Thursday, July 17, 2025
AIIndustry4.0IoTThailand4.0

Taiwan Excellence และยุทธศาสตร์การสนับสนุน Green & Smart Manufacturing ให้อุตสาหกรรมไทย

Taiwan Excellence

Taiwan Excellence คือพาร์ตเนอร์สำคัญที่ช่วยให้ภาคอุตสาหกรรมการผลิตของไทย “ก้าวทันอนาคต” ได้อย่างมั่นใจ ด้วยเทคโนโลยีที่ชาญฉลาด ประหยัดพลังงาน ใช้งานง่าย และปรับใช้ได้จริงในบริบทของไทย เมื่อองค์กรกล้าตัดสินใจลงทุนอย่างมียุทธศาสตร์ นั่นคือจุดเริ่มต้นที่แท้จริงของ Smart Manufacturing แบบไทยๆ ที่เกิดขึ้นได้จริง

นยุคที่การผลิตต้องเผชิญกับความต้องการความเร็ว ความแม่นยำ และความยั่งยืน ไต้หวันได้กำหนดยุทธศาสตร์เพื่อก้าวสู่ผู้นำด้าน Smart Manufacturing โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล, AI, IoT, หุ่นยนต์อัตโนมัติ และ Machine Vision ผสานเข้ากับหลักการด้าน ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล)

บริษัทที่อยู่ภายใต้รางวัล Taiwan_Excellence ไม่ได้พัฒนาเพียงเทคโนโลยีที่ทันสมัย แต่ยังออกแบบให้ใช้งานง่าย ประหยัดพลังงาน และลดของเสียในกระบวนการผลิต สนับสนุนให้โรงงานเปลี่ยนผ่านสู่ระบบอัตโนมัติ โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง รวมถึงสร้างระบบที่ยืดหยุ่นและตอบโจทย์ความยั่งยืนในระยะยาว

ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรางวัล Taiwan Excellence ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งคุณภาพ นวัตกรรม และเทคโนโลยีล้ำยุคที่ผ่านการคัดเลือกอย่างเข้มข้นจากผู้เชี่ยวชาญในระดับนานาชาติ รางวัลนี้ไม่ได้มอบให้กับสินค้าทั่วไป แต่เลือกเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่แสดงให้เห็นถึง ความเป็นเลิศในด้าน R&D, การออกแบบ, คุณภาพ และกลยุทธ์ทางการตลาด อย่างครบวงจร

ในปี 2025 นี้ Taiwan Excellence ได้เข้าร่วม Manufacturing Expo ที่กรุงเทพฯ ด้วยการจัดแสดงเทคโนโลยีภายใต้ธีม Green Vision, Smart Manufacturing ซึ่งตอกย้ำวิสัยทัศน์ของไต้หวันในการผลักดันโรงงานอัจฉริยะที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและพร้อมรับมือกับความท้าทายใหม่ของอุตสาหกรรม 4.0

Taiwan Excellence
ดร.ดง ซื่อฉี (ที่ 6 จากซ้าย) รองผู้แทน สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปประจำประเทศไทยและไต้หวัน ถ่ายภาพร่วมกับคณะผู้บริหาร Taiwan Excellence ในการเข้าร่วมงาน Manufacturing Expo 2025 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค กรุงเทพฯ ภายใต้แนวคิด Green Vision, Smart Manufacturing

การเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมไทย และโอกาสจาก Taiwan Excellence

ประเทศไทยในฐานะฐานการผลิตสำคัญในอาเซียนกำลังเผชิญแรงกดดันจากความต้องการผลิตสินค้าคุณภาพสูงในต้นทุนที่ต่ำลง ผู้ประกอบการไทยจึงจำเป็นต้องเร่งปรับตัวเข้าสู่ Smart Factory ผ่านการลงทุนด้าน ระบบอัตโนมัติ, การตรวจสอบด้วย AI, และหุ่นยนต์ร่วมงาน

นี่คือจังหวะที่ Taiwan Excellence เข้ามาเติมเต็ม ด้วยการนำเสนอเทคโนโลยีที่ประสิทธิภาพสูง แต่ราคาเข้าถึงได้, ติดตั้งและใช้งานง่าย แม้ในโรงงานขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) มีความยืดหยุ่นและโมดูลาร์ รองรับการขยายในอนาคต และสอดคล้องกับนโยบายอุตสาหกรรมของไทย เช่น BCG Economy, Thailand 4.0 และ Net Zero

