Friday, April 19, 2024
NEWSTechnology

หัวเว่ย เปิดตัว 3 โซลูชันเพื่อโอบรับ F5.5G และก้าวสู่ 10G ทุกที่

FTTR OptiXstar

หัวเว่ย เปิดโซลูชันการสื่อสาร เครือข่ายไฟเบอร์ที่ช่วยเรื่องการลดการใช้พลังงาน สนับสนุนการพัฒนาคุณภาพสูงของทุกบริการ พร้อมทั้งยังสนับสนุนการพัฒนาอย่างราบรื่นสู่เครือข่าย F5.5G และมุ่งสู่ 10 กิกะบิตในทุกที่

หัวเว่ย เปิดตัว 3 โซลูชันในงาน โมบายล์ เวิลด์ คองเกรส ประจำปี 2566 (Mobile World Congress หรือ MWC 2023) ได้แก่ Huawei FTTR OptiXstar F30, 50G PON และ Huawei OptiX Alps-WDM โดยเป็นโซลูชันที่ออกแบบเพื่อการใช้งานในบ้าน เข้าถึงอัลตราบรอดแบนด์ และเครือข่ายในเมือง

โซลูชันเหล่านี้ช่วยให้ผู้ดำเนินการสร้างเครือข่ายนำแสงที่ช่วยเรื่องการลดการใช้พลังงาน เพื่อสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพสูงของทุกบริการ พร้อมทั้งยังสนับสนุนการพัฒนาอย่างราบรื่นสู่เครือข่าย F5.5G และมุ่งสู่ 10 กิกะบิตในทุกที่ (10Gbps Everywhere)

โซลูชันสำหรับการใช้งานในบ้าน (all-optical home)

Huawei FTTR OptiXstar F30 เป็นผลิตภัณฑ์เครือข่ายไฟเบอร์แบบถึงห้องพัก (Fiber to The Room) ตัวแรกของอุตสาหกรรม ที่ทำงานบนสถาปัตยกรรมเครือข่ายบริเวณกว้าง C-WAN เพื่อการยกระดับในหกด้านสำคัญ ดังนี้

  • ความสวยงาม: มาในสี่สีและสามโหมดการติดตั้ง ทำให้ผสานเข้ากับดีไซน์บ้านสมัยใหม่ได้อย่างลงตัวสมบูรณ์แบบ
  • ความเร็ว: การเร่งฮาร์ดแวร์และการเพิ่มประสิทธิภาพอัลกอริทึมทำให้มั่นใจได้ในการเชื่อมต่อ 2000 เมกะบิตต่อวินาทีในทั่วทั้งบ้าน
  • ความครอบคลุม: เสาสัญญาณอัจฉริยะแบบมัลติบีม (multi-beam) เพิ่มการครอบคลุมราว 30%
  • บริการข้ามเครือข่าย (โรมมิง): นวัตกรรมอัลกอริทึมเครือข่ายประสานบริการข้ามเครือข่ายไร้รอยต่อ (SRCN) ของหัวเว่ยเอื้อให้สามารถมีโรมมิงที่ไม่รู้สึกถึงรอยต่อในทั่วทั้งบ้าน
  • การทำงานพร้อมกัน: การทำงานร่วมกันระหว่างหลายอุปกรณ์ช่วยลดการรบกวนไวไฟและทำให้อุปกรณ์จำนวนสูงสุด 128 เครื่องสามารถเชื่อมต่อได้พร้อมกัน
  • บริการ: สมรรถนะบริการ 5A ครบวงจรระดับพรีเมียมช่วยให้ผู้ดำเนินการสามารถส่งมอบบริการการติดตั้ง การบำรุงรักษา และการดำเนินการระดับพรีเมียม หัวเว่ย เอฟทีทีอาร์ อ็อปติกซ์สตาร์ เอฟ30 ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้ชีวิตดิจิทัล และช่วยให้ผู้ดำเนินการยกระดับความสามารถในการแข่งขันของบรอดแบนด์ ผลิตภัณฑ์นี้ได้เปิดตลาดมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์
โซลูชันอัลตราบรอดแบนด์ (ultra-broadband access)

โซลูชันเชิงพาณิชย์ 50G PON หรือสถาปัตยกรรมเครือข่ายที่นำการใช้สายเคเบิลไฟเบอร์ ความเร็ว 50G ที่มีสถาปัตยกรรมแบบ passive (ไม่มีพลังงาน) ตัวแรกของอุตสาหกรรม ที่มีฟังก์ชันการใช้งานดังต่อไปนี้

  • ให้เครือข่ายเชิงแสงแบบไม่ใช้พลังงาน 50 กิกะบิตที่สมมาตรและความหนาแน่นสูงเพื่อให้สอดรับกับความต้องการแบนด์วิดธ์การส่งถ่ายข้อมูลที่สูงขึ้นในสภาวการณ์ใช้งานในอนาคตในสถานศึกษา การเชื่อมต่อระหว่างกันเชิงอุตสาหกรรม องค์กรธุรกิจ และบ้าน
  • ใช้นวัตกรรมตัวขยายทรงเรียวและโครงสร้างการสะท้อนซูเปอร์แลททิซ (superlattice) เพื่อเพิ่มขนาดการจัดสรรกำลังนำแสง (optical power budget) ราว 25% และทำให้ติดตั้งเครือข่ายการกระจายแสง (ODN) ในเครือข่ายที่มีอยู่ได้โดยไม่ต้องเดินสายใหม่
  • บูรณาการเครือข่ายเชิงแสงแบบพาสซีฟชนิดกิกะบิต (GPON), เครือข่ายเชิงแสงแบบพาสซีฟ 10 กิกะบิต และเครือข่ายเชิงแสงแบบพาสซีฟ 50 กิกะบิตเข้าด้วยกันในพอร์ตเดียว ทำให้สามารถดำเนินการปรับปรุงอัปเกรดบริการตามสั่ง ประกอบกับลดต้นทุนการลงทุนสำหรับผู้ดำเนินการ

