Friday, March 29, 2024
ArticlesNetworkingOperation Technology

ความท้าทายของการบริหารเครือข่าย กับการเปลี่ยนแปลงยุคดิจิทัล

IoT

เปิดเผยข้อมูลถึงความท้าทายกับการบริหารจัดการและดูแลเครือข่าย บนเปลี่ยนแปลงยุคดิจิทัล ซึ่งมีด้วยกันสองประเด็นสำคัญคือ การบริหารจัดการและการตรวจสอบทางไซเบอร์บนเครือข่าย ที่องค์กรและกลุ่มอุตสาหกรรมต้องให้ความสำคัญ

งค์กรธุรกิจทั้งขนาดเล็กและใหญ่กำลังเผชิญการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล รวมทั้งการบูรณาการเทคโนโลยีดิจิทัลในส่วนงานขององค์กร ที่จะส่งผลก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงวิธีการดำเนินธุรกิจ ซึ่งล้วนเป็นความท้าทายขององค์กร

โดยเฉพาะผู้ประกอบธุรกิจในกลุ่มอุตสาหกรรม ที่กำลังก้าวสู่ยุค 4.0 มีความจำเป็นต้องอาศัยเครือข่ายทั้งในรูปแบบบนไซเบอร์และ IoT (Internet of Things) ทําให้องค์กรต่างๆ ต้องพึ่งพาระบบเครือข่ายและระบบอัตโนมัติมากขึ้น เพื่อเพิ่มขีดความสามารถขององค์กร บนความซับซ้อนเนื่องจากการบรรจบกันของเทคโนโลยีใหม่ ดังนั้นการป้องกันการหยุดชะงักของบริการจึงมีความสําคัญต่อการรักษาประสิทธิภาพการทํางานขององค์กร

ธุรกิจจํานวนมาก ล้วนปฏิเสธผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลและอุตสาหกรรม 4.0 ต่อการดําเนินธุรกิจ ต่างต้องการค้นหาความสามารถ ความเชี่ยวชาญที่จําเป็นในการปรับให้เข้ากับกรณีการใช้งานเฉพาะของตัวเอง และกําลังมองหาความเปลี่ยนแปลงโดยนําระบบที่สามารถช่วยในการดําเนินงานมาใช้

HwaCom Systems Inc. บริษัทผู้พัฒนาโซลูชันเทคโนโลยีการสื่อสารข้อมูลครบวงจร เปิดเผยข้อมูลถึงความท้าทายกับการเปลี่ยนแปลงยุคดิจิทัล ซึ่งมีด้วยกันสองประเด็นสำคัญคือ การบริหารจัดการ และการตรวจสอบทางไซเบอร์บนเครือข่าย

การจัดการเครือข่าย

การมีระบบการตรวจสอบความปลอดภัยของเครือข่ายที่เป็นระบบอัตโนมัติและเครื่องมืออื่นๆ ที่โฮสต์หรือระบบคลาวด์ การจัดการเครือข่ายเป็นการกระทําของการจัดระเบียบการรับส่งข้อมูลเครือข่ายและการเคลื่อนย้ายข้อมูลทั่วทั้งระบบนิเวศขององค์กร

ดังนั้นการส่งมอบเครือข่ายที่ปลอดภัยเชื่อถือได้และมีประสิทธิภาพสูงให้กับผู้ใช้ปลายทางรวมถึงผู้ใช้ทางธุรกิจภายในบริษัทและลูกค้าปลายทางเป็นเป้าหมายหลักของการจัดการเครือข่าย

ทั้งนี้การจัดการเครือข่ายเป็นสิ่งสําคัญสําหรับธุรกิจ และในช่วงวิกฤต COVID-19 การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล และอุตสาหกรรม 4.0 ทุกองค์กรให้ความสําคัญของเครือข่ายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

อย่างไรก็ตามการใช้ระบบการจัดการเครือข่ายที่เหมาะสมนั้นสําคัญยิ่งกว่า ด้วยระบบการจัดการเครือข่ายที่ไม่เพียงพอธุรกิจต่างๆ จึงต้องเสียแรงงานคนหลายชั่วโมง การสูญเสียเวลาเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงความไร้ประสิทธิภาพ กรณีศึกษา จากองค์กรหนึ่งมีอุปกรณ์และสายเคเบิลจํานวนมากในหลายพื้นที่

ผู้ดูแลระบบจะต้องค้นหาข้อผิดพลาดด้วยตนเองเมื่อเกิดขึ้น หลังจากค้นหาสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาผู้ดูแลระบบยังคงต้องใช้เวลาในการอัปเดตเอกสารที่เกี่ยวข้อง กรณีนี้เมื่อ ตัวบ่งชี้ในระบบการจัดการเครือข่ายไม่แม่นยํา ผู้ดูแลระบบไม่สามารถเข้าใจสถานการณ์โดยรวมได้ทันที และขาดกลไกการแจ้งเตือนเชิงรุกการตอบสนองจึงไม่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้สูญเสียและธุรกิจหยุดชะงักได้

การตรวจสอบทางไซเบอร์: การจัดการเครือข่ายเชิงรุก เพิ่มประสิทธิภาพกับธุรกิจ

สำหรับระบบการจัดการเครือข่ายอัจฉริยะที่มีประสิทธิภาพ จะสามารถช่วยรับมือกับปัญหา การตรวจสอบทางไซเบอร์ ด้วยฟังก์ชันการจัดการเครือข่าย 5 ฟังก์ชัน ดังนี้