บริษัทเด่นจาก Taiwan Excellence ที่ควรจับตา

ในงาน Manufacturing Expo ที่กรุงเทพฯ Taiwan_Excellence ได้นำเทคโนโลยีระดับแถวหน้ามาโชว์หลายๆ ระบบ อาทิ ระบบ AR+AI สำหรับตรวจสอบคุณภาพ, โคบอทอัจฉริยะ, และ PLC อุตสาหกรรมประสิทธิภาพสูง ซึ่งเป็นโซลูชันพร้อมใช้งานได้จริงในโรงงานไทย แต่บริษัทที่มีเทคโนโลยีที่โดดเด่น คือ

Solomon Technology แพลตฟอร์ม META‑aivi Solomon เปิดตัวแพลตฟอร์ม META‑aivi ที่รวมพลังของ AI + AR + Vision เข้าด้วยกัน เพื่อให้โรงงานสามารถวิเคราะห์ภาพ วัตถุ หรือความผิดปกติในสายการผลิต แบบเรียลไทม์ ผ่านอุปกรณ์ AR เช่น สมาร์ทโฟนหรือแว่นตาอัจฉริยะ

มีความสามารถในการตรวจจับวัตถุ, อ่าน QR Code, วิเคราะห์ตำแหน่ง, ตรวจสอบรอยตำหนิ เหมาะสำหรับงาน QC, การฝึกอบรม, การประกอบชิ้นส่วนด้วยมือ ที่สำคัญไม่ต้องเขียนโค้ดซับซ้อน – ฝึก AI ด้วยระบบลากวาง (Drag & Drop)

Taiwan Excellence

Techman Robot กับผลิตภัณฑ์ TM Cobot พร้อม TMvision Techman Robot นำเสนอหุ่นยนต์โคบอทรุ่นล่าสุดที่ใช้งานง่ายที่สุดในตลาด โดย TM Cobot มาพร้อมกล้องในตัว และระบบ TMvision สำหรับจับวัตถุอัจฉริยะ

พร้อมด้วยระบบ “No-code Programming” ให้ผู้ใช้งานตั้งโปรแกรมผ่านอินเทอร์เฟซที่เข้าใจง่าย เหมาะกับงานประกอบ ตรวจสอบ บรรจุ แพ็คสินค้า มีความปลอดภัยสำหรับทำงานร่วมกับคน และผ่านมาตรฐาน ISO

FATEK Automation Corporation – PLC คุณภาพสูงระดับโลก FATEK เป็นบริษัทไต้หวันที่เชี่ยวชาญด้านระบบควบคุมอัตโนมัติ (PLC) โดยผลิตภัณฑ์ในซีรีส์ FBs และ M-Series มีความเร็วสูงระดับนาโนวินาที และรองรับ I/O ได้หลากหลาย รองรับการเชื่อมต่อกับ SCADA, IoT, และระบบอัตโนมัติอุตสาหกรรมสมัยใหม่ มีราคาที่แข่งขันได้ และฟีเจอร์ที่ใช้งานง่ายเหมาะกับโรงงานไทยทุกขนาด

ร่วมผลักดันอุตสาหการรมการผลิตไทยให้ก้าวสู่ Green&Smart Manufacturing

การเข้ามาแสดงเทคโนโลยีของ Taiwan_Excellence ต้องการนำเสนอหัวใจของแนวคิด Green Vision, Smart Manufacturing คือการพัฒนาอุตสาหกรรมให้ ทันสมัย มีประสิทธิภาพ และรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งลดต้นทุน-ลดผลกระทบ และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน

ซึ่งผู้บริหารจากสามบริษัทจาก Taiwan_Excellence ทั้ง Solomon, Techman Robot และ FATEK ได้อธิบายถึงแนวทาง และเทคโนโนโลยีที่จะเข้ามาช่วยภาคการผลิตไทยอย่างไร

เริ่มจาก ภัทร จ้อยประดิษฐ์ Head of AI Business ของ Solomon อธิบายว่า “ผลิตภัณฑ์ META‑aivi จาก Solomon Technology สามารถตอบโจทย์เรื่อง Smart Manufacturing ในประเด็นสำคัญๆ อาทิ เทคโนโลยี AR Interface ช่วยฝึกอบรมพนักงานโดยไม่ต้องพิมพ์คู่มือ/เสียเวลาสอนนาน” 

Taiwan Excellence
ภัทร จ้อยประดิษฐ์ Head of AI Business, Solomon

“ทำให้ คน + เทคโนโลยี ทำงานร่วมกันได้ลื่นไหล สามารถตรวจสอบกระบวนการได้ เรียลไทม์ ช่วยลดความผิดพลาดจากมนุษย์ (Human Error) เหมาะกับโรงงานไทยที่มีข้อจำกัดเรื่องแรงงานและต้องการควบคุมคุณภาพโดยไม่เพิ่มต้นทุน”