ในฐานะเทคโนโลยีเครือข่ายเชิงแสงแบบพาสซีฟรุ่นใหม่ตามนิยามของไอทียู-ที (ITU-T) 50G PON นี้ สนับสนุน 10 กิกะบิตต่อวินาทีในทุกที่อย่างมีประสิทธิผล โซลูชันนวัตกรรม 50G PON ของหัวเว่ยมอบเส้นทางการพัฒนาพร้อมต้นทุนการเป็นเจ้าของโดยรวม (TCO) ที่คุ้มค่าสำหรับผู้ดำเนินการในการอัปเกรดเครือข่ายเป็น 10 กิกะบิต

โซลูชันเครือข่ายสำหรับเมือง (all-optical metro network)

โซลูชัน Huawei OptiX Alps-WDM มาพร้อมสี่สมรรถนะ ดังนี้

  • คล่องตัว: สมรรถนะนี้ขยายการเชื่อมต่อนำแสงแบบข้าม (OXC) ไปยังสุดขอบของเครือข่ายและเอื้อต่อการเชื่อมต่อนำแสงแบบส่งสัญญาณสเต็ปเดียว (one-hop) ประกอบกับการดูแลรักษาที่ยืดหยุ่นในทั้งเครือข่าย จึงยกระดับสมรรถนะการเชื่อมต่อเครือข่าย และย่นระยะเวลาการให้บริการจากหลักเดือนเป็นหลักนาที
  • ระยะยาว: นวัตกรรมโมดูลแบบอาพันธ์ (coherent module) 100 กิกะบิตช่วยย้ายเครือข่ายส่งข้อมูลด้วยแสง (OTN) 100 กิกะบิตไปสู่การนำแสงแบบอาพันธ์ (CO) ซึ่งช่วยเพิ่มแบนด์วิดธ์การส่งถ่ายข้อมูล 10 เท่าและลดต้นทุนได้อย่างมาก
  • รวมเข้าด้วยกัน: ด้วยการใช้เทคโนโลยีสวิตช์เลือกความยาวคลื่น (WSS) เพื่อผนวกรวมรางย่อยๆ (subrack) เป็นโมดูลเดียว สถาปัตยกรรมนี้ช่วยให้วงจรสื่อสัญญาณการเข้าถึงเก้าวงจรสามารถใช้ความยาวคลื่น 96 ช่วงร่วมกัน จึงเพิ่มประสิทธิภาพของความยาวคลื่นและลดการใช้พื้นที่ของอุปกรณ์ได้อย่างมาก
  • เรียบง่าย: สมรรถนะประการนี้แปะป้ายการนำแสงดิจิทัลให้กับความยาวคลื่น พร้อมใช้หน่วยบริหารจัดการและควบคุมแบบรวมศูนย์ เพื่อให้วางแผน ก่อสร้าง และบำรุงรักษาได้อัตโนมัติ จึงช่วยลดค่าใช้จ่ายการดำเนินการ (OPEX)

ด้วยสมรรถนะทั้งสี่ด้านนี้ โซลูชันเครือข่ายมัลติเพล็กซ์แบ่งความยาวคลื่น Huawei OptiX Alps-WDM ของหัวเว่ย สร้างสถาปัตยกรรมที่เรียบง่ายและมอบประสบการณ์ขั้นสุดยอด สมรรถนะเหล่านี้ช่วยสร้างนิยามใหม่ของเทคโนโลยีไฟเบอร์ที่ลดการใช้พลังงาน สอดรับกับความต้องการของผู้ดำเนินการในการพัฒนาบริการประเภทธุรกิจไปยังผู้บริโภค (B2C), ธุรกิจไปยังมนุษย์ (B2H) และระหว่างธุรกิจ (B2B) ตลอดจนจะสนับสนุนการพัฒนาบริการในทศวรรษข้างหน้านี้

ริชาร์ด จิน ประธานฝ่ายไลน์ผลิตภัณฑ์ธุรกิจนำแสงของหัวเว่ย กล่าวว่า “จาก F5G สู่ F5.5G ยิ่งกว่าวางแผนอนาคต เราสร้างอนาคต วันนี้ การเชื่อมต่อกิกะบิตกำลังมีความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในทั่วโลก เมื่อมองแนวโน้มในปี 2568 แล้ว ความต้องการเครือข่ายที่หลากหลายจะต้องใช้การเชื่อมต่อ 10 กิกะบิตที่มีอยู่ในทุกที่”

“ทุกอุตสาหกรรมจำเป็นต้องทำงานร่วมกันเพื่อโอบรับ F5.5G และก้าวสู่ 10 กิกะบิตต่อวินาทีในทุกที่ หัวเว่ยจะร่วมมือกับผู้ดำเนินการระดับโลกเพื่อเร่งการอัปเกรดเครือข่ายและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ซึ่งจะช่วยผู้ดำเนินการในการขยายพรมแดนธุรกิจของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง และการคว้าโอกาสด้วยสุดยอดประสบการณ์ผู้ใช้เพื่อเป็นผู้นำอนาคต”