Snowflake ประกาศพร้อมช่วยองค์กรเรื่อง Data Sovereignty และ PDPA

“Snowflake ประกาศเปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เน้น 3 หลักการ ความง่าย เครือข่ายพันธมิตร และสร้างความน่าเชื่อถือให้ข้อมูลลูกค้า ช่วยองค์กรดำเนินธุรกิจอย่างมั่นใจตามกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดเรื่องข้อมูล
สโนว์เฟลก บริษัทด้าน AI Data Cloud ประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยแล้ว โดยมุ่งเน้นการขยายฐานลูกค้าและพันธมิตรภายในประเทศ การเปิดตัวในครั้งนี้จะช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถปลดล็อกข้อมูลเชิงลึกได้ดียิ่งขึ้นภายใต้ การขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อผลักดันให้เกิดการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ทางธุรกิจ
ขณะเดียวกันก็เปิดโอกาสให้องค์กรได้มีความใกล้ชิดกับข้อมูลมากขึ้น ทั้งยังรับประกันได้ถึงประสิทธิภาพด้านการกำกับดูแลและการปฏิบัติตามข้อกำหนดเฉพาะของข้อมูลในท้องถิ่น
สัตชิต โจเกลการ์ กรรมการผู้จัดการ ประจำภูมิภาคอาเซียน บริษัท สโนว์เฟลก กล่าวว่า “การขยายธุรกิจของสโนว์เฟลกในประเทศไทยถือเป็นก้าวสำคัญในความมุ่งมั่นของเราที่จะสนับสนุนและส่งเสริมองค์กรในท้องถิ่นด้วยแพลตฟอร์ม AI ที่ปลอดภัย เป็นไปตามกฎระเบียบ และมีประสิทธิภาพสูง”
“ขณะนี้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทยมีผลบังคับใช้เต็มรูปแบบแล้ว และนโยบายประเทศไทย 4.0 ของรัฐบาลที่กำลังเดินหน้าเร่งกระบวนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล ทำให้องค์กรต่างๆ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่มีการควบคุมอย่างเข้มงวด”
“เช่น ภาครัฐ การแพทย์และสาธารณสุข และภาคธนาคาร สามารถมั่นใจได้ว่าข้อมูลของตนยังคงปลอดภัยและอยู่ภายใต้การควบคุมของตนเอง ขณะเดียวกันก็ยังสามารถใช้ประโยชน์จาก AI Data Cloud ของ สโนว์เฟลกเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ได้ด้วย”
เน้น 3 หลักการ ความง่าย เครือข่ายพันธมิตร และความน่าเชื่อถือให้ข้อมูลลูกค้า
สโนว์เฟลก เน้นย้ำหลักการในการดำเนินธุรกิจใน 3 ประการคือ ความง่าย (Easy) ซึ่งหมายถึงตัวแพลตฟอร์ม AI Data Cloud ที่ใช้งานง่าย ติดตั้งง่าย รวมถึงเรียนรู้ทำความเข้าใจได้ง่าย
ประการต่อมาคือ การเชื่อมต่อ (Connected) ซึ่งหมายถึงการเป็นพันธมิตรกับบริษัทเทคโนโลยีทั้งในระดับโลก และอีโคซีสเต็มในประเทศ อาทิ พาร์ทเนอร์ที่มีความเชี่ยวชาญและนักพัฒนา รวมถึงระบบการจัดเก็บข้อมูลที่ออกแบบมาทำให้สามารถทำงานเชื่อมต่อกันได้อย่างราบรื่น
และ ความน่าเชื่อ (Trusted) ซึ่งความน่าเชื่อถือเป็นประเด็นสำคัญ โดยเฉพาะเรื่อง Sovereign cloud หรือการใช้บริการคลาวด์ที่ออกแบบมาเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายและข้อบังคับของประเทศ รวมถึงกฎหมาย PDPA

โดยล่าสุดมีแผนที่จะใช้อินสแตนซ์ ท้องถิ่น บน AWS Asia Pacific (Thailand) Region การดำเนินการดังกล่าวจะทำให้ลูกค้าของสโนว์เฟลกในประเทศไทยสามารถเก็บข้อมูลของตนไว้อย่างปลอดภัยในประเทศ ขณะเดียวกันก็ยังคงใช้ประโยชน์จากความยืดหยุ่นและความสามารถในการปรับขนาดของ AI Data Cloud ของ สโนว์เฟลกได้ต่อไปด้วย
ความยืดหยุ่นที่เกิดขึ้นทันทีจากบริการของสโนว์เฟลก จะทำให้ลูกค้าทั้งในภาครัฐและเอกชนสามารถขยายข้อเสนอและใช้ประโยชน์จากชุดเครื่องมือและบริการปัญญาประดิษฐ์ที่กำลังขยายตัวของสโนว์เฟลกได้มากขึ้น
“การประกาศที่จะเข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยอย่างเต็มตัวครั้งนี้ มีเป้าหมายอย่างชัดเจนที่จะเข้ามาช่วยให้องค์กรในประเทศไทยมีโอกาสเข้าถึงแพลตฟอร์ม ด้านการจัดการข้อมูล อย่างมีประสิทธิภาพ ลดปัญหาไซโลข้อมูล และนำมารวมศูนย์ให้บริหารจัดการง่าย เพื่อใช้งาน AI บนโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ และประสบความสำเร็จ” สัตชิต กล่าวปิดท้าย






