Tuesday, October 8, 2024
NEWS

แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ช่วยขับเคลื่อนการส่งออกให้ธุรกิจขนาดเล็ก

เผยรายงานผู้ค้าออนไลน์ขนาดเล็กในอาเซียน อาศัยแพลตฟอร์มของอีเบย์ สร้างโอกาสการเติบโตเป็นผู้ส่งออกทั่วโลก ผู้ขายไทยที่เป็นกิจการขนาดเล็กบนอีเบย์ ร้อยละ 75 ขายสินค้าส่งออกไปอย่างน้อย 4 ทวีป

อีเบย์ เปิดรายงาน กิจการออนไลน์ขนาดเล็กในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปี 2565 (Southeast Asia Small Online Business Trade Report 2022) เผยความสำเร็จของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอี ที่สามารถพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส

โดยการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและคำปรึกษาจากอีเบย์มาปรับใช้ในธุรกิจ ยกระดับตัวเองสู่กิจการขนาดเล็กที่ทำธุรกิจส่งออก หรือ MMNEs (Micro Multi-National Enterprises) เข้าถึงผู้ซื้อในตลาดโลกได้มากขึ้น

วิทเมย์ ไนยนี ผู้อำนวยการประจำภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินเดีย

วิทเมย์ ไนยนี ผู้อำนวยการประจำภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินเดีย eBay International CBT (Cross Border Trade) กล่าวว่า “แพลตฟอร์มดิจิทัลมีส่วนช่วยให้ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขีดความสามารถในการส่งออกไปยังตลาดทั่วโลกได้อย่างลงตัว

ด้วยพื้นฐานด้านโลจิสติกส์ที่ดี มีบุคลากรที่มีความสามารถในด้านต่างๆ ความแข็งแกร่งของภาคอุตสาหกรรม รวมทั้งมีสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์และเป็นที่ต้องการของตลาดมากมาย”

รายงานกิจการออนไลน์ขนาดเล็กในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 2565 ใช้ข้อมูลอ้างอิงจากธุรกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนอีเบย์ในช่วงปี 2563 โดยได้ติดตามกิจกรรมการขายสินค้าออนไลน์ในภูมิภาครวม 6 ตลาด

ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และเวียดนาม ที่มียอดขายบนอีเบย์ต่อปีในระดับ 10,000 ดอลลาร์ ขึ้นไป โดยถือเป็น ผู้ขายที่เป็นกิจการขนาดเล็กบนอีเบย์ หรือ eBay-enabled small businesses

เอสเอ็มอีไทยเติบโตแข็งแกร่ง พัฒนาเป็นกิจการขนาดเล็กที่ทำธุรกิจส่งออก

ประเด็นน่าสนใจข้อหนึ่งในรายงานฉบับนี้คือ ผู้ขายไทยที่ถือเป็นกิจการขนาดเล็กบนอีเบย์นั้น ขายสินค้าส่งออกทั้ง 100% แสดงให้เห็นว่า แพลตฟอร์มอีเบย์เป็นช่องทางที่ช่วยขยายโอกาสให้ผู้ขายเข้าถึงผู้ซื้อจากทั่วทุกมุมโลก

สันห์อมร วิชัยนิษฐ์ ผู้ขายสินค้าเครื่องประดับจิวเวลรี่บนอีเบย์

ซึ่ง สันห์อมร วิชัยนิษฐ์ ผู้ขายสินค้าเครื่องประดับจิวเวลรี่บนอีเบย์ กล่าวว่า “อีเบย์ช่วยให้ธุรกิจครอบครัวของผมเติบโตมากขึ้น และสร้างงานในชุมชน ต้องขอขอบคุณทีมงานอีเบย์ที่ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดีมาตลอด”

สันห์อมร เริ่มทำการค้าจิวเวลรี่ในปี 2545 เพื่อขยายกิจการของครอบครัวที่จันทบุรี เมื่อได้เปิดร้านออนไลน์บนอีเบย์ ก็สามารถขยายกิจการได้อย่างรวดเร็ว

จนทุกวันนี้ สามารถส่งสินค้าออกมากกว่า 3,000 ชิ้นต่อเดือน ปัจจุบัน สันห์อมร ขายสินค้าจิวเวลรี่ที่สวยงามมีเอกลักษณ์ผ่านร้านออนไลน์บนอีเบย์ ให้แก่ลูกค้าในยุโรปและอเมริกาเหนือเป็นส่วนใหญ่

ทั้งนี้ ธุรกิจเครื่องประดับและเพชรพลอยรายอื่นๆ จากประเทศไทย ต่างประสบความสำเร็จบนแพลตฟอร์มนี้เช่นเดียวกัน โดยกลุ่มสินค้าท็อปไฟว์ที่ส่งออกโดยผู้ขายไทยที่เป็นกิจการขนาดเล็กบนอีเบย์ ได้แก่ 1) เครื่องประดับและนาฬิกา 2) ชิ้นส่วนอะไหล่ยนต์ 3) สุขภาพและความงาม 4) ของสะสม และ 5) สินค้าของใช้ในบ้านและสวน

ช่องทางการขายสำหรับธุรกิจเกิดใหม่

กิจการขนาดเล็กบนอีเบย์ ไม่ได้มีเพียงธุรกิจดั้งเดิมหรือกิจการที่ก่อตั้งมานานเสียทั้งหมด เพราะอีเบย์มีบทบาทในการขับเคลื่อนธุรกิจใหม่ๆ ด้วยเช่นกัน

