
“ผู้นำองค์กร 81% เรียกร้องการใช้ AI อย่างรับผิดชอบ ขณะที่กว่า 80% เห็นว่า กฎระเบียบของรัฐบาลที่ไม่ชัดเจนเป็นอุปสรรคต่อการลงทุนและการนำ AI มาใช้ ส่งผลให้การนำมาใช้ล่าช้า
ผลวิจัยฉบับล่าสุดเรื่อง The AI Responsibility Gap: Why Leadership is the Missing Link จาก NTT DATA Inc. เปิดเผยถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการขับเคลื่อนนโยบายการบริหาร AI ด้วยความรับผิดชอบเชิงจริยธรรม แต่พบว่า มีช่องว่างด้านความรับผิดชอบที่อาจส่งผลกระทบต่อความก้าวหน้า
โดยมากกว่า 80% ของผู้บริหารยอมรับว่า ความเป็นผู้นำ ความสามารถในการกำกับดูแล และความพร้อมของพนักงาน ไม่สามารถก้าวทันความก้าวหน้าของ AI ซึ่งส่งผลให้การลงทุน ความปลอดภัย และความไว้วางใจจากสาธารณชนตกอยู่ในความเสี่ยง
ดังนั้น งานวิจัยนี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการพัฒนาแนวทางใหม่เพื่อสนับสนุนการใช้ AI อย่างมีความรับผิดชอบและปลอดภัย เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
อภิจิต ดูเบย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ NTT DATA Inc. กล่าวว่า “ผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่า การใช้นวัตกรรมโดยไม่มีความรับผิดชอบคือการเพิ่มความเสี่ยง องค์กรจำเป็นต้องมีการบริหาร AI ที่ขับเคลื่อนด้วยความเป็นผู้นำเพื่อปิดช่องว่างนี้ ก่อนที่ความก้าวหน้าจะชะงักงันและความไว้วางใจจะเสื่อมลง”
ประเด็นสำคัญสำหรับผู้บริหาร : ช่องว่างด้านความรับผิดชอบของ AI กำลังมีมากขึ้น
- นวัตกรรม vs ความรับผิดชอบ ทีมผู้บริหารมีความเห็นแบ่งออกเป็นสามกลุ่ม คือ หนึ่งในสามของผู้นำให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบมากกว่านวัตกรรม อีกหนึ่งในสามให้ความสำคัญกับนวัตกรรมแม้จะเสี่ยงกับความปลอดภัย ขณะที่หนึ่งในสามที่เหลือมองว่าทั้งสองด้านมีความสำคัญเท่ากัน
- ความไม่ชัดเจนของกฎระเบียบขัดขวางความก้าวหน้า ผู้บริหารกว่า 80% บอกว่ากฎระเบียบของรัฐบาลที่ไม่ชัดเจนเป็นอุปสรรคต่อการลงทุนและการนำ AI มาใช้ ส่งผลให้การนำมาใช้ล่าช้า
- การพิจารณาด้านความปลอดภัยและจริยธรรมตามไม่ทันความก้าวหน้าของ AI ผู้บริหารระดับสูง 89% แสดงความกังวลเกี่ยวกับภัยคุกคามด้านความปลอดภัยของ AI แต่มีเพียง 24% ของผู้บริหารฝ่ายสารสนเทศ (CISOs) เท่านั้นที่เชื่อว่าองค์กรของตนมีกรอบการทำงานที่แข็งแกร่งในการสร้างสมดุลระหว่างความเสี่ยงของ AI และการสร้างคุณค่า
- พนักงานยังไม่พร้อม ผู้บริหาร 67% ระบุว่าพนักงานของตนขาดทักษะในการทำงานร่วมกับ AI อย่างมีประสิทธิภาพ และ 72% ยอมรับว่าไม่มีนโยบาย AI เพื่อให้การใช้งานเป็นไปอย่างรับผิดชอบ
- ความกังวลเรื่องความยั่งยืน ผู้นำ 75% เชื่อว่าความทะเยอทะยานของ AI ขัดแย้งกับเป้าหมายความยั่งยืนขององค์กร ทำให้องค์กรต้องคิดใหม่เกี่ยวกับกลยุทธ์ AI ที่ใช้พลังงานมาก

ภารกิจความเป็นผู้นำ : ปิดช่องว่างด้านความรับผิดชอบใน AI
หากไม่มีการดำเนินการที่เด็ดขาด องค์กรต่างๆ เสี่ยงที่จะเผชิญกับอนาคตที่ความก้าวหน้าของ AI ล้ำหน้าไปมากเกินกว่าที่จะกำกับดูแลการใช้งาน AI เป็นไปอย่างมีจริยธรรม ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ ดังนั้น ผู้นำต้องแก้ไขประเด็นต่อไปนี้
- หลักการรับผิดชอบตั้งแต่การออกแบบ AI และ GenAI ต้องถูกพัฒนาอย่างรับผิดชอบตั้งแต่ต้นจนจบ โดยรวมถึงความปลอดภัย การปฏิบัติตามกฎระเบียบ และความโปร่งใสในการพัฒนาตั้งแต่วันแรก
- ข้อบังคับการกำกับดูแล ผู้นำต้องก้าวข้ามความต้องการทางกฎหมายและมาตรฐานทางจริยธรรมและสังคมของ AI โดยใช้วิธีการอย่างเป็นระบบ
- ความพร้อมของพนักงาน องค์กรต้องพัฒนาทักษะพนักงานเพื่อทำงานร่วมกับ AI และให้ทีมงานเข้าใจถึงความเสี่ยงและโอกาสของ AI
- ความร่วมมือระดับโลกด้านนโยบาย AI ภาคธุรกิจ ผู้กำกับดูแล และผู้นำในอุตสาหกรรมต้องร่วมมือกันสร้างกรอบการกำกับดูแล AI ที่ชัดเจนและสามารถดำเนินการได้ พร้อมทั้งกำหนดมาตรฐาน AI ระดับโลก
ผู้บริหาร NTT DATA กล่าวด้วยว่า ถ้าแนวทางของ AI ชัดเจน ผลลัพธ์ของมันจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่หากไม่มีผู้นำที่เด็ดขาด เราเสี่ยงที่จะเผชิญอนาคตที่นวัตกรรมแซงหน้าเรื่องความรับผิดชอบ ซึ่งจะนำไปสู่ช่องโหว่ด้านความปลอดภัย การละเลยจริยธรรม และการสูญเสียโอกาส
“ภาคธุรกิจต้องดำเนินการในทันที โดยการผสานความรับผิดชอบลงในแกนหลักของ AI ตั้งแต่การออกแบบ การกำกับดูแล การเตรียมความพร้อมของพนักงาน และแนวทางปฏิบัติด้านจริยธรรม เราจะสามารถนำศักยภาพของ AI มาใช้ได้อย่างเต็มที่ และจะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจ พนักงาน และสังคมโดยรวม”
รายงานนี้เน้นย้ำถึง ความสำคัญของการพัฒนาแนวทางใหม่เพื่อสนับสนุนการใช้ AI อย่างมีความรับผิดชอบและปลอดภัย เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
Featured Image: Image by freepik