Sunday, April 28, 2024
NEWS

ค่ายรถยนต์ไฟฟ้าเลือกใช้ NVIDIA DRIVE รองรับการขับขี่อัจฉริยะ

ค่ายรถยนต์ไฟฟ้าเลือกใช้ NVIDIA DRIVE รองรับการขับขี่อัจฉริยะ Li Auto เลือก DRIVE Thor สำหรับ EV รุ่นถัดไป GWM, ZEEKR และ Xiaomi พัฒนารถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI โดยใช้ขุมพลังจาก NVIDIA DRIVE Orin

NVIDIA ประกาศขับเคลื่อนวงการรถยนต์ไฟฟ้า ค่าย Li Auto ผู้บุกเบิกยานยนต์ไฟฟ้าระยะไกล (EV) ได้เลือกใช้ระบบคอมพิวเตอร์ในรถยนต์แบบรวมศูนย์ NVIDIA DRIVE Thor™ เพื่อขับเคลื่อนกลุ่มยานพาหนะรุ่นต่อไป พร้อมด้วยผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าอีกหลายค่าย อาทิ GWM (Great Wall Motor), ZEEKR และ Xiaomi ได้นำแพลตฟอร์ม NVIDIA DRIVE Orin™ มาใช้เพื่อประมวลผลระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ สู่ความอัจฉริยะของรถยนต์ไฟฟ้า

มิสเตอร์ซินโจว วู (Xinzhou Wu) รองประธานฝ่ายยานยนต์ของ NVIDIA กล่าวว่า  ภาคอุตสาหกรรมการขนส่งกำลังเปิดรับการประมวลผลแบบรวมศูนย์สำหรับการขับขี่อัตโนมัติและไร้คนขับ

โดยค่ายรถยนต์เชื่อมั่และเลือกใช้ NVIDIA DRIVE Orin ด้วยคอมพิวเตอร์รถยนต์ AI อัจฉริยะ ที่ตอบโจทย์ผู้ผลิตรถยนต์ที่มองหาความสามารถขั้นสูงและประสิทธิภาพ AI ของ NVIDIA DRIVE Thor ผู้สืบทอดตำแหน่งต่อ สำหรับแผนการพัฒนายานพาหนะในอนาคต

สำหรับ DRIVE Thor เป็นคอมพิวเตอร์ติดรถยนต์แบบรวมศูนย์เจเนอเรชันถัดไปที่รวมฟังก์ชันอัจฉริยะหลากหลายไว้ในแพลตฟอร์มประมวลผล AI ชุดเดียว มอบความสามารถในการขับขี่และการจอดรถอัตโนมัติ การตรวจสอบผู้ขับขี่และผู้โดยสาร พร้อมด้วยฟังก์ชั่นห้องนักบิน AI

ปัจจุบัน Li Auto ใช้โปรเซสเซอร์ DRIVE Orin สองตัวเพื่อขับเคลื่อนระบบช่วยเหลือการขับขี่, AD Max สำหรับรุ่น L-series โปรเซสเซอร์ซึ่งให้การทำงานรวม 508 ล้านล้านต่อวินาที (TOPS) ช่วยให้สามารถหลอมรวมและประมวลผลข้อมูลเซ็นเซอร์แบบเรียลไทม์ – ขับเคลื่อนการขับขี่อัตโนมัติแบบเต็มสถานการณ์สำหรับการนำทางบนระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (Advanced Driver- Assistance Systems: ADAS) ระบบช่วยเหลือการขับขี่แบบเต็มสถานการณ์สำหรับ ระบบควบคุมการเปลี่ยนเลน (Lane Change Control: LCC) ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ และการเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (Automatic Emergency Braking: AEB) ระบบความปลอดภัยแบบแอคทีฟ

นอกจากนี้การอัปเกรด AD Max 3.0 ใหม่จะเปลี่ยนระบบไปใช้สถาปัตยกรรมอัลกอริทึมแบบ end-to-end ซึ่งควบคุมโดยโมเดล AI ขนาดใหญ่ โดยมอบประสบการณ์การขับขี่อัจฉริยะที่ปลอดภัยและสะดวกสบายยิ่งขึ้นโดยใช้ Occupancy network และ Spatio-temporal trajectory planning รวมไปถึงการใช้ และอัลกอริธึม Model-predictive control

สร้างอนาคตการขนส่งบน DRIVE แพลตฟอร์ม

ทางด้าน GWM หนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารายใหญ่ชั้นนำของจีน ประกาศว่ารถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่กำลังจะเปิดตัวจะผสานรวมการประมวลผลแบบรวมศูนย์ DRIVE Orin สำหรับระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ สถาปัตยกรรมไฟฟ้า/อิเล็กทรอนิกส์ Coffee OS 2.0 และแชสซีอัจฉริยะ

