“Ripple ชี้ความสำคัญของกรอบการกำกับดูแลสำหรับสินทรัพย์ดิจิทัล เสนอ 5 หลักการสำหรับวางนโยบายสำหรับตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล เป็นแนวทางให้หน่วยงานกำกับดูแล ผู้กำหนดนโยบาย พัฒนากฎระเบียบเกี่ยวกับบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัล
ราหุล อัดวานี ผู้อำนวยการด้านนโยบายของเอเชียแปซิฟิก, Ripple บริษัทผู้ให้บริการระบบการชำระเงินข้ามพรมแดน โซลูชันบล็อกเชนและคริปโตระดับองค์กร กล่าวว่า “เมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา_Ripple ได้จัดการประชุม Ripple_x TRM Labs Thailand Policy Summit ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมการเงินและสินทรัพย์ดิจิทัล”
“ประกอบด้วย หน่วยงานกำกับดูแล, ผู้กำหนดนโยบาย เพื่อหารือเกี่ยวกับการพัฒนาด้านกฎระเบียบเกี่ยวกับบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลก รวมถึงสิ่งที่จำเป็นในการส่งเสริมการเติบโตและนวัตกรรมสำหรับประเทศไทย”
Internet of Value ที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง
“Ripple_ตั้งวิสัยทัศน์และพันธกิจเอาไว้คือการสร้าง Internet of Value ที่หมายความถึง โลกออนไลน์ที่บุคคลสามารถถ่ายโอนมูลค่าระหว่างกันได้ทันที (โดยเฉพาะในธุรกิจการเงิน) เป็นเรื่องง่าย เหมือนกับการส่งข้อความ ที่เกิดขึ้นทันที และสื่อสารได้ทั่วโลก”
“ตลอดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา สิ่งนี้ไม่สามารถเกิดขึ้นได้โดยกระบวนการทำธุรกรรมของผู้ให้บริการในระบบการเงิน การโอนเงินจำนวนหลายล้านดอลลาร์ในแต่ละปี มีข้อบกพร่องคือ ช้า มีต้นทุนสูง และไม่มีประสิทธิภาพ”
“แนวทางการแก้ปัญหานั้น อาจต้องใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน หรือระบบโทเค็น ที่อยู่ภายใต้ กรอบการกำกับดูแลสำหรับสินทรัพย์ดิจิทัลและเทคโนโลยีบล็อกเชน”
ความสำคัญของกรอบการกำกับดูแลสำหรับสินทรัพย์ดิจิทัล
“ดังนั้น ในการผลักดันให้การแก้ปัญหาความติดขัดของธุรกรรมการเงินดิจิทัล_Ripple เห็นว่า จำเป็นต้องมีวางกรอบการกำกับดูแลและสภาพแวดล้อมการกำกับดูแล ที่สนับสนุนการใช้บล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัล”
“ในประเทศไทย Ripple_ร่วมมือกับ TRM Labs เพื่อการสื่อสารในหลักการเกี่ยวกับกรอบการกำกับดูแลสำหรับสินทรัพย์ดิจิทัลและเทคโนโลยี บล็อกเชน ในประเทศไทย ซึ่งมีส่วนร่วมจากหน่วยงานภาครัฐที่เป็นกำกับดูแล ภาคอุตสาหกรรม และสมาคมการค้าต่างๆ”
“สินทรัพย์ดิจิทัลและบล็อกเชนกลายเป็นกระแสหลักมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เราได้เห็นหน่วยงานกำกับดูแลเพิ่มมากขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เพื่อสร้างความชัดเจนด้านกฎระเบียบที่จำเป็นต่อตลาดเพื่อใช้โซลูชันเหล่านี้” ราหุล กล่าว
