้งในฐานะของความเป็นประชาชนและความเป็นมนุษย์

เลือกปฏิบัติ การปฏิบัติแตกต่างกันระหว่างบุคคลหรือกลุ่มบุคคล อันเนื่องมาจาก เพศ เชื้อชาติ ศาสนา วัย ฯลฯ เช่น คนผิวดำถูกจำกัดสิทธิบางอย่าง เพราะความแตกต่างทางสีผิว การกีดกันการรับเลือกเข้าทำงานของกลุ่ม คนพิการ ผู้สูงอายุ เด็ก เพศสภาพ เป็นต้น 

กรณีการเลือกปฏิบัติระหว่างเพศ นอกจากเกิดขึ้นกับกลุ่มผู้หญิงแล้ว กลุ่มเพศสภาพมักเป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ถูกเลือกปฏิบัติ เช่น การกีดกันการรับเข้าทำงาน เป็นต้น แม้สังคมจะให้ความสำคัญกับการไม่เลือกปฏิบัติมากขึ้นเช่น การกำหนดเป็นกฎหมาย เป็นต้น แต่ในภาคปฏิบัติยังคงมีการเลือกปฏิบัติรูปแบบต่างๆ อยู่

แบ่งชั้นวรรณะ สังคมมีการแบ่งชนชั้นเสมอ เช่น ชนชั้นปกครอง ชนชั้นผู้ถูกปกครอง เป็นต้น ความอยุติธรรมเป็นการแบ่งชนชั้นระหว่างบุคคลหรือกลุ่มบุคคลอย่างไม่เป็นธรรม เช่น การแบ่งชนชั้นด้วยฐานะ การเงิน สีผิว เผ่าพันธุ์ เชื้อชาติ เป็นต้น 

ส่วนหนึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เพราะติดตัวมาแต่กำเนิด เช่น สีผิว เผ่าพันธุ์ เชื้อชาติ เป็นต้น กรณีการแบ่งชนชั้นระหว่างคนผิวดำและคนผิวขาว อดีตคนผิวดำในทวีปแอฟริกาถูกขายเป็นทาส เป็นชนชั้นทาส แม้บริบทสังคมเปลี่ยน แต่ความคิดความไม่เท่าเทียมดังกล่าวยังคงมีอยู่ในบางสังคม 

ปัจจุบันสังคมเปิดกว้างมากขึ้นคนผิวดำมีโอกาสก้าวขึ้นมาเป็นชนชั้นนำของสังคม มีสิทธิและเสรีภาพในการกำหนดอนาคตชีวิตของตนเองมากขึ้น

แนวโน้มความอยุติธรรมจะยังคงมีอยู่ แม้สังคมจะให้ความสำคัญกับประเด็นดังกล่าวนี้มากขึ้น แต่จะปรับเปลี่ยนรูปแบบตามความเป็นพลวัตของสังคม เช่น ชนชั้นทาสในอดีตถูกยกเลิก แต่มีไซเบอร์บูลลี (cyber bully) เกิดขึ้น เป็นต้น 

ความอยุติธรรมเป็นประเด็นสำคัญระดับโลก

โลกให้ความสำคัญกับประเด็นความอยุติธรรมมากขึ้น เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน 2030 (Sustainable Development Goals: SDGs 2030) ตามมติการรับรองของการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งองค์การสหประชาชาติ (United Nations, n.d.) ระบุทิศทางการพัฒนาของโลกภายในปี พ.ศ. 2573 กำหนดเป้าหมายการพัฒนาไว้ 17 เป้าหมาย 169 เป้าประสงค์ 

หนึ่งในเป้าหมายสำคัญดังกล่าวเหล่านี้คือ การสร้างให้เกิดความเท่าเทียมกันในสังคม เช่น ความเท่าเทียมทางเพศ เป็นต้น นอกจากนี้ วันที่ 1 มีนาคม ของทุกปี ยังเป็นวันรณรงค์สากลเพื่อยุติการเลือกปฏิบัติ เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 เป็นต้นมา 

ขณะเดียวกันมีกระแสการตระหนักประเด็นความอยุติธรรมในสังคมเกิดขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน เช่น การออกมาประท้วงกรณี โมฮาเหม็ด โบอาซีซี ชายขายผลไม้ริมทางในเหตุการณ์อาหรับสปริง การออกมาเรียกร้องสิทธิของกลุ่มสตรีและเด็กหญิงในประเทศอัฟกานิสถาน การออกมาประท้วงตอบโต้ กรณีการกระทำความรุนแรงต่อชายผิวดำ จอร์จ ฟลอยด์ เป็นต้น

ความอยุติธรรม injustice จึงส่งผลกระทบเป็นประเด็นสำคัญระดับโลกตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมาจนกระทั่งปัจจุบัน และมีแนวโน้มจะยังคงเป็นประเด็นสำคัญระดับโลกในอนาคต อันเป็นผลมาจากหลายปัจจัย เช่น สิทธิมนุษยชน เอสดีจี 2030 เป็นต้น 