ซึ่งได้รับการปรับใช้เทคโนโลยีขั้นสูงแล้วใน GWM รุ่นไฮเอนต์  โดย  GWM ร่วมมือกับ NVIDIA เพื่อพัฒนาระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะนี้ จะเปิดตัวรุ่นแรกพร้อมระบบดังกล่าวในช่วงครึ่งปีแรกของปี คุณสมบัติการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง เช่น Urban Navigate บน Autopilot และ Cross-floor Memory Parking จะเปิดตัวใน GWM รุ่นต่างๆ รวมถึง ORA, WEY และ HAVAL

“เทคโนโลยี AI ที่ขับเคลื่อนด้วย LLM จะช่วยยกระดับการขับเคลื่อนในอนาคตอย่างล้ำลึก เช่นเดียวกับอุตสาหกรรมยานยนต์ทั้งหมด” โฆษกของ GWM กล่าว “GWM มุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับ NVIDIA และบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมอื่น ๆ เพื่อมอบความคล่องตัวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและชาญฉลาดยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน”

นอกจากนี้  ZEEKR บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียมในเครือ Geely ได้เปิดตัว ZEEKR Luxury Sedan ซึ่งเป็นรุ่นที่สี่ที่ขับเคลื่อนโดย NVIDIA DRIVE Orin โดยมาพร้อมกับระบบการขับขี่อัจฉริยะเต็มรูปแบบใหม่

ซึ่งขับเคลื่อนโดย DRIVE Orin SoC สองตัว เพื่อส่งมอบการจอดรถอัจฉริยะและการทำงานแบบอัตโนมัติบนถนนความเร็วสูงและในเมือง รุ่นต่าง ๆ ของ ZEEKR มีให้เลือกใช้เซ็นเซอร์สองแบบ ได้แก่ Lidar + Vision Fusion และ Pure Vision Navigation, ZEEKR Pilot ซึ่งเป็นฟีเจอร์การนำทางบนทางหลวงจากระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูงภายในบริษัทของ ZEEKR จะพร้อมใช้งานในเมืองใหญ่ ๆ ของจีนเมื่อการส่งมอบเริ่มต้นขึ้น

“ZEEKR ภูมิใจที่ได้ร่วมงานกับ NVIDIA ในด้านนวัตกรรม ความสามารถในการขับขี่อัตโนมัติที่ปลอดภัย” นายเชน ชี (Chen Qi) รองประธานของ ZEEKR กล่าว “ระบบ ADAS ที่พัฒนาโดย ZEEKR Luxury Sedan ใหม่ของ ZEEKR นั้นเกิดขึ้นได้ด้วยแพลตฟอร์มคอมพิวเตอร์รถยนต์ NVIDIA DRIVE ประสิทธิภาพสูงที่ประหยัดพลังงานและมีประสิทธิภาพสูง”

ทางด้าน Xiaomi EV ซึ่งเป็นบริษัทด้านยานยนต์ของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี ได้ประกาศเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของบริษัท นั่นคือ SU7 ซีดาน และใช้แพลตฟอร์ม DRIVE Orin แบบคู่ สำหรับฟังก์ชันการขับขี่บนทางหลวง ด้วยการใช้โมเดลภาษาขนาดใหญ่ชั้นนำของเสียวหมี่ในการรับรู้และการตัดสินใจ รถยนต์จะสามารถนำทางผ่านเมืองต่าง ๆ ของจีนได้อย่างราบรื่น

ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ในเขตการปกครองภายในประเทศ หรือประเภทของถนน (เช่น ทางหลวงแผ่นดิน ถนนในเมือง ฯลฯ) โดยจะมีให้เลือก 2 เวอร์ชัน: เวอร์ชันแรกมีระยะการขับขี่สูงสุด 415 ไมล์ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และอีกเวอร์ชันมีระยะการเดินทางสูงสุด 497 ไมล์ SU7 จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงครึ่งแรกของปี 2024

อีกทั้งยังได้ร่วมกับผู้ผลิตรถยนต์ รถบรรทุก โรโบแท็กซี่ และรถรับส่งชั้นนำตั้งแต่ปี 2565 DRIVE Orin นำเสนอ TOPS สูงสุด 254 TOPS และสามารถปรับขนาดได้เพื่อรองรับความสามารถในการขับขี่ด้วยตนเองระดับ 2+ ถึงระดับ 5