Sunday, July 13, 2025
NEWS

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง แถลงผลดำเนินงาน ปี 2567 ใช้งบฯ กว่า 511 ล้าน ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง แถลงผลดำเนินงาน ปี 2567 ใช้งบฯ กว่า 511 ล้านบาท ขับเคลื่อนปณิธาน ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ประกาศเป้าหมายเชิงรุกปี 2568 ต่อยอดปณิธาน

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย วิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำทีมคณะกรรมการมูลนิธิฯ จัดแถลงผลการดำเนินงานประจำปี พ.ศ. 2567 พร้อมเผยภารกิจปี 2568 เดินหน้าเชิงรุกตามปณิธาน “ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต” โดยมีหน่วยงานในเครือร่วมขับเคลื่อนปณิธาน 

ซึ่งงานแถลงข่าวในปีนี้ มูลนิธิฯ ได้เปิดเวทีให้ผู้บริหารหน่วยงานในเครือประกอบด้วย โรงพยาบาลหัวเฉียว คลินิกการประกอบโรคศิลปะ สาขาการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว (คลินิกการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว) และมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ ร่วมแถลงผลการดำเนินงานเพื่อสังคม 

ภายในงาน ยังจัดให้มีจุดบริการตรวจรักษาโรคทั่วไป โดยหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชนมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง รวมถึง ตรวจรักษาโรคโดยศาสตร์การแพทย์แผนจีน จาก คลินิกการแพทย์แผนจีนหัวเฉียวแก่ประชาชน โดยมีสื่อมวลชน ผู้มีอุปการคุณ แขกผู้มีเกียรติ ผู้มีจิตศรัทธา ภาคีเครือข่ายร่วมงาน ณ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ 

วิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เผยว่า ในปี พ.ศ.2567 ที่ผ่านมา มูลนิธิฯ ได้ใช้งบประมาณในการช่วยเหลือประชาชน กว่า 511 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีพ.ศ.2566 ซึ่งใช้งบประมาณราว 501 ล้านบาท โดยแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 3 ด้าน คือ ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ตามปณิธานของมูลนิธิฯ โดยมีรายละเอียดดังนี้

ใช้เงินกว่า 166 ล้าน ช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์

ด้านการช่วยชีวิต มูลนิธิฯ มี ทีมบรรเทาสาธารณภัยและฌาปนกิจสุสานพร้อมด้วยอาสาสมัครฯ ออกปฏิบัติการช่วยเหลือ โดยมีการประสานงานทั่วประเทศ และรับแจ้งเหตุผ่าน สายด่วนและแอปพลิเคชัน ป่อเต็กตึ๊ง 1418 รวมถึงให้การสนับสนุนงานนิติเวช 

และมี สุสานมูลนิธิฯ ฝากฝังศพไร้ญาติ ที่จังหวัดสมุทรสาคร รวมถึงให้การสงเคราะห์โลงศพแก่ผู้ยากไร้ รวมถึงผ่านหน่วยงานต่างๆ ทั่วประเทศ 

นอกจากนี้ มูลนิธิฯ ยังมี แผนกสาธารณภัย ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ ที่ให้การช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบสาธารณภัยต่างๆ อาทิ เมื่อปี 2567 ประเทศไทยได้เกิดเหตุมหาอุทกภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคเหนือ และ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มูลนิธิฯ ได้บูรณาการทั้งทีมบรรเทาสาธารณภัย และทีมสาธารณภัย ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ ได้บูรณาการความช่วยเหลือครอบคลุมการช่วยชีวิตเมื่อประสบเหตุ และฟื้นฟู เยียวยา 

รวมถึง แผนกฝึกอบรม ของมูลนิธิฯ ยังคงเดินหน้าเผยแพร่องค์ความรู้ เพื่อป้องกัน และลดการสูญเสีย แก่หน่วยงาน องค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน 

รวมงบประมาณในด้านการ ช่วยชีวิต เป็นจำนวนเงินกว่า 166 ล้านบาท มีผู้ได้รับการช่วยเหลือ จำนวน 491,905 คน

มุ่งมั่นการรักษาชีวิตและสร้างชีวิต

ด้านการรักษาชีวิต มูลนิธิฯ มีหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชนให้บริการตรวจรักษาประชาชนทั้งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงถิ่นทุรกันดาร และยังสนับสนุนห้องผ่าตัด อุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์แก่โรงพยาบาลต่างๆ ที่ขาดแคลน โดยในปี 2567 ได้ออกให้บริการ 126 ครั้ง มีผู้เข้ารับบริการ 59,854 คน และใช้งบประมาณในาส่วนนี้กว่า 7.2 ล้านบาท

หนึ่งในโครงการภายใต้ด้านการรักษาชีวิตคือ โครงการสนับสนุนเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้โรงพยาบาลที่ขาดแคลน 29 แห่ง โดยร่วมกับหน่วยงานในสังกัด ได้แก่ โรงพยาบาลหัวเฉียว คลินิกการประกอบโรคศิลปะ สาขาการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว 

เป็นรายการสนับสนุนมากกว่า 42 รายการ อาทิ ห้องผ่าตัดปลอดเชื้อ, ชุดเครื่องมือผ่าตัดผ่านกล้อง, เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าฯ รวมงบประมาณการสนับสนุนเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์กว่า 38.4 ล้านบาท ซึ่งรวมงบประมาณของด้านการรักษาชีวิตในปี 2567 อยู่ที่ 66.4 ล้านบาท