“ขณะที่เรื่องแนวคิดเรื่อง Green Vision อาศัยหลักการ ลดของเสีย เพิ่มความแม่นยำแบบเรียลไทม์ โดยระบบ AI Vision ตรวจสอบคุณภาพสินค้าอัตโนมัติ ทำให้สามารถลดการผลิตสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน (Defect Rate), ลดของเสียจากการผลิต (Waste & Scrap) และลดการใช้งานทรัพยากรโดยไม่จำเป็น”

ในขณะที่ เรย์ วู SEA Sales Supervisor จาก Techman Robot อธิบายว่า TMCobot + TMvision จาก Techman Robot เป็นเทคโนโลยีที่ใช้พลังงานน้อย ทำงานไว และปลอดภัย ซึ่งในการช่วยผลักดันเรื่อง Smart Manufacturing นั้น TMvision ช่วยให้หุ่นยนต์ “มองเห็น” และ “ตัดสินใจ” ได้เอง

เช่น การวางของ, ตรวจสอบตำแหน่งโดยไม่ต้องเขียนโค้ด ซึ่งพนักงานไทยสามารถเรียนรู้และใช้งานได้เอง และทำงานร่วมกับคนได้โดยไม่ต้องติดตั้งรั้วนิรภัย มีความยืดหยุ่นในการปรับ layout โรงงาน ที่สำคัญ เหมาะกับ SME ไทยที่อยากเพิ่มระบบอัตโนมัติ แต่ไม่มีทีมวิศวกรเขียนโปรแกรม

ในส่วนของ Green Vision นั้น หุ่นยนต์โคบอทของ Techman ใช้ พลังงานต่ำกว่าหุ่นยนต์อุตสาหกรรมขนาดใหญ่สามารถช่วยให้การผลิตเป็นแบบ Lean ลดความสิ้นเปลือง และประหยัดพื้นที่ และส่งเสริมให้เกิดการทำงานเฉพาะเมื่อจำเป็น ลดพลังงานที่สูญเปล่าในรอบที่ไม่ได้ใช้งาน เรย์ วู กล่าว

นอกจากนั้นแล้ว แฮงค์ เซิง Section Manager Sales and Marketing Division จาก FATEK Automation Corporation อธิบายในมุมของเขาว่า “การเข้าร่วมแสดงเทคโนโลยีในครั้งนี้ FATEK Automation Corporation ได้หยิบเอาหลักการ PLC ประหยัดพลังงาน และเชื่อมต่อ IoT มาเสนอต่ออุตสาหกรรมในไทย”

“โดย Smart Manufacturing นั้น ผลิตภัณฑ์ของเรารองรับ การเชื่อมต่อ IoT / SCADA เพื่อดูข้อมูลจากโรงงานแบบเรียลไทม์ และสามารถรองรับการทำงานแบบ Edge Computing เพื่อลดภาระการส่งข้อมูลไปคลาวด์ ที่สำคัญมีระบบโมดูลขยาย (Expansion Modules) ที่ช่วยปรับระบบได้ตามขนาดโรงงาน”

“ส่วนเรื่อง Green Vision นั้น อุปกรณ์ PLC จาก FATEK รองรับการควบคุม การใช้พลังงาน, การตรวจจับโหลด, ระบบตรวจสอบกำลังไฟฟ้า ที่สามารถช่วยให้ผู้ผลิต วิเคราะห์และลดการใช้พลังงานโดยรวมได้แม่นยำขึ้น เหมาะกับโรงงานที่มีสายการผลิตอยู่แล้ว และต้องการอัพเกรดสู่ Smart Factory โดยไม่ต้องรื้อระบบทั้งหมด”

นำประสบการณ์ระดับโลกมาสู่อุตสาหกรรมไทย

ผู้บริหารอธิบายว่า โรงงาน 3 แห่งที่นำเทคโนโลยีจาก Solomon, Techman Robot และ FATEK ไปใช้แล้วเห็นผลสำเร็จในเชิง ประสิทธิภาพการผลิต, ลดต้นทุน และ ความยั่งยืน อย่างเป็นรูปธรรม อาทิ 

โรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่แห่งหนึ่ง ที่มีการติดตั้งระบบ META‑aivi ของ Solomon ทำให้กล้อง AI มองชิ้นงาน ตรวจสอบรอยขีด, ขาดวงจร, ความเบี้ยวของอุปกรณ์ และใช้ แว่น AR แสดงผลวิเคราะห์ทันที พร้อมคำแนะนำให้ผู้ควบคุมสายงาน

