2020 กับ 2 เรื่องใหญ่ทางทหารในด้านอวกาศ (The two big military space stories of 2020)
“ผู้เขียนขอเสนอมุมมองและรายละเอียดที่น่าสนใจ จากภารกิจทางการทหารของกองทัพอากาศทั้งของสหรัฐฯ และรัสเซียในด้านอวกาศที่มีความสำคัญ 2 อันดับแรกแห่งปี ค.ศ.2020 ที่ทั้งคู่ต่างมองเป้าหมายพยายามแย่งชิงความได้เปรียบและการเป็นเจ้าอวกาศ
ครบรอบหนึ่งปีแรกสำหรับ กองกำลังทางอวกาศของสหรัฐฯ (U.S. Space Force) อันเป็นระยะเวลาที่เต็มไปด้วยเหตุการณ์ต่างๆ ที่จัดว่ามีความสำคัญต่อภารกิจของทหารในอวกาศถือเป็นหน่วยงานใหม่ที่เติบโตในกองทัพอากาศสหรัฐฯ ซึ่งเพิ่งจัดตั้งขึ้นไปจนถึงการได้รับสัญญาครั้งใหญ่สำหรับการปล่อยจรวดขึ้นสู่อวกาศ
ปี ค.ศ.2020 นั้นเป็นปีที่มีภารกิจมากมายในงานด้านอวกาศ (Space Domain) ผลมาจากเดือนธันวาคมที่ผ่านมาอดีตฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีทรัมป์ได้เสนอความคิดที่เกี่ยวกับห้วงอวกาศอย่างเป็นทางการออกมาในชื่อ “นโยบายอวกาศแห่งชาติฉบับใหม่” (A New National Space Policy)
ที่อุทิศให้กับการพัฒนาบุคลากรด้านอวกาศให้ปฏิบัติงานในรูปแบบใหม่, การปล่อยจรวดขึ้นสู่ห้วงอวกาศ และการสร้างวัฒนธรรมในการจัดลำดับความสำคัญของอวกาศ ที่ได้ประกาศออกมาตลอดปี ค.ศ.2020 แม้แต่ผู้ติดตามที่มีความกระตือรือร้นคอยเฝ้าติดตามอาจพลาดไปบางเรื่อง
และนี่เป็นเรื่องราวภารกิจของทหารในด้านอวกาศที่มีความสำคัญ 2 อันดับแรกแห่งปี ค.ศ.2020 โดยบทความในฉบับมีมุมมองและรายละเอียดที่น่าสนใจดังนี้
SPACE FORCE ถูกก่อตั้งขึ้น
ในขณะที่ประวัติศาสตร์จะกล่าวปี ค.ศ.2019 ว่าเป็นปีที่กองกำลังทางอวกาศของสหรัฐฯ (U.S. Space_Force) ถูกก่อตั้งขึ้นแต่ในปี ค.ศ.2020 เป็นปีที่การให้บริการรูปแบบใหม่ของกองกำลังทางอวกาศสหรัฐฯ เริ่มเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น
ด้วยทีมงานของ พล.อ.อ.จอห์น “เจย์” เรย์มอนด์ หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการด้านอวกาศ มีเป้าหมายอยู่ 5 อย่างในปีแรกของการก่อตั้งสาขาใหม่ทางทหารของสหรัฐฯ ในรอบ 70 ปี กล่าวได้คือ
การพัฒนาบุคลากร, การพัฒนาหลักนิยม, การเสนองบประมาณที่ต้องใช้, การกำหนดในงานที่ต้องดำเนินการและการนำเสนอ U.S. Space_Force ไปยังหน่วยบัญชาการร่วม (Joint Command)
ซึ่งผลของงานในภาพรวมทีมงานของ พล.อ.อ. จอห์น เรย์มอนด์หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการด้านอวกาศ ที่ผ่านมานั้นถือว่ามีความก้าวหน้าในทุกๆ ด้าน
ยกตัวอย่างเช่น ในเดือนมกราคม ค.ศ.2020 ได้ส่งจรวด Falcon 9 ของ SpaceX ที่บรรทุกดาวเทียมบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต (Starlink) และปล่อยขึ้นสู่วงโคจรอีก 60 ดวงจากฐานปล่อยจรวด Cape Canaveral รัฐฟลอริดา
ถือเป็นเครื่องหมายการเปิดตัวครั้งแรกของหน่วยงานใหม่อย่าง Space Force ที่มีสมาชิกคนแรก พล.อ.อ. จอห์น “เจย์” เรย์มอนด์ และบุคลากรอีก 2,500 คน
ที่เหลืออยู่ก็คือ ความสามารถของหน่วยงานใดอีกที่จะถูกโอนไปยัง U.S. Space_Force ในมุมมองของผู้ติดตามมองว่าพล.อ.อ. จอห์น “เจย์” เรย์มอนด์หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการด้านอวกาศก็ยังมองโลกในแง่ดีบนความก้าวหน้าในปีแรกว่า
