Friday, April 19, 2024
CloudDigital TransformationNEWS

INET ปักหมุดปี 66 รุกธุรกิจ Cloud Service หวังดันผลงานโต 15%

INET ทุบสถิติใหม่กำไรปี 65 พุ่งแตะ 201.76 ลบ. เพิ่มขึ้น 24% เคาะจ่ายปันผลเงินสด 0.1061 บาท/หุ้น พ่วงแจก INET-W2 อัตรา 5:1 ปักหมุดปี 66 รุกธุรกิจ Cloud Service หนุนผลงานโต 15% นิวไฮต่อเนื่อง

บมจ.อินเทอร์เน็ตประเทศไทย (INET) โชว์ผลงานสุดอลังการ ปี 65 กำไรสุทธิ 201.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% สร้างสถิติสูงสุดใหม่ อานิสงส์รายได้จากการขายและให้บริการเพิ่มมากขึ้น บริหารต้นทุนได้ดี บอร์ดอนุมัติจ่ายปันผลเป็นเงินสด 0.1061 บาท/หุ้น พ่วงแจก INET-W2 อัตรา 5:1 ราคาใช้สิทธิ 4.5 บาท/หุ้น

ฟากผู้บริหาร “มรกต  กุลธรรมโยธิน” เปิดแผนปี 66 รุกธุรกิจ Cloud Service เต็มกำลัง พร้อมบุกตลาด Local  Platform ในการทำ Digital Transformation ให้อีกหลายธุรกิจ หวังผลักดันผลงานในปีนี้เติบโต 15% ออลไทม์ไฮต่อเนื่อง

มรกต  กุลธรรมโยธิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) (INET)

มรกต  กุลธรรมโยธิน  กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) (INET) ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีทีแบบครบวงจร เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในปี 2565 (สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2565) มีกำไรสุทธิ 201.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% เทียบกับปีก่อนมีกำไรสุทธิ 162.96 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดใหม่นับตั้งแต่จัดตั้งบริษัทฯ และมีรายได้จากการขายและให้บริการ 2,044.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% เทียบกับปีก่อน มีรายได้ 1,865.85 ล้านบาท

ปัจจัยที่สนับสนุนให้มีรายได้และกำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้จากการขายและให้บริการ Cloud Service และ Digital Platform Service  รวมทั้งต้นทุนที่ลดลง

“ผลประกอบการในปี 65 ที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ และสร้างสถิติสูงสุดใหม่ เนื่องจาก INET มีความสามารถในการให้บริการลูกค้าอย่างมีคุณภาพ โดยมุ่งเน้นการให้บริการในกลุ่ม Cloud Service และ Digital Platform Service

โดยลดการให้บริการในส่วนของบริการ Internet Access ที่มีต้นทุนสูง รวมถึงเป็นการลงทุนกับกลุ่มบริษัทในเครือ เพื่อพัฒนา Innovation R&D Platform ทดแทนการใช้บริการจากผู้ให้บริการรายอื่น และมีการเติบโตของส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในบริษัทร่วมทุนที่เพิ่มขึ้น”

ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 2/2566 เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา มีมติอนุมัติการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ ครั้งที่ 2 (INET-W2) จำนวนไม่เกิน 100,008,315 หน่วย (ใบสำคัญแสดงสิทธิ ครั้งที่ 2 (INET-W2)) ซึ่งจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering)

โดยไม่คิดมูลค่า ในอัตรา 5 หุ้นเดิมต่อ 1 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 หน่วยต่อหุ้นสามัญ 1 หุ้น ที่ราคาการใช้สิทธิ 4.5 บาท ต่อ 1 หุ้น โดย INET-W2  ดังกล่าวมีอายุ 6 เดือน 10 วัน นับจากวันที่ออก INET-W2  และกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นมีสิทธิได้รับการจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิ ครั้งที่ 2 (INET-W2) (Record Date) ในวันที่ 3 พฤษภาคม 2566

พร้อมทั้ง ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการประจำปี 2565 ให้แก่ผู้ถือหุ้นเป็นเงินสด ในอัตราหุ้นละ 0.106100000005 บาท โดยคิดจากจำนวนหุ้น 500,041,575 หุ้น

รวมเป็นเงินปันผลจ่ายทั้งสิ้น 53,054,411.11 บาท กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นเพื่อสิทธิในการรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 3 พฤษภาคม 2566 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 22 พฤษภาคม 2566 ทั้งนี้ การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวขึ้นอยู่กับการอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทในวันที่ 24 เมษายน 2566

กรรมการผู้จัดการ INET กล่าวถึงแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2566 บริษัทฯ มุ่งเน้นการลงทุนใน Platform เพื่อต่อยอดการขยายการใช้งานของ Cloud service โดยมีวิสัยทัศน์เป็นบริษัทที่เป็นผู้นำด้านการส่งเสริมและบ่มเพาะนวัตกรรมภายในประเทศ ให้เกิดความสามารถในการแข่งขันและยั่งยืน

นอกจากนี้ ยังมุ่งเน้นการสร้าง High Technology Real Estate/Infrastructure ที่จำเป็นต่อการขับเคลื่อนประเทศ เข้าสู่ยุค 4.0 เพื่อลดการพึ่งพาต่างประเทศ รวมถึงการลงทุนและสนับสนุนนวัตกรรมผ่านผู้พัฒนาในประเทศ โดยคงสัดส่วนความเป็นเจ้าของของผู้พัฒนาให้ไม่น้อยกว่า 30% เพื่อให้เกิดความยั่งยืนและเชื่อมโยงงานวิจัยและพัฒนาเข้าสู่ภาคธุรกิจในปัจจุบันและอนาคต

“ในปี 2565 ที่ผ่านมา INET ได้มีการปรับเปลี่ยนจากผู้ให้บริการ Cloud Service Provider เป็น Trusted Platform Service Provider โดยดำเนินตามแผนยุทธศาสตร์ของบริษัทสู่การเป็นยุค Digital Transformation เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงขององค์กรต่างๆ ภายหลังที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลาย ภาคธุรกิจได้เริ่มกลับมาดำเนินกิจการและลงทุนเพิ่มมากขึ้น

เพื่อปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัล (Digital  Transformation) ผ่านการลงทุนด้านเทคโนโลยีคลาวด์ (Cloud) การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security) เทคโนโลยีและการประยุกต์ใช้แพลตฟอร์มดิจิทัล (Platform) เพื่อปรับปรุงการทำงานในองค์กรให้มีประสิทธิภาพในการทำงาน

โดยปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลให้มีการใช้งาน Cloud มากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับการเติบโตของตลาด Cloud ทั่วโลก นอกจากนี้ ในการบุกตลาด Local Platform ยังช่วยสร้างความสามารถในการแข่งขันกับคู่แข่งในตลาด Cloud ทั้งคู่แข่งในประเทศและต่างประเทศ จึงมั่นใจว่า ปัจจัยเหล่านี้ จะเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนให้ผลงานในปีนี้เติบโตได้ที่ระดับ 15% จากปีก่อน สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง” มรกตกล่าวในที่สุด