ในรายงานฉบับนี้มี ผู้ขายใหม่ ที่สามารถทำยอดขายแตะระดับ 10,000 ดอลลาร์ ในช่วงปี 2563 และก้าวขึ้นมาเป็นกิจการขนาดเล็กบนอีเบย์ได้ภายใน 4 ปี ซึ่งในบรรดาผู้ขายไทยที่นับว่าเป็นกิจการขนาดเล็กบนอีเบย์ในปี 2563 นั้น มีถึงร้อยละ 56 ที่เป็นผู้ขายใหม่

อิทธิ นานา เจ้าของกิจการ Souppy Store

สินค้ากลุ่มของสะสมเป็นหนึ่งในห้ากลุ่มธุรกิจที่มีศักยภาพของไทย ซึ่งอีเบย์สามารถตอบโจทย์ในการเชื่อมแพสชันกับธุรกิจเข้าด้วยกัน “อีเบย์เป็นแพลตฟอร์มเดียวสำหรับผมในเข้าถึงผู้ซื้อจากทั่วโลกที่มีแพสชันเดียวกันในเรื่องการเทรดการ์ดฟุตบอล” อิทธิ นานา เจ้าของกิจการ Souppy Store กล่าว

เขาเกิดและเติบโตมาในครอบครัวนักฟุตบอล และกลายเป็นนักสะสมของที่ระลึกจากกีฬาฟุตบอลตัวยง ได้เริ่มธุรกิจบนอีเบย์ในปี 2560 เพื่อขายการ์ดให้กับแฟนฟุตบอลคนอื่นๆ และในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา อิทธิ ได้คำสั่งซื้อจากลูกค้าทั่วโลก ทั้งจีน ฮ่องกง สหรัฐฯ และแคนาดา

ปลดล็อกศักยภาพการค้าระดับโลกกับอีเบย์

โดยรวมแล้ว กิจการขนาดเล็กบนอีเบย์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ขายสินค้าไปยัง 214 ประเทศในปี 2563 ในจำนวนนี้ มีร้อยละ 64 ที่สามารถก้าวขึ้นเป็นผู้ขายระดับโลก จากการส่งออกไปทวีปต่างๆ อย่างน้อย 4 ทวีป

ซึ่งเอสเอ็มอีไทยประสบความสำเร็จมากกว่าอัตราเฉลี่ย โดยมีผู้ขายไทยที่เป็นกิจการขนาดเล็กบนอีเบย์ ร้อยละ 75 ขายสินค้าส่งออกไปอย่างน้อย 4 ทวีป และสัดส่วนร้อยละ 76 ที่สามารถส่งออกสินค้าไปยังมากกว่า 10 ประเทศปลายทาง

“ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น อีคอมเมิร์ซเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญสำหรับธุรกิจมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับกิจการขนาดเล็ก เพราะเป็นปัจจัยช่วยลดอุปสรรค เพิ่มการเข้าถึงและขยายฐานตลาดได้โดยใช้ต้นทุนน้อย จึงช่วยขับเคลื่อนให้ธุรกิจเติบโตเร็วขึ้น และช่วยให้ผู้ประกอบการรายใหม่สามารถเริ่มธุรกิจได้ง่ายขึ้น” วิทเมย์ กล่าว

“สิ่งที่ อีเบย์ มุ่งเน้นอันดับแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คือ การช่วยให้เอสเอ็มอีพร้อมทำการค้าในตลาดโลกบนแพลตฟอร์มที่มีผู้ซื้อ 142 ล้านคน หมวดหมู่สินค้ามากกว่า 3 พันประเภท ตลอดจนช่องทางสู่ตลาดในกว่า 190 ประเทศ ธุรกิจเอสเอ็มอีในภูมิภาคจึงต้องสร้างความแตกต่างและขยายฐานออกไปด้วยการสำรวจทางเลือกต่างๆ ในการส่งออกผ่านระบบอีคอมเมิร์ซ

เมื่อธุรกิจมีเป้าหมายเช่นนี้ อีเบย์จึงสร้างอีโคซิสเต็มให้แข็งแกร่ง โดยใช้ความเชี่ยวชาญเชิงลึกด้านเทคโนโลยีและการผนึกกำลังกับพันธมิตรหน่วยงานหลักในภาครัฐ รวมทั้งผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ด้วย เพื่อขับเคลื่อนเอสเอ็มอีให้ไปถึงเป้าหมาย” วิทเมย์ กล่าวเสริม

โดยรายงานนี้ยังระบุว่ากลุ่มคนตัวเล็กยังได้รับประโยชน์จากแพลตฟอร์มและเครื่องมือในการตั้งร้านค้าที่ อีเบย์ จัดเตรียมไว้ให้ ทำให้สามารถเริ่มต้นกิจการขายปลีกส่งออกไปยังต่างประเทศได้ง่ายขึ้น สิ่งสำคัญคือการที่ธุรกิจขนาดเล็กหรือคนที่มีแพสชัน ควรเรียนรู้ที่จะก้าวเข้าสู่ตลาดโลกวันนี้ไปกับอีเบย์และปลดล็อกพลังที่จะสร้างการเติบโตในอนาคต

Featured Image: Sme photo created by our-team – www.freepik.com