Saturday, April 20, 2024
ArticlesCase StudyOperation TechnologyTechnology

กรณีศึกษา การใช้ โคบอท ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต 50 เปอร์เซ็นต์ภายในเวลา 3 เดือน

โคบอท

กรณีศึกษาการใช้งาน หุ่นยนต์ร่วมปฏิบัติงานหรือ โคบอท (Cobot) ช่วยเพิ่มการผลิตให้ เซ่งเฮง เอ็นจิเนียริ่ง ผู้ผลิตรายใหญ่ของสิงคโปร์ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ภายในเวลา 3 เดือน

หุ่นยนต์ร่วมปฏิบัติงานหรือ โคบอท (Cobot) กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว กลายเป็นอุปกรณ์ที่เข้ามาช่วยลดปัญหาการหยุดกระบวนการผลิตภายในโรงงาน และช่วยบรรเทาปัญหาการขาดแคลนแรงงานจำนวนมาก

ความท้าทายเหล่านี้ได้เป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้บรรดาผู้ผลิตต้องหันมาใช้ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ นับตั้งแต่เริ่มมีการระบาดใหญ่ของ COVID-19

ขอนำกรณีศึกษาการใช้งาน หุ่นยนต์ร่วมปฏิบัติงานหรือ โคบอท (Cobot) ช่วยเพิ่มการผลิตให้ เซ่งเฮง เอ็นจิเนียริ่ง ผู้ผลิตรายใหญ่ของสิงคโปร์ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ภายในเวลา 3 เดือน

สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาที่โลกเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ด้วยการนำโคบอทสองตัวใช้ในกระบวนการผลิตได้อย่างประสบความสำเร็จ

โรคระบาดก่อให้เกิดการขาดแคลนแรงงานอย่างมหาศาล

สถานการณ์การเกิดโรคระบาดใหญ่ของ COVID-19 ได้สร้างความท้าทายอย่างมากให้กับอุตสาหกรรมการผลิต การปิดพรมแดน การปิดโรงงาน และข้อจำกัดในการเคลื่อนย้าย ล้วนส่งผลให้การปฏิบัติงานของบรรดาผู้ผลิตในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกต้องหยุดชะงัก

นอกจากจะต้องเผชิญกับการหยุดกระบวนการผลิตภายในโรงงานแล้ว พวกเขายังต้องพบกับปัญหาการขาดแคลนแรงงานจำนวนมากนับตั้งแต่เริ่มมีการแพร่ระบาดใหญ่ดังกล่าว

ความท้าทายเหล่านี้ได้เป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้บรรดาผู้ผลิตต้องหันมาใช้ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ เพื่อให้แน่ใจว่าธุรกิจจะสามารถดำเนินต่อไปในช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มีการรายงานว่าเอเชียยังคงเป็นตลาดหุ่นยนต์อุตสาหกรรมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งจากข้อมูลของ สหพันธ์หุ่นยนต์นานาชาติ (International Federation of Robotics) พบว่าได้มีการส่งมอบหุ่นยนต์ไปแล้วทั้งหมด 354,500 ชุดในปี พ.ศ. 2564 ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 33% เมื่อเทียบกับปี พ.ศ. 2563

โคบอท
Preliminary annual installations 2022 compared to 2020 by region – source: International Federation of Robotics
ความท้าทายที่ เซ่งเฮง เอ็นจิเนียริ่ง ต้องเผชิญ

บริษัท เซ่งเฮง เอ็นจิเนียริ่ง เป็นผู้ผลิตรุ่นที่สามในประเทศสิงคโปร์ซึ่งมีประสบการณ์ยาวนานถึง 70 ปี โดยเป็นผู้ให้บริการจัดหาผลิตภัณฑ์เพียงแหล่งเดียวสำหรับตัวยึด การตัดเฉือนแบบครบวงจร และผลิตภัณฑ์เคลือบที่ทนต่อการกัดกร่อน

ในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดใหญ่ บริษัท เซ่งเฮง เอ็นจิเนียริ่ง ต้องเผชิญกับปัญหาการหยุดชะงักในการปฏิบัติงานของพนักงานอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน

สิ่งนี้ได้กระตุ้นให้บริษัทต้องพิจารณาปรับฟังก์ชันการทำงานบางอย่างให้กลายเป็นระบบอัตโนมัติเพื่อลดปัญหาคอขวดในกระบวนการผลิตอันสืบเนื่องมาจากการขาดแคลนแรงงานและความไม่แน่นอนของสถานการณ์ ณ ขณะนั้น

 แต่ด้วยปัญหาจากการขาดแคลนกำลังคน จึงทำให้ประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตต้องลดลงโดยเฉพาะในส่วนการสลักข้อความ ในฐานะที่เป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตตัวยึดเพียงไม่กี่รายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้รับการรับรองจากสถาบันปิโตรเลียมแห่งสหรัฐอเมริกา

ในการผลิตโบลท์ที่มีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ ทำให้บรรดาซัพพลายเชนและอุตสาหกรรมต่างๆ ในระดับภูมิภาคต่างพึ่งพาบริษัท เซ่งเฮง เอ็นจิเนียริ่ง ให้เป็นผู้ผลิตคอนเนคเตอร์ที่มีคุณภาพและเชื่อถือได้สำหรับใช้งานในอุปกรณ์ของตน

โคบอทเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระของมนุษย์

ความปลอดภัยถือเป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่งสำหรับผู้ผลิต ดังนั้นโคบอทจึงเป็นโซลูชันที่เหมาะสมและพร้อมตอบโจทย์การทำงานโดยแท้จริง ทั้งนี้ โคบอทสามารถทำงานร่วมกับพนักงานที่เป็นมนุษย์ได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ต้องใช้กรงนิรภัย (ในกรณีที่มีความเสี่ยง)

