Friday, March 29, 2024
metaverseNEWSTechnology

เปิดตัว TMX Metaverse นวัตกรรมการออกแบบโซลูชันของอุตสาหกรรม

เปิดตัว ทีเอ็มเอ็กซ์ เมตาเวิร์ส (TMX Metaverse) นวัตกรรมการออกแบบโซลูชันของอุตสาหกรรมในเอเชีย สำหรับการออกแบบซัพพลายเชนด้วยเทคโนโลยีเสมือนจริง

ทีเอ็มเอ็กซ์ โกลบอล บริษัทที่ปรึกษาด้านการทรานส์ฟอร์เมชันซัพพลายเชนแบบครบวงจร เปิดตัว ทีเอ็มเอ็กซ์ เมตาเวิร์ส (TMX Metaverse) นวัตกรรมการออกแบบโซลูชันของอุตสาหกรรมในเอเชีย สำหรับการออกแบบซัพพลายเชนด้วยเทคโนโลยีเสมือนจริง เพื่อรองรับความต้องการด้านการเพิ่มประสิทธิภาพซัพพลายเชนที่เพิ่มขึ้นทั้งในประเทศและในภูมิภาค

TMX_Metaverse เป็นเครื่องมือช่วยให้ภาคธุรกิจสามารถเข้าถึงโลกเสมือนจริงโดยการจำลองแผนผังพื้นที่ในอัตราส่วนที่เท่ากับพื้นที่และผู้ใช้งานจริงตลอดกระบวนการออกแบบ การใช้ประโยชน์จากความสามารถของเทคโนโลยีเมตาเวิร์สทำให้เราสามารถเปลี่ยนข้อมูลการออกแบบที่เป็นดิจิทัลให้เป็นโลกเสมือนจริง

ที่จะช่วยให้ธุรกิจและ TMX สามารถร่วมกันกำหนดองค์ประกอบต่างๆ ในการออกแบบ ได้แบบเรียลไทม์ ทำให้สามารถบริหารต้นทุนที่ประเมินค่าได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดโครงการ

นอกจากนี้ ความสามารถในการออกแบบด้วยเมตาเวิร์ส ยังช่วยให้ธุรกิจสามารถตัดสินใจได้แม่นยำและมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ตั้งแต่ในช่วงกระบวนการกำหนดกรอบแนวคิด โดยในบางโครงการสามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้สูงถึง 50%

หนึ่งในฟีเจอร์หลักของแพลตฟอร์ม TMX_Metaverse คือ Campus ที่นำเสนอเทคโนโลยีหุ่นยนต์และระบบซัพพลายเชนอัตโนมัติที่ทันสมัยที่สุดในปัจจุบัน โดยช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ที่สมจริงในการเรียนรู้ และทำความเข้าใจว่าเทคโนโลยีเหล่านี้ สามารถนำมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและปรับปรุงกระบวนการทำงานด้านซัพพลายเชนอย่างไรบ้าง

ทราวิส เออร์ริดจ์ ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TMX Global

ทราวิส เออร์ริดจ์ ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TMX Global กล่าวว่า “ก่อนหน้านี้ บริษัทได้มีการเปิดตัวโซลูชันเมตาเวิร์สครั้งแรกที่ออสเตรเลียซึ่งประสบความสำเร็จอย่างดี

สำหรับการเปิดตัวโซลูชันในครั้งนี้เป็นผลมาจากการที่ภาคธุรกิจให้ความสำคัญต่อภูมิภาคนี้เพิ่มขึ้นเป็นลำดับ และในขณะเดียวกัน อุตสาหกรรมซัพพลายเชนในเอเชียกำลังเผชิญแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นจากผู้บริโภค ผู้บริหารธุรกิจ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด”

ทราวิส ยังกล่าวด้วยว่า “เราพบว่าปัญหาการหยุดชะงักของระบบซัพพลายเชน (Supply chain disruptions) อย่างต่อเนื่องได้สร้างความสูญเสียให้เศรษฐกิจอาเซียนถึง 1.7 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 5.86 แสนล้านบาทต่อปี

เนื่องจากภูมิภาคนี้มีบทบาทในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับซัพพลายเชนโลกท่ามกลางความผันผวนในภูมิภาคอื่นๆ นอกจากนี้ ธุรกิจต่างๆ ในเอเชียกำลังพิจารณาหาแนวทางเพื่อลดผลกระทบจากการหยุดชะงักดังกล่าว และทำให้มั่นใจว่าซัพพลายเชนมีความสามารถในการปรับตัวรับความเปลี่ยนแปลงได้เป็นอย่างดี”

“การออกแบบซัพพลายเชนที่มีประสิทธิผลและสามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงได้นั้น มีหัวใจสำคัญอยู่ที่การมองเห็นภาพการทำงานล่วงหน้า สิ่งนี้เป็นปัจจัยที่จุดประกายให้เราริเริ่มการนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ TMX_Metaverse ไม่เพียงทำให้ได้เกิดประสบการณ์ตรงจากแนวคิดและการออกแบบพื้นที่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเท่านั้น แต่ยังทลายพรมแดนให้ธุรกิจสามารถทำงานร่วมกันได้แบบเรียลไทม์ตลอดกระบวนการออกแบบ ทำให้มั่นใจว่าผลลัพธ์ที่ได้ตรงตามความต้องการด้านซัพพลายเชน”

“อาเซียนมอบโอกาสในการเติบโตที่โดดเด่นในทุกด้าน และ TMX จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการเติบโตของภูมิภาคนี้ด้วยการสร้างเสริมความคล่องตัวและความสามารถในการปรับตัวของซัพพลายเชนในภูมิภาค” ทราวิส กล่าวเสริม

TMX Metaverse

สำหรับเหตุผลที่ TMX Global เลือกเปิดตัว TMX_Metaverse ในประเทศไทย ดีน โจนส์ กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชีย กล่าวว่า “ประเทศไทยมีบทบาทสำคัญในการดำเนินกลยุทธ์ของเราในเอเชีย เนื่องจากเป็นตลาดซัพพลายเชนที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง ในช่วงไม่กี่ปีมานี้”

“ไทยมีการเติบโตของตลาดอีคอมเมิร์ซซึ่งดึงดูดการลงทุนในคลังสินค้าและโลจิสติกส์ นอกจากนี้ ภาครัฐยังมีการดำเนินโครงการระดับประเทศเพื่อเปลี่ยนผ่านประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ของภูมิภาค ครอบคลุมการคมนาคมขนส่งภาคพื้นดิน อากาศ และทางทะเลในอาเซียน”

“การเปิดตัว TMX_Metaverse ในเอเชีย ที่จัดขึ้นใน ประเทศไทยในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของเราที่มีต่อประเทศไทย ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงและพร้อมเติบโตต่อไป สอดคล้องกับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของเราในเอเชีย ในการต่อยอดจากสิ่งที่เราได้เรียนรู้จากอุตสาหกรรมซัพพลายเชนที่ผนวกกับโซลูชันส์ดิจิทัล ดังนั้นเราจึงเลือกประเทศไทยเป็นหมุดหมายสำคัญในการดำเนินธุรกิจเพื่อความสำเร็จในระดับสากล” ดีน ทิ้งท้าย

Leave a Response