  1. การจัดการข้อผิดพลาด: ซึ่งรวมถึงคุณสมบัติต่างๆ เช่น การตรวจจับอัตโนมัติ คําเตือนอัตโนมัติ รายงานบันทึก และการติดตามปัญหา
  2. การจัดการการกําหนดค่า: ผู้ดูแลระบบสามารถตั้งค่าลักษณะการทํางานบนพอร์ตหรืออุปกรณ์ เช่น พอร์ตสวิตช์ที่เปิดใช้งาน/ปิดใช้งาน และที่อยู่ Mac/IP ที่เลือกที่ถูกบล็อกได้ การกําหนดค่าอุปกรณ์จะได้รับ การสํารองข้อมูลอัตโนมัติ และสามารถส่งสคริปต์ไปยังอุปกรณ์หลายเครื่องได้
  3. การจัดการบัญชี: สถิติและการรับส่งข้อมูลของ IP และระบบเฉพาะ สามารถผลิตเพื่อวัตถุประสงค์ในการเรียกเก็บเงินหรือการขยาย
  4. การจัดการประสิทธิภาพ: การวัดประสิทธิภาพเป็นสิ่งสําคัญสําหรับธุรกิจที่จะเติบโต ระบบการตรวจสอบเครือข่ายที่ดี จะช่วยให้สามารถตรวจสอบการวัดทุกประเภทบนอุปกรณ์เช่นการรับส่งข้อมูล CPU, RAM, Jitter, MOS, RTT, CRC และอื่นๆ
  5. การจัดการความปลอดภัย: คุณสมบัติสําหรับการจัดการและการอนุญาตผู้ใช้การควบคุมทรัพยากรรวมถึงการวิเคราะห์รายงานบันทึกของไฟร์วอลล์ คือสิ่งจำเป็นของ ระบบการตรวจสอบเครือข่าย

การมีระบบการจัดการเครือข่ายอัจฉริยะที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถมอนิเตอร์ได้โดยอัตโนมัติ เช่น การตรวจจับอุปกรณ์เครือข่ายอัตโนมัติการสร้างรายการตรวจสอบอัตโนมัติการแจ้งเตือนสิ่งกีดขวางอัตโนมัติและการจัดทํารายงานอัตโนมัติ

ซึ่งกระบวนการอัตโนมัติเหล่านี้ช่วยลดการใช้แรงงานคนของพนักงานช่วยลดภาระงานและความต้องการพนักงานของผู้ดูแลระบบไอทีลงอย่างมากเพื่อให้พวกเขาสามารถไปยังงานที่สําคัญกว่าเช่นการมุ่งเน้นที่วิธีที่ดีที่สุดในการขยายธุรกิจ

นอกจากนี้ระบบการจัดการเครือข่ายอัจฉริยะสามารถแจ้งปัญหาและอุปสรรคได้ทันทีเพื่อให้ผู้ดูแลระบบสามารถเริ่มจัดการกับมันได้โดยเร็วที่สุด ระบบที่สามารถให้ข้อมูลที่ครอบคลุมรวมถึงตัวบ่งชี้ประสิทธิภาพต่างๆ เช่น สถานะฮาร์ดแวร์ Syslog และอื่นๆ ทำให้ผู้ดูแลระบบสามารถทําการวินิจฉัยได้เร็วขึ้นในบรรทัดแรกและขจัดสิ่งกีดขวางหรือแจ้งผู้ดูแลระดับที่สองเพื่อดําเนินการอย่างรวดเร็วเพื่อลดเวลาหยุดทํางาน

พร้อมกันนี้ ระบบการตรวจสอบเครือข่าย ต้องสามารถตรวจสอบอุปกรณ์อุตสาหกรรม ซึ่งการทําให้องค์กรเป็นดิจิทัล การบรรจบกันของระบบ IT และ OT ให้มุมมองที่เป็นหนึ่งเดียวของโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมด จากเครื่องจักร, PLC, ตัวควบคุมลอจิกที่ตั้งโปรแกรมได้, และอุปกรณ์ IoT

การตรวจสอบ โปรโตคอลหรือรูปแบบการสื่อสารข้อมูลดิจิทัลที่เรียกว่า Modbus ในสภาพแวดล้อมอุตสาหกรรม ซึ่ง Modbus มีบทบาทในสภาพแวดล้อมทางอุตสาหกรรมและช่วยให้พนักงานสามารถตรวจสอบอุปกรณ์อีเธอร์เน็ตอุตสาหกรรมเกตเวย์อุตสาหกรรมอุปกรณ์ OPC UA อุปกรณ์ไอทีและอื่นๆ

รวมถึงระบบการตรวจสอบแบบเรียลไทม์ของการใช้ทราฟิกเครือข่ายและแผนภูมิการรับส่งข้อมูลทําให้ระบบมีความสามารถในการตรวจจับปัญหาที่ใช้งานอยู่และตั้งแต่เนิ่นๆ เป็นฟังก์ชันหลักๆ ที่ ระบบการตรวจสอบเครือข่ายอัจฉริยะต้องมีความสามารถเหล่านี้

Featured Image: Image by senivpetro on Freepik

Leave a Response