กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) นำโดย ศรีสุดา นิตติวัฒน์ (ที่สองจากซ้าย) ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานบริหารความสัมพันธ์กับธุรกิจ ร่วมด้วย จันทิมา อุไรไพรวัน (ที่สองจากขวา) ผู้อำนวยการฝ่ายสรรหาและว่าจ้างบุคลากร เป็นตัวแทนเข้ารับรางวัล Top 50 Employers in Thailand 2023 หรือ 50 องค์กรที่คนรุ่นใหม่อยากทำงานด้วยมากที่สุดประจำปี 2566 จาก เย็นส์ โพลด์ (ซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เวิร์คเวนเจอร์ เทคโนโลจีส์ จำกัด
ซึ่งผลสำรวจได้รับการยอมรับจากผู้มีอำนาจตัดสินใจในองค์กรและคนทำงานออฟฟิศว่าเป็นการเสนอชื่อองค์กรที่น่าทำงานของคนรุ่นใหม่ที่น่าเชื่อถือที่สุด โดยกรุงศรีได้รับการเสนอชื่อเป็น 1 ใน 50 องค์กร ติดต่อกันเป็นปีที่ 5 และในปีนี้ กรุงศรีได้รับรางวัลในลำดับที่ 26 นับเป็นการตอกย้ำว่ากรุงศรีเป็นองค์กรที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การทำงานของคนรุ่นใหม่ ทั้งนี้ กรุงศรียังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาทรัพยากรบุคคลของกรุงศรีให้เติบโตและก้าวหน้าในสายอาชีพ ควบคู่ไปกับการเติบโตขององค์กรอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน งานดังกล่าวจัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ณ โรงแรมนิกโก้ กรุงเทพฯ
กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ในเครือของมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) หนึ่งในกลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดระดับโลก ผนึก Hattha Bank สถาบันการเงินชั้นนำของเครือกรุงศรีในประเทศกัมพูชา เสนอขายตราสารหนี้สกุลเงินบาทโดยสถาบันการเงินต่างประเทศ มูลค่าเสนอขายรวม 1,500 ล้านบาท อายุ 3 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนในปี พ.ศ. 2568
โดยถือเป็นผู้ออกหุ้นกู้จากประเทศกัมพูชารายแรกที่เสนอขายตราสารหนี้สกุลเงินบาทในประเทศไทย เพื่อเป็นอีกทางเลือกให้กับนักลงทุนในการลงทุนตราสารหนี้ข้ามพรมแดนในภูมิภาคอาเซียน นับเป็นอีกหนึ่งความก้าวหน้าของกรุงศรี ในการต่อยอดแผนกลยุทธ์ธุรกิจ GO ASEAN with krungsri และตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเพิ่มศักยภาพด้านการแข่งขันในอุตสาหกรรมการเงินในฐานะธนาคารแห่งภูมิภาคอาเซียนที่มีความพร้อมและได้รับความไว้วางใจจากนักลงทุนทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ
ท่ามกลางความท้าทายจากสภาวะเศรษฐกิจทั่วโลก อีกทั้งสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างประเทศ และอัตราดอกเบี้ยนโยบายทั่วโลกที่สูงเป็นประวัติการณ์ อย่างไรก็ดี กรุงศรี และ Hattha Bank ได้ร่วมกันศึกษาและวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของตลาดในอาเซียนว่ายังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
ทั้งยังมีความต้องการลงทุนจากนักลงทุนสถาบันชั้นนำ จึงนำไปสู่การเสนอขายตราสารหนี้สกุลเงินบาทครั้งแรกของ Hattha Bank ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการเข้าสู่ตลาดตราสารหนี้ประเทศไทย นอกจากนี้ยังสอดคล้องกับมาตรการริเริ่มพัฒนาตลาดตราสารหนี้ในภูมิภาคเอเชีย (Asian Bond Markets Initiative: ABMI)
ซึ่งเป็นหนึ่งในกรอบความร่วมมือทางการเงินในกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน และประเทศจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ (ASEAN +3) ในการพัฒนาตลาดตราสารหนี้และสนับสนุนการออกตราสารหนี้สกุลเงินท้องถิ่น (LCY)ของภูมิภาค ซึ่งรวมถึงตราสารหนี้เพื่อความยั่งยืน และส่งเสริมให้เกิดการลงทุนในตราสารหนี้สกุลเงินท้องถิ่นของภูมิภาคเพื่อเสริมสร้างกลไกการเสริมสภาพคล่องทางการเงินระหว่างกลุ่มประเทศสมาชิกให้มีความเข้มแข็ง
เซอิจิโระ อาคิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “กรุงศรี มีแผนงานที่ชัดเจนในการเชื่อมโยงและพัฒนาเครือข่ายธุรกิจการเงินในภูมิภาคอาเซียนให้แข็งแกร่ง
เพื่อเพิ่มโอกาสและเปิดตลาดให้แก่ผู้ประกอบการและนักลงทุนได้เติบโตและก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงร่วมกันกับเรา การเสนอขายตราสารหนี้สกุลเงินบาทของ Hattha Bank ด้วยความร่วมมือกับกรุงศรีนี้ เป็นอีกก้าวย่างที่สำคัญของเราในฐานะธนาคารแห่งภูมิภาค ที่ไม่เพียงเป็นแค่ทางเลือกใหม่ในตลาดให้แก่นักลงทุน แต่ยังเป็นความตั้งใจของกรุงศรีที่จะใช้เครือข่ายที่มีศักยภาพ
และความเชี่ยวชาญที่มีมาวิเคราะห์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของตลาดทุน ทั้งยังเป็นการสนับสนุนในด้านการรักษาเสถียรภาพทางด้านเศรษฐกิจและการคลังของภูมิภาคอีกทางหนึ่งด้วย”
Hattha Bank นับเป็นสถาบันการเงินจากกัมพูชาแห่งแรกที่เสนอขายตราสารหนี้สกุลเงินบาทให้แก่นักลงทุนสถาบัน โดยได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ “BBB+” จากทริสเรทติ้ง
ซึ่งมีการเสนอขายไปเมื่อเดือนตุลาคม 2565 ตราสารหนี้สกุลเงินบาทของ Hattha Bank นั้น ได้รับการอนุญาตจากธนาคารแห่งชาติกัมพูชา (National Bank of Cambodia: NBC) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของประเทศกัมพูชา (Securities and Exchange Regulator of Cambodia: SERC) กระทรวงการคลัง (ประเทศไทย) และธนาคารแห่งประเทศไทย ให้สามารถเสนอขายตราสารหนี้สกุลเงินบาทและอนุญาตการธุรกรรมตราสารหนี้ข้ามพรมแดนในครั้งนี้
พงษ์อนันต์ ธณัติไตร (ที่ 3 จากซ้าย) ประธานกลุ่มธุรกิจลูกค้ารายย่
ในโอกาสที่ไทยประกันชีวิตเข้