Saturday, April 27, 2024
CybersecurityNEWSPDPA

หัวเว่ย ประกาศย้ำเจตนารมณ์ ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์และปกป้องความเป็นส่วนตัว

หัวเว่ยมุ่งสร้างความโปร่งใสในระดับสากล เดินหน้าขับเคลื่อนนวัตกรรม เทคโนโลยีและองค์ความรู้ ผ่านศูนย์ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ เน้นความปลอดภัยไซเบอร์และไพรเวซี่

ริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ จำกัด ประกาศย้ำเจตนารมณ์ในการส่งเสริมความโปร่งใสทั่วโลก (Global Transparency) พร้อมให้ความร่วมมือผ่านทาง ศูนย์เพื่อความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์และความโปร่งใสในด้านการปกป้องความเป็นส่วนตัว (Cybersecurity and Privacy Protection Transparency Center) ตั้งอยู่ในเมืองต่งกวน สาธารณะประชาชนจีน

โดยศูนย์ฯ ดังกล่าวก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นแพลตฟอร์มเพื่อแลกเปลี่ยนความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ร่วมกันสำหรับผู้เกี่ยวข้องในทุกภาคส่วนของอุตสาหกรรม รวมถึงเพื่ออำนวยความสะดวกในการประสานงาน การติดต่อสื่อสาร และการพัฒนานวัตกรรมต่างๆ โดยมีเป้าหมายร่วมกันคือเสริมสร้างความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ให้กับภาคอุตสาหกรรมที่หลากหลายทั่วโลก

สุรชัย ฉัตรเฉลิมพันธุ์
สุรชัย ฉัตรเฉลิมพันธุ์ ผู้เชี่ยวชาญและผู้บริหารระดับสูงฝ่ายความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์และความเป็นส่วนตัว บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด

สุรชัย ฉัตรเฉลิมพันธุ์ ผู้เชี่ยวชาญและผู้บริหารระดับสูงฝ่ายความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์และความเป็นส่วนตัว บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า

“ภัยคุกคามทางไซเบอร์โดยส่วนใหญ่ ได้แก่ แรนซัมแวร์ การโจมตีแบบ DDoS แอปพลิชันที่แอบฝังมัลแวร์ ฟิชชิง การโจมตีช่องโหว่ของซอฟต์แวร์ การโจมตีช่องโหว่ในระบบคลาวด์คอมพิวติ้ง รวมไปถึงการโจมตีผ่านอุปกรณ์ IoT ต่างๆ เป็นต้น”

“ดังนั้น ศูนย์ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์และความโปร่งใสของเราจึงมีเป้าหมายเพื่อป้องกันภัยคุกคามไซเบอร์เหล่านี้ ควบคู่ไปกับการกำจัดข้อสงสัยด้านความมั่นคงปลอดภัยและยกระดับความไว้วางใจในแบรนด์หัวเว่ยในระดับโลก

ที่หัวเว่ยเราเชื่อว่าความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ คือความท้าทายที่เป็นความรับผิดชอบร่วมกันของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย”

“ทั้งนี้ การจัดตั้งศูนย์นี้เพื่อความโปร่งใส ตรวจสอบได้ การลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา รวมไปถึงการสร้างแพลตฟอร์มความร่วมมือและพันธมิตรในระดับโลก คือความตั้งใจของเราที่จะขยายความร่วมมือกับลูกค้า คู่ค้าและองค์กรต่างๆ ทั้งทางภาครัฐและเอกชน เพื่อยกระดับความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ไปทั่วโลก”

ศูนย์ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์และความโปร่งใสแห่งเมืองต่งกวน ประกอบด้วย ศูนย์นิทรรศการ และศูนย์ตรวจสอบและบริการลูกค้า ซึ่งลูกค้าสามารถนำอุปกรณ์ของตัวเองจากที่บริษัทมาตรวจสอบความมั่นคงปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ของหัวเว่ยก่อนตัดสินใจซื้อได้

ศูนย์ฯ ดังกล่าว ยังเป็นที่ตั้งของ ห้องปฏิบัติการด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์แบบอิสระ ซึ่งมี แฮกเกอร์สายหมวกขาว (White Hackers) จำนวน 200-300 คน ทำหน้าที่ตรวจสอบความมั่นคงปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ก่อนนำออกไปวางจำหน่ายและใช้งาน

นอกจากนี้ในบริเวณเดียวกัน ยังมีศูนย์วิจัยพัฒนา ซึ่งมีชื่อเรียกว่า หมู่บ้านเขาวัว (Ox Horn Village) ประกอบด้วยกลุ่มอาคาร 12 กลุ่ม ซึ่งสร้างขึ้นโดยได้แรงบันดาลใจจากแบบสถาปัตยกรรมชั้นนำในยุโรป โดยตั้งอยู่ทางใต้ของแม่น้ำซงซาน รองรับพนักงานกว่า 25,000 คน

ซึ่งปัจจุบัน หัวเว่ยมีพนักงานด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์รวมทั้งสิ้นกว่า 3,800 คน ประจำอยู่ภายในศูนย์ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์และความโปร่งใสแห่งเมืองต่งกวน

บรรยากาศภายใน ศูนย์เพื่อความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์และความโปร่งใสในด้านการปกป้องความเป็นส่วนตัว (Cybersecurity and Privacy Protection Transparency Center) ในเมืองต่งกวน ประเทศจีน
ช่วยพัฒนาบุคลากรความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ในไทย

สำหรับในประเทศไทย หัวเว่ยได้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) เพื่อจัดการแข่งขันด้านความมั่นคงความปลอดภัยทางไซเบอร์ของประเทศไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาทักษะบุคลากรทางด้านดิจิทัลและลดปัญหาการขาดแคลนบุคลาการทางด้านดิจิทัลในประเทศไทย

จากกิจกรรมดังกล่าวส่งผลให้ประเทศไทยมีจำนวนบุคลากรทางด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์เพิ่มขึ้นถึง 10,000 คน นับตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี พ.ศ.2565 ซึ่งนับเป็นการขับเคลื่อนจำนวนบุคลากรทางด้านดิจิทัลให้กับประเทศไทยและยังช่วยผลักดันประเทศไทยสู่เป้าหมายในการขึ้นเป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัลของภูมิภาคอาเซียน

นอกจากนี้ หัวเว่ย ยังทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐอย่างใกล้ชิดเพื่อให้มั่นใจได้ว่าอุปกรณ์ของหัวเว่ยทุกชิ้นที่นำเข้ามายังประเทศไทยมีการดำเนินการสอดคล้องตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ร.บ. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์และ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 (PDPA) และทุกกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด

Featured Image: executive-bulletin.com