“สำนักงาน คปภ. จัดประชุมหารือแนวทางการลดข้อร้องเรียนด้านการประกันภัย ครั้งที่ 3/2568 ร่วมผลักดันระบบคุ้มครองสิทธิประโยชน์ประชาชนให้มีประสิทธิภาพ
สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) จัดประชุมหารือแนวทางการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ประชาชนด้านการประกันภัย ครั้งที่ 3/2568 ของสายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ โดยเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2568 มีการประชุมร่วมกับผู้แทนบริษัทประกันชีวิต นำโดย ณปภัช เดชธัญญนนท์ และ ธัญญวัฒน์ ตั้งพงษาพันธ์ เป็นผู้ดำเนินการประชุม
ส่วนวันที่ 25 กันยายน 2568 เป็นการประชุมร่วมกับบริษัทประกันวินาศภัยทุกแห่ง พร้อมผู้แทนสมาคมประกันวินาศภัยไทย มี คณานุสรณ์ เที่ยงตระกูล ผู้ช่วยเลขาธิการสายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ เป็นประธานการประชุม โดยมีผู้บริหารและเจ้าหน้าที่สายงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง เพื่อยกระดับมาตรฐานบริการและลดข้อร้องเรียนจากผู้เอาประกันภัย
ที่ประชุมได้ติดตามความคืบหน้าในประเด็นสำคัญ อาทิ การปฏิบัติตาม SLA การประสานงานผ่านระบบทางด่วนประกันภัย (ISC) และการพิจารณาข้อร้องเรียน รวมถึงการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทและการระงับข้อพิพาทด้วยอนุญาโตตุลาการ ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้เอาประกันภัย พร้อมกำชับให้เร่งรัดการชดใช้สินไหมทดแทนเหตุแผ่นดินไหว
นอกจากนี้ คปภ. ยังเปิดโอกาสให้บริษัทประกันภัยสะท้อนปัญหาจากการพัฒนา ระบบ PPMS ระยะที่ 2 ที่เปิดให้ประชาชนยื่นร้องเรียนออนไลน์เต็มรูปแบบ ทั้งการตรวจสอบสถานะเรื่อง การจัดทำรายงาน และการแนบเอกสารหลักฐาน พร้อมเตรียมจัดอบรมเชิงลึกแบบ Focus Group เพื่อเพิ่มความเข้าใจระบบ และยกระดับมาตรฐานการจัดการข้อร้องเรียนให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ที่ประชุมยังหารือผลกระทบจากมาตรการปราบปรามบัญชีม้า ซึ่งส่งผลต่อการชำระเบี้ยและการจ่ายสินไหม โดยเสนอแนวทางผ่อนผันดอกเบี้ย และให้บริษัทจ่ายสินไหมผ่านบัญชีที่ไม่ถูกอายัด หรือออกเช็คขีดคร่อมระบุชื่อ เพื่อป้องกันความล่าช้า พร้อมกำชับให้ติดตามการขึ้นเงินตามเช็คอย่างใกล้ชิด ควบคู่กับการพิจารณาประกันภัยสำหรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศในอนาคต
การประชุมครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ คปภ. และภาคธุรกิจประกันภัย ในการลดข้อร้องเรียนและยกระดับการให้บริการอย่างเป็นธรรม โปร่งใส เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชนในการใช้ระบบประกันภัย เป็นเครื่องมือบริหารความเสี่ยงจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด และร่วมกันเสริมสร้างระบบเศรษฐกิจและสังคมไทยอย่างยั่งยืน