โดยก่อนหน้านี้ กระบวนการขนเข้าและถ่ายออกตัวยึดในเครื่องจักรกลอัตโนมัติระบบคอมพิวเตอร์ หรือ ซีเอ็นซี (Computer Numerical Control: CNC) จะต้องดำเนินการโดยพนักงานที่เป็นมนุษย์ แต่เมื่อมีการนำโคบอทเข้ามาใช้งานก็สามารถช่วยลดภาระการทำงานของพนักงานจากกระบวนการที่ต้องทำซ้ำแล้วซ้ำอีก ซึ่งอาจใช้เวลานานถึงห้านาทีก่อนที่ตัวยึดแต่ละตัวจะเสร็จสมบูรณ์

โคบอท
การนำโคบอทเข้ามาใช้งานก็สามารถช่วยลดภาระการทำงานของพนักงาน ในกระบวนการขนเข้าและถ่ายออกตัวยึดในเครื่องจักรกลอัตโนมัติระบบคอมพิวเตอร์ หรือ ซีเอ็นซี (Computer Numerical Control: CNC) ในโรงงานของ บริษัท เซ่งเฮง เอ็นจิเนียริ่ง

“ในตอนแรกพนักงานของเรารู้สึกไม่สบายใจนักที่เราได้นำโคบอทมาใช้ในสายการผลิต เนื่องจากกลัวว่าโคบอทจะเข้ามาทำงานแทนที่พวกเขาในท้ายที่สุด แต่ในตอนนี้ พนักงานของเราเข้าใจดีแล้วว่าโคบอทเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระจากการทำงานที่ซ้ำซากจำเจ”

“เพื่อให้พวกเขาสามารถทุ่มเทเวลาไปกับการทำงานที่ต้องใช้ทักษะทางปัญญามากกว่าได้ แม้แต่พนักงานที่ไม่มีพื้นฐานในการเขียนโปรแกรมก็ยังสามารถใช้งานโคบอทได้อย่างง่ายดาย โดยในช่วงระยะเวลาสั้นๆ เพียงสามเดือน เราก็ได้เห็นดอกผลที่งดงามจากการนำโคบอทเข้ามาใช้งานในกระบวนการผลิตแล้ว” แจ็กกี้ กล่าว

เพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต 50% ภายใน 3 เดือน

หลังจากมีการใช้งานโคบอท ในฝั่งเครื่องซีเอ็นซีและเครื่องสลักข้อความแล้ว บริษัท เซ่งเฮง เอ็นจิเนียริ่ง ก็สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตได้มากถึง 50 เปอร์เซ็นต์ภายในสามเดือน

โดยนับตั้งแต่ที่มีการนำโคบอทเข้ามาใช้งาน บริษัทสามารถรับคำสั่งซื้อได้เป็นจำนวนมากและมีระยะเวลารอคอยสินค้าเพียงสามถึงห้าวันเท่านั้น ก่อนหน้านี้จากที่บริษัท เซ่งเฮง เอ็นจิเนียริ่ง เคยทำงานเพียงกะเดียวและได้เพิ่มกะที่สองในส่วนเครื่องซีเอ็นซีเนื่องจากมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมที่เข้มงวด

โคบอท
หุ่นยนต์ร่วมปฏิบัติงานหรือ โคบอท (Cobot) ที่เข้ามาช่วยงานและสร้างประสิทธิภาพให้บริษัท เซ่งเฮง เอ็นจิเนียริ่ง

แต่หลังจากโคบอทเข้ามาช่วยในกระบวนการผลิต การปฏิบัติงานในกะที่สองก็ยังคงดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่น เนื่องจากโคบอทได้เข้ามาเสริมแทนกำลังคนได้ในช่วงกะกลางคืน และบริษัทยังสามารถแก้ปัญหาคอขวดด้วยการเปิดเดินเครื่องจักรได้อย่างต่อเนื่องอีกด้วย

การนำโคบอทเข้ามาใช้งานได้ส่งผลให้คำสั่งซื้อสามารถดำเนินการให้เสร็จสิ้นได้ภายในระยะเวลาอันสั้นและไม่มีการหยุดชะงักในการปฏิบัติงาน

“เราพบว่าประสิทธิภาพในการผลิตเพิ่มขึ้นอย่างมากหลังจากนำโคบอท จำนวนสองตัวเข้ามาช่วยเปลี่ยนกระบวนการทำงานของเครื่องซีเอ็นซีและการสลักข้อความให้กลายเป็นระบบอัตโนมัติ นอกจากนี้ โคบอทยังสามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมงควบคู่ไปกับพนักงานของเราได้ สิ่งนี้ช่วยลดปัญหาการทำงานที่น่าเบื่อและซ้ำซากจำเจให้กับพนักงานอย่างเห็นได้ชัด” แจ็กกี้ เลา กรรมการผู้จัดการบริษัท เซ่งเฮง เอ็นจิเนียริ่ง กล่าว

หลังจากที่บริษัท เซ่งเฮง เอ็นจิเนียริ่ง ได้นำระบบอัตโนมัติมาใช้เป็นผู้ช่วยหลักของพนักงานที่เปี่ยมล้นไปด้วยความชาญฉลาดและความสามารถในการรองรับปริมาณงานได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว บริษัทก็มีแผนที่จะนำโคบอทมาปรับใช้งานเพิ่มเติมในอนาคตอันใกล้นี้ด้วย