รวมทั้งความเป็นโลกาภิวัตน์ที่เป็นผลมาจากความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช่วยทำให้การเข้าถึงแหล่งข้อมูลความรู้ทำได้สะดวกรวดเร็ว เช่น การคมนาคม อินเตอร์เน็ต เป็นต้น มีส่วนสำคัญในการขยายผลกระทบสู่ระดับโลกเกิดการเปิดรับเอา แนวคิด วิถีปฏิบัติ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของวิถีการดำเนินชีวิตของผู้คนทั่วโลก

ข้อเสนอแนะเพื่อเตรียมพร้อมรับมือประเด็นความอยุติธรรม

​ผมมีข้อเสนอแนะสำคัญบางประการเพื่อส่งเสริมให้เกิดความยุติธรรมและลดความอยุติธรรมในสังคม

สร้างความตระหนักเรื่องสิทธิมนุษยชน อันเป็นสิทธิพื้นฐานที่มนุษย์ทุกคนพึงมี เช่น สิทธิในการศึกษา สิทธิในชีวิตและทรัพย์สิน เป็นต้น ปลูกฝังให้เกิดขึ้นในบ้าน 3 หลัง (คนกล้าสร้างได้, เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์, 2560) ครบทุกหลัง ให้เคารพในสิทธิมนุษยชนของผู้อื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งบ้านหลังที่หนึ่ง ปัจจุบันขับเคลื่อนผ่านบ้านหลังที่สองและสามเป็นหลัก

สร้างความตระหนักเรื่องสิทธิเสมอหน้าที่ มีสิทธิต้องมีหน้าที่ที่ต้องทำ เรียกร้องสิทธิ ต้องยอมรับหน้าที่ มีสิทธิมาก มีหน้าที่มาก คนจำนวนมากเรียกร้องแต่สิทธิ แต่หลีกเลี่ยงหน้าที่ เช่น เรียกร้องสิทธิความเท่าเทียมกันทางเพศระหว่างเพศชายและเพศหญิง ควระบุหน้าที่ระหว่างเพศชายและเพศหญิงร่วมด้วย เป็นต้น (อารยวิถีทัศน์: คุณค่าแห่งความเป็นคน, เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์, 2562)

สนับสนุนการแบ่งชนชั้นด้วยความดี ในสังคมมีชนชั้นเสมอ ความยุติธรรมมิได้หมายความว่าต้องปฏิบัติเหมือนกันทุกคน ขณะเดียวกันยังมีหลักอื่นให้พิจารณาร่วมด้วย เช่น หลักการให้เกียรติ หลักการเกิดประโยชน์คุ้มค่าสูงสุด เป็นต้น ประเด็นสำคัญคือ หลักเกณฑ์การแบ่งชนชั้นหรือการให้คุณค่าของสังคม สังคมควรให้คุณค่ากับการแบ่งชนชั้นด้วยความดี (ชาวอารยะ: ชาวศิวิไลซ์ที่ใฝ่หา, เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์, 2555) 

จัดระเบียบสังคมด้วยโมเดลเสมอสภาพ 3ส ประกอบด้วย เสมอภาพ, เสมอภาส และ เสมอภาค อย่างสมดุลครบถ้วน ส่งเสริมให้คนทุกกลุ่มเข้าถึงความยุติธรรมอย่างเท่าเทียมกัน

เสมอภาพ: เน้นปัจจัยนำเข้า เพื่อ เสมอภาคแบบไม่ลำเอียง (ไม่เลือกปฏิบัติ) (Equitation is Input Oriented with Equality in Non-Discrimination.) เช่น เพศ วัย ฐานะ เชื้อชาติ เป็นต้น 

เสมอภาส: เน้นกระบวนการ เพื่อ เสมอภาคแบบให้โอกาส (สว่างแจ้ง) (Equatry is Process Oriented with Equality in Opportunity.) เช่น โปร่งใส ตรวจสอบได้ เป็นต้น 

เสมอภาค: เน้นผลลัพธ์ เพื่อ เสมอภาคแบบยุติธรรม (แต้มต่อ) (Equity is Outcome Oriented with Equality in Justice.) เช่น ทุนการศึกษา เป็นต้น 

ความยุติธรรมมิได้หมายความว่าทุกอย่างต้องเท่ากันสำหรับทุกคน บางคนอาจจำเป็นต้องได้มากกว่าคนอื่นหรือมีแต้มต่อ เช่น คนด้อยโอกาสในสังคม เป็นต้น

ความยุติธรรมนับเป็นคุณธรรมพื้นฐานของสังคมมนุษย์ ขณะที่ความอยุติธรรมเป็นประเด็นสำคัญระดับโลก การเข้าใจความยุติธรรมจะช่วยให้ทุกฝ่ายสามารถจัดการปัญหาความอยุติธรรมได้ดียิ่งขึ้น

อ่านบทความทั้งหมดของ ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์

Featured Image: Equality VS Equity Interaction Institute for Social Change | Artist: Angus Maguire