แชร์หลักการสำหรับตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล
“ดังนั้นเพื่อสนับสนุนหน่วยงานกำกับดูแล_Ripple จึงได้พัฒนาสิ่งที่เราเรียกว่า หลักการนโยบายสำหรับตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล 5 ประการ ประกอบด้วย”
“หลักการนโยบายข้อแรกที่เชื่อว่าจำเป็นคือ การจำแนกหมวดหมู่สินทรัพย์ดิจิทัลที่สอดคล้องกันทั่วโลกมาใช้ สิ่งนี้หมายความว่าเราต้องการอนุกรมวิธานที่ชัดเจนซึ่งแยกความแตกต่างระหว่างโทเค็นการชำระเงิน โทเค็นยูทิลิตี้ และโทเค็นการรักษาความปลอดภัย”
“เมื่อสามารถระบุ หรือจำแนกหมวดหมู่ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือโทเค็นได้แล้ว เราขอแนะนำให้ใช้หลักการนโยบายที่สองคือ กรอบการกำกับดูแลที่ละเอียดอ่อนต่อความเสี่ยง ข้อนี้หมายถึง กรอบการปฏิบัติด้านความเสี่ยง ที่ไม่ขึ้นกับเทคโนโลยี แต่อิงตามหลักการ และอิงตามความเสี่ยง หรือ เป็นกรอบการทำงานและหลักการที่ครอบคลุมในกิจกรรมเดียวกัน ความเสี่ยงเดียวกัน กฎระเบียบเดียวกัน และต้องไม่ยึดติดหรือเชื่อเทคโนโลยี”
“หลักนโยบายประการที่สาม คือ การส่งเสริมนวัตกรรมแซนด์บ็อกซ์ ซึ่ง_Ripple เชื่อว่าสิ่งนี้จะช่วยให้ผู้เข้าร่วมตลาดสามารถทดสอบโซลูชันใหม่ ด้วยการอนุญาตให้ผู้เข้าร่วมตลาดทดสอบผลิตภัณฑ์ บริการ และรูปแบบธุรกิจใหม่และเป็นนวัตกรรมในสภาพแวดล้อมที่มีการกำกับดูแลด้านกฎระเบียบ”
“หลักนโยบายที่สี่คือ ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ส่งเสริมการเจรจาระหว่างหน่วยงานกำกับดูแลและผู้เข้าร่วมตลาด และนั่นเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ มีการจัดการประชุมขึ้นในประเทศไทย เป็นการส่งเสริมการเจรจาระหว่างหน่วยงานกำกับดูแลและผู้เข้าร่วมตลาด เพื่อให้เป็นการเจรจาสองทางและทั้งสองฝ่ายสามารถหารือเกี่ยวกับประเด็นที่เกี่ยวข้องซึ่งกันและกัน”
“และหลักนโยบายหลักที่ห้าคือ มีมาตรฐานเหมือนกันทั่วโลก ด้วยมาตรฐานสากลสอดคล้องกันทั่วโลก และควรได้รับการสนับสนุนจากการแบ่งปันข้อมูลและความร่วมมือข้ามเขตอำนาจศาล”
การเติบโตของระบบการเงิน สินทรัพย์ดิจิทัลและเทคโนโลยีบล็อกเชนในเอเชียแปซิฟิกเป็นธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก สิ่งสำคัญมากคือ การสื่อสารพูดคุยและผลักดันในเรื่องหลักการต่างๆ ของธุรกิจการเงินดิจิทัล รวมทั้งสนับสนุน ไปยังหน่วยงานกำกับดูแล นักลงทุน สมาคมผู้ประกอบการ และผู้เข้าร่วมตลาดรายอื่นๆ ให้มีความเข้าใจในกรอบปฏิบัติร่วมกัน ในสินทรัพย์ดิจิทัล บล็อกเชน และระบบการเงิน
ซึ่ง Ripple_คาดหวังว่า หลักการของนโยบาย_Ripple สำหรับตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล จะได้มีส่วนช่วยสนับสนุนเป็นแนวทางให้ทุกภาคส่วนในอุตสาหกรรมนี้เติบโตได้อย่างมีเสถียรภาพ มีกรอบปฏิบัติ และเกิดประโยชน์สูงสุดกับลูกค้าและเศรษฐกิจการเงินดิจิทัล
Featured Image: Image by Freepik