ได้ผลลัพธ์ที่มีนัยสำคัญ คือสามารถลดอัตราสินค้าชำรุดลงจาก 3.5% เหลือ 0.7% ลดเวลาในการเทรนพนักงานใหม่ลง 50% และสามารถลดการพิมพ์เอกสารคู่มือ QC ได้กว่า 80% 

ขณะที่โรงงานบรรจุภัณฑ์อาหารรายหนึ่ง ใช้ Techman Robot – TM Cobot + TMvision ให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจหลายประการ อาทิ เพิ่มความเร็วการบรรจุ 30%, ลดอัตราความเสียหายของขวดระหว่างแพ็คจาก 2.1% ลงเหลือ 0.2% ขณะที่พนักงานเดิมถูกปรับบทบาทไปดูแลคุณภาพ เป็นการเพิ่มมูลค่าแรงงาน และที่สำคัญสามารถลดพลังงานกว่า 20% เทียบกับการใช้หุ่นยนต์อุตสาหกรรมทั่วไป

และกรณีศึกษาอีกรายจากโรงงานผลิตเครื่องจักรกล ที่ใช้ PLC + Motion Control จาก FATEK สามารถลดการใช้พลังงานทั้งระบบลง 18%, ลด downtime เพราะมีการวิเคราะห์ล่วงหน้าจาก log การทำงาน และสามารถขยายระบบได้ง่ายขึ้นเมื่อเพิ่มเครื่องจักร เพราะโมดูลของ FATEK รองรับการต่อขยายได้อย่างยืดหยุ่น

การถ่ายทอดเทคโนโลยีจาก Taiwan_Excellence กับการพัฒนาอุตสาหกรรมไทย

การเข้ามาของ Taiwan_Excellence ในงาน Manufacturing Expo 2025 ไม่ใช่แค่การนำเสนอผลิตภัณฑ์ล้ำยุค แต่คือ การถ่ายทอดเทคโนโลยีความรู้ และวิธีคิดแบบ Smart Manufacturing สู่ภาคอุตสาหกรรมไทยอย่างเป็นระบบ

แฮงค์ เซิง Section Manager Sales and Marketing Division, FATEK Automation Corporation

ผลกระทบเชิงพัฒนา ที่สามารถยกระดับขีดความสามารถในการผลิต จากการใช้แรงงานสู่ระบบอัตโนมัติที่ชาญฉลาด จากการควบคุมแบบ manual สู่การควบคุมด้วย AI, Vision และ IoT

การเปลี่ยนผ่านสู่โรงงานเขียว (Green Factory) ที่ผลักดันการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และลดของเสียในการผลิต รวมถึงการก้าวสู่การบริหารจัดการทรัพยากรแบบดิจิทัล

รวมถึงผลกระทบในเชิงบวกต่อ การสร้างบุคลากรที่ทำงานร่วมกับเทคโนโลยี เพราะเทคโนโลยีจาก Taiwan Excellence ออกแบบมาให้ “เข้าใจง่าย ใช้งานได้จริง” และพนักงานไทยสามารถปรับตัวและเพิ่มทักษะด้านเทคโนโลยีโดยไม่ต้องเป็นวิศวกร

บทบาทของอุตสาหกรรมไทย: ปรับวิธีคิดเพื่อ “เลือกลงทุนที่คุ้มค่า”

ผู้บริหารไทยในยุคอุตสาหกรรม 4.0 ต้องมองการลงทุนด้านเทคโนโลยีไม่ใช่เป็น “ค่าใช้จ่าย” แต่เป็น “สินทรัพย์เชิงกลยุทธ์” ที่จะเปลี่ยนระบบผลิตทั้งองค์กร

เพราะการเลือกเทคโนโลยีจาก Taiwan_Excellence คือการลงทุนในนวัตกรรมที่ ได้รับการพิสูจน์แล้วในตลาดโลก, ใช้งานง่าย ไม่ต้องรื้อระบบเดิม สามารถเริ่มได้จากจุดเล็กก่อนขยายสเกล และรองรับ Smart Manufacturing อย่างค่อยเป็นค่อยไปแต่มั่นคง

Taiwan_Excellence คือพาร์ตเนอร์สำคัญ ที่ช่วยให้ภาคอุตสาหกรรมการผลิตของไทย “ก้าวทันอนาคต” ได้อย่างมั่นใจ ด้วยเทคโนโลยีที่ชาญฉลาด ประหยัดพลังงาน ใช้งานง่าย และปรับใช้ได้จริงในบริบทของไทย

เมื่อผู้บริหารกล้าตัดสินใจลงทุนอย่างมียุทธศาสตร์ นั่นคือจุดเริ่มต้นที่แท้จริงของ Smart Manufacturing แบบไทยๆ ที่เกิดขึ้นได้จริง