“ผมมองย้อนกลับไปในปีแรกของหน่วยงานด้วยความภาคภูมิใจอย่างยิ่งสำหรับงานที่ผู้เชี่ยวชาญด้านอวกาศของเราได้ทำในการสร้างสาขาใหม่ทางทหารของสหรัฐฯ (U.S. Space_Force) เพราะความก้าวหน้าที่เราทำนั้นเหนือกว่าสิ่งที่ผมคาดไว้เราได้ปรับโครงสร้างความมั่นคงปลอดภัยแห่งชาติด้านอวกาศใหม่ทั้งหมดซึ่งถือเป็นการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ”
รัสเซียยังคงทดสอบอาวุธต่อต้านดาวเทียม
ในปี ค.ศ.2019 และ ค.ศ.2020 กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (DoD: Departmentof Defense)ได้ใช้การพัฒนาและทดสอบอาวุธต่อต้านดาวเทียม (Anti-Satellite Test) จากประเทศรัสเซียเป็นเหตุผลในการก่อตั้ง Space Force
อย่างที่ทราบในปี ค.ศ.2020 รัสเซียนั้นไม่ยอมรับว่าได้ทำการทดสอบอาวุธต่อต้านดาวเทียม แต่ในความคิดของสังคมโลกกลับมีความเชื่อว่ากิจกรรมการทดสอบอาวุธต่อต้านดาวเทียมในห้วงอวกาศนั้นเป็นสิ่งที่ยั่วยุฝ่ายตรงข้าม
ซึ่งในปี ค.ศ.2020 รัฐบาลรัสเซียได้ทำการทดสอบอาวุธต่อต้านดาวเทียมจำนวน 2 ครั้งซึ่งประสบความสำเร็จโดยสามารถทำลายดาวเทียมที่โคจรรอบโลกในระดับต่ำ (LEO: Low Earth Orbit) ที่มีความสูงจากผิวโลกระยะ 300 – 700 ไมล์ได้
ผลจากการก่อตั้ง Space Force ปี ค.ศ.2020 นั้น ทำให้เกิดการตอบสนองที่รวดเร็วและตรงมาจากหน่วยงานที่รับผิดชอบ โดยแจ้งให้ทราบว่า “การทดสอบนั้นมีลักษณะเป็นภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นจริง ต่ออุปกรณ์ทางทหารที่อยู่ในห้วงอวกาศของสหรัฐฯ (Space Assets)”
พล.อ.อ. จอห์น เรย์มอนด์หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการด้านอวกาศได้กล่าวว่า“หลังจากการทดสอบครั้งแรกในเดือนเมษายนที่ผ่านมาสหรัฐฯ นั้นพร้อมและมุ่งมั่นที่จะยับยั้งในการรุกรานอีกทั้งปกป้องชาติพันธมิตรรวมทั้งผลประโยชน์ของสหรัฐฯ จากการกระทำที่ไม่เป็นมิตรในห้วงอวกาศ”
ขณะที่ พล.อ. เจมส์ ดิกคินสัน หัวหน้าหน่วยบัญชาการด้านอวกาศ (U.S. Space Command) วิพากษ์วิจารณ์รัสเซียในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เมื่อรัฐบาลของรัสเซียได้ตัดสินใจทำการทดสอบอาวุธต่อต้านดาวเทียมเป็นครั้งที่สองว่า
“รัสเซียทำให้ห้วงอวกาศกลายเป็นโดเมนแห่งการต่อสู้ด้วยการทดสอบยิงอาวุธจากฐานในอวกาศและฐานบนภาคพื้น อันมีจุดหมายเพื่อที่จะทำลายดาวเทียมข้อเท็จจริงนี้ไม่สอดคล้องกับความคิดของประชาชนในมอสโกที่อ้างว่ารัสเซียได้พยายามป้องกันความขัดแย้งในอวกาศ”
ในมุมมองของผู้ติดตามเห็นด้วยกับพล.อ.เจมส์ดิกคินสันหัวหน้าหน่วยบัญชาการด้านอวกาศที่กล่าวว่า “ห้วงอวกาศนั้นมีความสำคัญต่อทุกประเทศเป็นความสนใจที่ร่วมกันในการสร้างเงื่อนไขสำหรับสภาพแวดล้อมของอวกาศซึ่งควรที่จะมีความมั่นคงปลอดภัยอย่างยั่งยืนในการดำเนินงาน”
ข้อคิดที่ฝากไว้
คุณนั้นในฐานะผู้ติดตามเรื่องราวภารกิจของทหารในด้านอวกาศ คงไม่พลาดใน 2 เรื่องใหญ่ที่เราได้นำเสนอในปี ค.ศ.2020 ซึ่งก็แน่นอนในปี ค.ศ.2020 นั้นเป็นปีที่มีภารกิจมากมายในงานด้านอวกาศ (Space Domain)
และปีนี้ ค.ศ.2021 ก็ดูเหมือนจะเป็นอีกหนึ่งปีที่ไม่แพ้กันเมื่อเราได้เรียนรู้เกี่ยวกับแผนดำเนินงานด้านอวกาศของทีมประธานาธิบดี Biden สำหรับภารกิจของทหารในด้านอวกาศ
สิ่งสำคัญคงต้องรอดูว่ากองกำลังทางอวกาศของสหรัฐฯ (U.S. Space_Force) นั้นจะใช้ประโยชน์จากความสามารถในด้านอวกาศเชิงพาณิชย์….ที่เกิดขึ้นใหม่ได้อย่างไร