
“MUIC เปิดตัว AI Copter ผู้ช่วยส่วนตัวนักศึกษา นวัตกรรมตอบโจทย์การเรียนยุคดิจิทัล รองรับเทรนด์มหาวิทยาลัยทั่วโลกดึง AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ
วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล (MUIC) ประกาศความสำเร็จในการเปิดตัว AI Copter แพลตฟอร์มปัญญาประดิษฐ์ที่ทำหน้าที่เสมือนผู้ช่วยส่วนตัวของนักศึกษา ให้คำปรึกษาด้านการเรียนแบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง ครอบคลุมทั้งการให้คำแนะนำด้านวิชาการ การวิเคราะห์เส้นทางอาชีพ และข้อมูลหลักสูตรในแต่ละสาขาแบบครบจบในที่เดียว
โดยระบบนี้ได้รับการพัฒนาต่อยอดจากเทคโนโลยี Google Gemini สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ MUIC ในการขับเคลื่อนการศึกษาไทยด้วยนวัตกรรมระดับสากล พร้อมตอบรับแนวโน้มของมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วโลกที่นำ AI มาเสริมประสิทธิภาพการเรียนการสอน โดยคาดว่าจะช่วยลดภาระงานบุคลากร และสนับสนุนการเติบโตของจำนวนนักศึกษาอย่างต่อเนื่อง
ศาสตราจารย์ แพทย์หญิงจุฬธิดา โฉมฉาย คณบดี วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล_(MUIC) เปิดเผยว่า “MUIC ได้เปิดตัว AI Copter ระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ออกแบบมาเพื่อยกระดับประสบการณ์การเรียนรู้และการให้บริการแก่นักศึกษา”
“โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้คำแนะนำทางวิชาการ เช่น การวิเคราะห์และเสนอแนะรายวิชาที่เหมาะสม การเลือกวิชาโท (Minor) และโปรแกรมประกาศนียบัตร (Certificate Programs) ให้สอดคล้องกับความสนใจและเป้าหมายในอนาคตของแต่ละบุคคล รวมถึงข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเรียน”
“ระบบ AI Copter พัฒนาบนพื้นฐานของ Google Gemini และได้รับการปรับแต่งให้เหมาะสมกับบริบทของวิทยาลัยฯ โดยใช้เทคนิค RAG (Retrieval-Augmented Generation) ร่วมกับการปรับพารามิเตอร์ (Fine-Tuning) เพื่อให้สามารถตอบคำถามได้อย่างแม่นยำ ตรงประเด็น และสอดคล้องกับความต้องการของนักศึกษา”
“โครงการนี้ใช้ระยะเวลาในการพัฒนาประมาณ 12 เดือน ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของวงการศึกษาของไทยในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI เพื่อสนับสนุนการเรียนการสอนอย่างมีประสิทธิภาพ”
การเปิดตัว AI Copter สอดคล้องกับเทรนด์การนำ AI มาใช้ในมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วโลกที่ปัจจุบันมหาวิทยาลัยหลายแห่งได้นำ AI มาใช้เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการเรียนการสอนและการบริหารจัดการ เช่น มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard University) ใช้ AI เป็นผู้ช่วยในการสอนวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ ช่วยตอบคำถามนักศึกษาและให้คำแนะนำในการเขียนโปรแกรมได้ทันที
สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) มีโครงการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับ AI อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะด้าน Human-AI Interaction และ AI Policy Research มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ (UC Berkeley) ใช้ AI ในการตรวจข้อสอบและวิเคราะห์พฤติกรรมการเรียนของนักศึกษา เพื่อปรับปรุงกระบวนการเรียนการสอน
