ดร.อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน กรรมการและประธานคณะผู้บริหาร บริษัท บีเคไอ โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BKIH เปิดเผยว่า นับเป็นความภาคภูมิใจอย่างต่อเนื่องที่บริษัทฯ ได้รับผลการประเมินอยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืนของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET ESG Ratings) ติดต่อกันเป็นปีที่ 3 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2567 ได้รับผลการประเมินในระดับ AAA ซึ่งเป็นระดับสูงสุดติดต่อกัน 2 ปี (ปี 2566 และปี 2567)
อีกทั้งยังได้รับผลคะแนนรวมสูงกว่าค่าเฉลี่ยในกลุ่มอุตสาหกรรมธุรกิจการเงิน โดยการประเมินในภาพรวมการดำเนินงานของบริษัทฯ ตามกระบวนการขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืนในมิติสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environmental, Social and Governance หรือ ESG) รวมถึงมีคุณสมบัติของบริษัทจดทะเบียนตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนด
โดยผลการดำเนินงานด้าน ESG ของบีเคไอ โฮลดิ้งส์ ที่มีความโดดเด่นด้านการมุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนและต่อเนื่อง ด้วยการบริหารงานตามหลักบรรษัทภิบาล ให้ความใส่ใจในการบริหารจัดการที่คำนึงถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และมีความรับผิดชอบต่อชุมชนรอบข้าง สังคม ตลอดจนผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มเป็นอย่างดี รวมถึงมีแนวทางการดำเนินงานและการบริหารจัดการที่แสดงให้เห็นถึงขีดความสามารถทางการแข่งขันและการสร้างโอกาสทางธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับการดูแลและรับผิดชอบต่อลูกค้า คู่ค้า พนักงาน และผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
บริษัท บีเคไอ โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BKIH ได้รับคะแนนการประเมินการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทย ประจำปี 2567 (Corporate Governance Report of Thai Listed Companies : CGR) ในระดับ 5 ดาว หรือ “ดีเลิศ” (Excellent CG Scoring)
จัดโดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) โดย บีเคไอ โฮลดิ้งส์ ได้รับคะแนนประเมิน 103 คะแนน สูงกว่าคะแนนเฉลี่ยของบริษัทจดทะเบียนไทยโดยรวม และได้รับการจัดอันดับอยู่ใน Quartile2 ของบริษัทจดทะเบียนกลุ่มธุรกิจการเงิน สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ที่ให้ความสำคัญในการกำกับดูแลกิจการที่ดีภายใต้หลักบรรษัทภิบาล
โดยคำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม และการเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใสตรวจสอบได้ ควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน รวมถึงการปรับบทบาทและภาวะผู้นำของคณะกรรมการในเชิงรุกมากขึ้น
ที่ประชุมคณะกรรมการ บริษัท บีเคไอ โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BKIH เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2567 ได้มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ครั้งที่ 1 สำหรับผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 2567 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2567 ให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 11.25 บาท โดยจะจ่ายเงินปันผลในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567
ทั้งนี้ การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวเป็นการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลครั้งแรก ภายหลังกระบวนการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (Tender Offer) โดยการแลกเปลี่ยนหุ้น BKI เป็นหุ้น BKIH แล้วเสร็จ และได้นำ BKIH เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และเริ่มทำการซื้อขายเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา โดยบริษัทฯ จะยังคงไว้ซึ่งนโยบายการจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง พร้อมมุ่งสู่การเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน
ปัจจุบัน BKIH ประกอบธุรกิจหลักผ่านการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) โดยมุ่งสร้างผลประกอบการที่ดี ด้วยการลงทุนในธุรกิจหลักด้านการประกันภัยและธุรกิจอื่นที่หลากหลายและมีศักยภาพ ขยายการลงทุนทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ยึดมั่นการดำเนินธุรกิจตามหลักธรรมาภิบาล คำนึงถึงประโยชน์สูงสุดต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม โดยปัจจุบันมีบริษัทย่อยที่สร้างรายได้หลักคือ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI ที่ดำเนินธุรกิจอย่างมั่นคงมายาวนานกว่า 77 ปี