
“องค์กรควรหันมาวางกลยุทธ์ด้วยการนำ AI ไปใช้ในกระบวนการต่างๆ บนข้อมูลที่พร้อม และโครงสร้างพื้นฐานที่ครบถ้วน ขับเคลื่อนการตัดสินใจและประสิทธิภาพในการทำงาน
องค์กรจะเป็นอย่างไรหากต้องเปลี่ยนโฉมกลายเป็นบริษัทที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์? (AI-native company) การนำ AI มาใช้ในเชิงพาณิชย์นั้นได้ก่อให้เกิดคนรุ่นใหม่ขึ้นมา (AI-native human) กล่าวคือ มนุษย์ที่ใช้ AI เป็นหลัก มนุษย์เหล่านี้เติบโตขึ้นมาพร้อมกับผู้ช่วยเสมือนที่สั่งงานด้วยเสียง
ประสบการณ์ดิจิทัลที่ปรับแต่งได้ และเครื่องมือที่สร้างเนื้อหาอัตโนมัติจำนวนนับไม่ถ้วน ซึ่งผ่านการใช้งานจากคนรุ่นใหม่ สำหรับคนรุ่นใหม่แล้วการใช้ชีวิตกับ AI เป็นเรื่องที่ปกติและเป็นธรรมชาติ
แต่คนรุ่นพ่อรุ่นแม่ของคนรุ่นใหม่แล้วถือเป็นเรื่องที่แตกต่างออกไป ผู้ใหญ่ในปัจจุบัน (Today’s adult) นั้นกำลังเผชิญหน้ากับเส้นทางการเรียนรู้ที่เกี่ยวกับ AI และปรากฏการณ์เดียวกันนี้ก็กำลังเกิดขึ้นกับองค์กรทางธุรกิจที่เติบโตอย่างเต็มที่ สตาร์ทอัพ (Startups) หลายพันแห่งที่เติบโตอย่างรวดเร็วเกิดขึ้นด้วยการมี AI เป็นส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์และกระบวนการต่างๆ ผลทำให้การทำงานเร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
แต่ละองค์กรจึงควรหันมาวางกลยุทธ์ด้วยการนำ AI ไปใช้ในกระบวนการต่างๆ ขององค์กร อันทำให้แน่ใจได้ว่ามีข้อมูลรวมทั้งมีโครงสร้างพื้นฐานที่ครบถ้วน พร้อมขับเคลื่อนการตัดสินใจและขับเคลื่อนประสิทธิภาพในการทำงาน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มีความจำเป็นหากองค์กรต่างๆ ต้องการที่จะเติบโตรวมทั้งยังมีความเกี่ยวข้องกับยุคใหม่ของธุรกิจและเทคโนโลยี ที่สำคัญ
องค์กรที่นำ AI มาใช้นั้น (AI-native_organization) มีลักษณะอย่างไร โดยบทความในฉบับมีมุมมองและรายละเอียดที่น่าสนใจดังนี้
ลักษณะขององค์กรที่นำ AI มาใช้

องค์กรที่นำ AI มาใช้ (AI-native_organization) นั้นกล่าวได้คือ การนำ AI มาใช้เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานภายในองค์กร หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง AI จะขับเคลื่อนการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์, ปรับกระบวนการที่สำคัญให้เหมาะสมที่สุด และขับเคลื่อนความเติบโตตั้งแต่การเริ่มต้น
บริษัทที่นำ AI มาใช้ไม่ได้มองว่า AI เป็นเครื่องมือใหม่ที่สวยงาม แต่มองว่า เป็นการเปลี่ยนแปลงพื้นฐาน (Fundamental shift) ต่อตัวตนทางธุรกิจ โดยใช้ประโยชน์จาก AI เพื่อเพิ่มความสามารถของมนุษย์ ในที่สุดเมื่อมีการนำ
AI มาใช้แพร่หลายมากขึ้น AI ที่อยู่แวดล้อม (Ambient AI) จะกลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ ทำให้เกิดการทำงานที่ร่วมกันอย่างสอดประสาน อย่างเช่น สอดประสานระหว่างมนุษย์และปัญญาประดิษฐ์ ซึ่ง AI จะเพิ่มประสิทธิภาพของมนุษย์และธุรกิจ โดยขับเคลื่อนข้อมูลเชิงลึกในแบบเรียลไทม์และการตัดสินใจที่นำไปใช้งานได้
ในบรรทัดฐานใหม่นี้พนักงานจะไม่มองข้าม AI อีกต่อไป เนื่องจากมีคุณค่าสูงและเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ที่สำคัญคือ ต้องเข้าใจว่าการเป็นบริษัทที่นำ AI มาใช้นั้น (AI-native_ company) ไม่ได้หมายความว่าต้องนำมาใช้แทนความคิดของมนุษย์
ในทางกลับกันบริษัทที่ได้ใช้ AI เป็นหลัก จะผสมผสานและเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์รวมทั้งนวัตกรรมของทีมงานมนุษย์ ด้วยพลังในการวิเคราะห์ของ AI (AI’s analytical power) เพื่อปรับปรุงในการทำงานร่วมกัน, ในผลผลิต และในการวางกลยุทธ์ของบริษัท
ข้อคิดที่ฝากไว้
การเปลี่ยนผ่านไปสู่องค์กรที่นำ AI มาใช้ (AI-native_organization) ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในกระบวนการต่างๆ ในชีวิตประจำวันของคุณ ก็เช่นเดียวกับการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ การเปลี่ยนแปลงอาจดูไม่เป็นธรรมชาติในตอนแรกและมีความท้าทายเกิดขึ้นตลอดทาง
แต่ถ้าหากคุณตั้งใจและมุ่งมั่น ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะคุ้มค่ากับความพยายามอย่างแน่นอน สตาร์ทอัพ (Startups) ในจำนวนมากสร้างธุรกิจโดยมี AI เป็นแกนหลักอยู่แล้ว เพื่อให้ทันกับความก้าวหน้าของนวัตกรรม องค์กรธุรกิจต่างๆ จะต้องก้าวสู่ความปกติแบบใหม่ (New normal) และทำงานเพื่อมุ่งสู่โลกของ AI ที่อยู่แวดล้อม (Ambient AI) สิ่งที่สำคัญก็คือความเจริญก้าวหน้าขององค์กรในอนาคตนั้นจะขึ้นอยู่กับ…ผู้ที่ลงมือทำในวันนี้
อ่านบทความทั้งหมดของ น.อ.สรรสิริ สิริสันตคุปต์
Featured Image: freepik