และมหาวิทยาลัยในประเทศจีน เช่น มหาวิทยาลัยเซินเจิ้น (Shenzhen University) และมหาวิทยาลัยเจ้อเจียง (Zhejiang University) ได้เปิดสอนหลักสูตร AI โดยใช้เทคโนโลยีของ DeepSeek
ประโยชน์ที่นักศึกษาจะได้รับจาก AI Copter ประกอบไปด้วย การช่วยเหลือด้านวิชาการแบบเรียลไทม์ ให้นักศึกษาสามารถถามเกี่ยวกับหลักสูตร ตารางเรียน และแนวทางการศึกษาได้ทันที ซึ่งจุดเด่นและไฮไลท์ของ AI Copter มีความโดดเด่นในด้านการให้บริการที่ครอบคลุมและปรับให้เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะของนักศึกษาแต่ละคน ดังนี้
- การให้คำแนะนำทางวิชาการ ระบบสามารถช่วยนักศึกษาในการเลือกวิชาเรียน วิชาโท (Minor) และโปรแกรมประกาศนียบัตร (Certificate) ที่เหมาะสมกับความสนใจและเป้าหมายอาชีพของแต่ละบุคคล
- การให้คำปรึกษาด้านอาชีพ AI Copter สามารถวิเคราะห์ข้อมูลความสนใจและผลการเรียนของนักศึกษา เพื่อแนะนำเส้นทางอาชีพที่เหมาะสม
- การสนับสนุนโอกาสแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ ระบบให้ข้อมูลและคำแนะนำเกี่ยวกับโครงการแลกเปลี่ยน (Exchange Programs) และโอกาสการศึกษาในต่างประเทศ โดย_MUIC มีเครือข่ายมหาวิทยาลัยพันธมิตรกว่า 140 แห่งทั่วโลก
- การบริการข้อมูลที่รวดเร็ว AI Copter สามารถแจ้งเตือนกำหนดการสำคัญ ข่าวสารจากมหาวิทยาลัย และข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ
แนวทางการพัฒนา AI Copter
รองศาสตราจารย์ ดร.ยิ่งยศ เจียรวุฑฒิ รองคณบดี วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล (MUIC) กล่าวว่า “AI Copter” เป็นระบบ AI ที่พัฒนาขึ้นจากฐานข้อมูลของ_MUIC ในทุกมิติที่เกี่ยวข้องกับนักศึกษา จึงสามารถให้ความช่วยเหลือ และตอบโจทย์ความต้องการของนักศึกษาได้อย่างตรงจุด สำหรับแผนการเปิดตัว AI Copter แบ่งออกเป็นทั้งหมด 3 ระยะ โดยมีรายละเอียดสำคัญในแต่ละช่วงดังนี้
- ระยะที่ 1 (ต้นปี 2568) เริ่มทดลองใช้งาน AI ในบริการเฉพาะด้าน เช่น การแนะนำด้านวิชาการ การลงทะเบียนเรียน และข้อมูลกิจกรรมนักศึกษา
- ระยะที่ 2 (กลางปี 2568) ขยายการให้บริการ AI ในด้านการแนะแนวอาชีพ การฝึกงาน และโอกาสศึกษาต่อต่างประเทศ
- ระยะที่ 3 (ต้นปี 2569) พัฒนา AI ให้สามารถให้บริการเชิงโต้ตอบแบบเรียลไทม์ และนำไปใช้กับการจัดการหลักสูตรของวิทยาลัยฯ
ทั้งนี้ AI Copter จะช่วยลดต้นทุนด้านบุคลากรได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยคาดว่าในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า จะสามารถประหยัดงบประมาณได้กว่า 5 – 10 ล้านบาทจากการลดภาระงานของเจ้าหน้าที่และอาจารย์ที่ปรึกษาในด้านการให้คำปรึกษาเบื้องต้น
ตลอดจนลดความจำเป็นในการเพิ่มจำนวนบุคลากรแนะแนวการศึกษาพร้อมทั้งยกระดับประสิทธิภาพงานบริการนักศึกษาด้วยการนำ AI เข้ามาเป็นผู้ช่วย นอกจากนี้ MUIC_ยังอยู่ระหว่างการพัฒนา “Helix” ระบบ AI อีกหนึ่งตัวที่จะช่วยเสริมศักยภาพการทำงานของอาจารย์ พนักงาน และนักวิจัย โดยมีแผนเปิดตัวในเร็วๆ นี้
การเปิดตัว AI Copter ยังสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ_MUIC ในการนำนวัตกรรมมาสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่ทันสมัยและตอบโจทย์โลกอนาคต ยิ่งตอกย้ำภาพลักษณ์ของ MUIC ในฐานะสถาบันการศึกษานานาชาติชั้นนำ ที่พร้อมพัฒนานักศึกษาให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลง และเติบโตอย่างมั่นคงในเวทีโลก