ด้านการสร้างชีวิต มูลนิธิฯ จัดโครงการต่างๆ กว่า 10 โครงการ ครอบคลุมด้านการศึกษา การประกอบอาชีพ และการดำรงชีพ เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน รวมถึงขยายขอบข่ายการช่วยเหลือโครงการให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของสังคมในปัจจุบัน รวมงบประมาณด้านการสร้างชีวิต และการดำเนินงานอื่นๆ ของมูลนิธิฯ กว่า 278 ล้านบาท มีผู้ได้รับการสงเคราะห์จำนวน 956,645 คน

หลังจากนั้น มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้เปิดเวทีให้หน่วยงานในเครือได้กล่าวถึงภารกิจเพื่อสังคม โดย แพทย์หญิงมนนภา
ขุนณรงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลหัวเฉียว ได้กล่าวถึงรายละเอียดโครงการในด้านช่วยเหลือสังคมรวม 7 โครงการ รวมจำนวนการช่วยเหลือกว่า 29 ล้านบาท 

โดยในปี 2567 โดยโครงการที่มูลนิธิฯ ได้ให้สนับสนุนงบประมาณช่วยเหลือมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ โครงการช่วยเหลือผู้ป่วยฟอกไต (กว่า 12 ล้านบาท) รถ X-Ray Digital Mobile เพื่อบริการชุมชน ที่มูลนิธิฯ มอบให้กับโรงพยาบาลหัวเฉียวเมื่อปี 2566 โดยในปี 2567 ได้ลงพื้นที่ออกบริการประชาชน ซึ่งมูลนิธิฯ ได้สนับสนุนงบประมาณในส่วนนี้กว่า 7.4 ล้านบาท และโครงการสงเคราะห์ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วย (กว่า 2 ล้านบาท)

ย้ำการเป็นศูนย์กลางการแพทย์แผนจีนในประเทศไทย

อรัญ เอี่ยมสุรีย์ ผู้อำนวยการคลินิกการประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว และคณะกรรมการมูลนิธิฯ เปิดเผยว่า คลินิกการแพทย์แผนจีนหัวเฉียวนอกจากจะให้บริการทางการแพทย์แผนจีนครบวงจร ในราคาที่เป็นธรรม ไม่แสวงหาผลกำไร ยังเป็นศูนย์กลางการแพทย์แผนจีนแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนในประเทศไทย 

ในการดำเนินงานนั้น มีโครงการเพื่อสังคมที่ดำเนินการหลากหลายมิติ อาทิ โครงการสงเคราะห์ผู้นำครอบครัวที่ป่วยด้วยโรคหลอดเลือดสมอง โครงการเผยแพร่ความรู้การดูแลสุขภาพแก่ภาคประชาชน การออกหน่วยตรวจรักษาและให้คำปรึกษาทางด้านการแพทย์แผนจีน 

และร่วมแจกชาสมุนไพรจีน ผลิตภัณฑ์หย่างเซิงเสริมสร้างสุขภาพ ฯลฯ เป็นต้น โดยในปี 2567 ให้บริการรักษา ป้องกัน ส่งเสริม และฟื้นฟูร่างกายผู้ป่วย รวมกว่า 325,720 ราย

ม.หัวเฉียวตอกย้ำปณิธาน การให้

รองศาสตราจารย์ ดร.อุไรพรรณ เจนวาณิชยานนท์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยฯ ได้ขับเคลื่อนพันธกิจตอบโจทย์ การสร้างชีวิต ผ่าน 4 มิติเด่นเพื่อสังคม ได้แก่ หนึ่ง หลักสูตรใหม่ตอบโจทย์สังคม โดยจัดให้มี 3 หลักสูตรใหม่ ตอบโจทย์สังคมและโครงการนักศึกษาแลกเปลี่ยน 5 ประเทศกว่า 1,500 คน 

สอง ส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อสังคม บ่มเพาะจิตอาสา! กว่า 50 รายวิชา ช่วยเหลือชุมชน และทุนการศึกษา กว่า 30 ล้านบาท วิจัยเพื่อพัฒนาสังคม สร้างงานวิจัยโดยใช้นวัตกรรมพัฒนาชุมชนสมุทรปราการ สร้างสรรค์เศรษฐกิจ รักษ์สิ่งแวดล้อม และดูแลสุขภาพ และ การบริการสังคม กว่า 40 โครงการ บริการสังคม ตอกย้ำปณิธานการให้

ประกาศ ศาลเจ้าไต้ฮงกงหยกขาว พร้อมให้ประชาชนสักการะสิ้นปี 2568

ต่อมา วิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง กล่าวรายงานผลความคืบหน้าการก่อสร้างศาลเจ้าไต้ฮงกงหยกขาว พุทธสถานประวัติศาสตร์แห่งการรวมพลังศรัทธาของหลวงปู่ไต้ฮง อันเป็นที่ประดิษฐานองค์ไต้ฮงกงหินหยกขาวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย ซึ่งผลความคืบหน้าล่าสุด ณ วันที่ 23 เมษายน พ.ศ.2568 โดยรวมแล้วดำเนินการไปกว่า 96.25% 

ส่วนของโครงสร้างอาคารเสร็จสมบูรณ์ 100 % งานตกแต่งลวดลายประเพณีจีน รวมถึงประติมากรรมจีนต่างๆ ดำเนินการไปแล้วกว่า 90 % นอกจากนี้ ในส่วนของงานปรับปรุงภูมิทัศน์ภายในสวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ดำเนินไปกว่า 76% โดยศาลเจ้าไต้ฮงกงหยกขาวแห่งนี้ คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดให้สาธุชนได้เข้ากราบไหว้สักการะภายในปี 2568 นี้