Tuesday, April 30, 2024
AIInterviewIoTLogTech

WAYLAR แพลตฟอร์มโลจิสติกส์สัญชาติไทย ปั้น 4 ยูนิตธุรกิจลุยลูกค้า B2B รับเทรนด์โลจิสติกส์ฟื้น

WAYLAR

ตลาดโลจิสติกส์เป็น Red Ocean ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง การทำตลาดในกลุ่มนี้ต้องสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว การนำเทคโนโลยีเข้ามาพัฒนาแพลตฟอร์มจึงเป็นอาวุธที่จะนำธุรกิจเติบโต

ากแนวโน้มธุรกิจโลจิสติกส์ไทยในปี 2567 ปัจจัยการฟื้นตัวของการค้าระหว่างประเทศ การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล ซึ่งส่งผลให้ผู้ประกอบธุรกิจการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (Al) และเทคโนโลยีบล็อคเชนในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ที่ทำให้สามารถติดตามสินค้าได้แบบเป็นปัจจุบัน

รวมถึงการผลักดันสู่การขนส่งสินค้าไร้กระดาษตลอดกระบวนการ และการขนส่งสินค้าที่คำนึงถึงความยั่งยืน ในการผลักดันมาตรการเพื่อลดการปลดปล่อยคาร์บอน

พันชนะ ตันติพิสุทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เวลาร์ คอร์ปอเรชั่น (WAYLAR) จำกัด

นับเป็นปัจจัยที่ส่งเสริมและสนับสนุนให้ธุรกิจโลจิสติกส์มีการเติบโต เช่นเดียวกับ เวลาร์ คอร์ปอเรชั่น (WAYLAR) บริษัทนวัตกรรมเทคโนโลยี ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มโลจิสติกส์ครบวงจรสัญชาติไทย

โดยมีแม่ทัพ พันชนะ ตันติพิสุทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เวลาร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้เปิดเผยถึงมุมมองและการขับเคลื่อนธุรกิจ สอดรับกับแนวโน้มการฟื้นตัวของธุรกิจโลจิสติกส์ด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี IoT สู่บิสซิเนสโมเดลยุคดิจิทัลทรานส์ฟอร์ม

ชูแพลตฟอร์ม IoT ต่อยอดจากโมเดลเอาท์ซอร์สสู่ แพลตฟอร์มโลจิสติกส์ครบวงจร

บริษัทฯ ดำเนินงานภายใต้แนวคิดในการพัฒนา IoT Platform (Internet of Things) โดยมุ่งใช้เทคโนโลยีมาบริหารงานจัดการงานขนส่งและโลจิสติกส์ การเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์

และมีการนำข้อมูลที่เก็บไว้อย่างเป็นระบบ ไปใช้ได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ และฉับไว ตอบรับกับการขยายตัวทางธุรกิจและการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วในยุคปัจจุบัน นับเป็นจุดแข็งของบริษัทฯ ของการดำเนินธุรกิจ

จุดเริ่มต้นของ เวลาร์ คอร์ปอเรชั่น จากการนำเทคโนโลยี ระบบจีพีเอส มาโอปอเรทธุรกิจเหมืองดีบุกและความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม โดยเริ่มก่อตั้งปี 2017 -2019 เราต่อยอดธุรกิจมาจากเอาท์ซอร์สด้านการบริหารจัดการโลจิสติกส์ของเหมืองแร่ดีบุกโดยใช้บุคลากรเข้ามพัฒนาแพลตฟอร์ม เพื่อทำงานแทนคน

“ผมมองว่าตลาดโลจิสติกส์เป็น Red Ocean ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงและมีคู่แข่งที่นำเสนอสินค้าที่คล้ายกัน ดังนั้นการทำตลาดในกลุ่มนี้ต้องสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว การที่เรานำเทคโนโลยีเข้ามาพัฒนาแพลตฟอร์มจึงเป็นอาวุธที่จะนำธุรกิจเติบโต พร้อมเดินหน้าขยายตลาดในภูมิภาคอาเซียน เป็น Economy of Scale ของเรา”

ปั้น 4 ยูนิตธุรกิจเจาะลูกค้า B2B

บริษัทฯ วางกลยุทธ์การทำตลาดแบ่งเป็น 4 หน่วยธุรกิจหลัก ดังนี้

1.หน่วยธุรกิจด้านอุปกรณ์ IoT เป็นหน่วยธุรกิจที่จัดการดูแล สรรหา อุปกรณ์ IoT เช่น อุปกรณ์ติดตามรถยนต์ (GPS) กล้องติดรถยนต์ (MDVR) และเซ็นเซอร์ตรวจจับการทำงานต่างๆ สำหรับติดตั้งในยานพาหนะหรือเครื่องจักรของลูกค้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในติดตามและการบริหารงาน โลจิสติกส์ พร้อมทั้งชูจุดเด่นในเรื่องการให้บริการหลังการขายที่มุ่งเน้นความรวดเร็ว

2.หน่วยธุรกิจด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์ หน่วยธุรกิจหลักในการพัฒนาซอฟต์แวร์ มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาซอฟต์แวร์ ที่เข้ามาสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ โดยเฉพาะการสนับสนุนผู้ประกอบการขนส่งที่เป็นลูกค้าของเวลาร์ (Buit to Suit) ที่สามารถเชื่อมโยงกับอุปกรณ์ IoT และนำข้อมูลเหล่านั้นที่ได้จากชุดอุปกรณ์ที่ติดตั้งไปวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน สำหรับผู้ประกอบการขนส่งที่เป็นลูกค้าของเวลาร์ ตัวอย่างเช่น

  • WAYLAR CONNECT: เว็บแอปพลิเคชันสำหรับบริหารและติดตามสถานะของยานพาหนะ บุคคล และงาน โดยระบบจะแสดงสถานะข้อมูลที่เป็นปัจจุบันมากที่สุด พร้อมจัดเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ สามารถดึงรายงานย้อนหลังเพื่อนำมาใช้ในการวิเคราะห์วางแผนการดำเนินงานธุรกิจได้
  • WAYLAR WORK: แอปพลิเคชันสำหรับสนับสนุนงานบริหารทรัพยากรบุคคลให้สะดวกมากยิ่งขึ้น สามารถลงเวลาเข้า – ออกงาน มอบหมายงานและตรวจสอบสถานะงานได้แบบเรียลไทม์ ช่วยลดขั้นตอนความยุ่งยากในการจัดการเก็บข้อมูล ทำให้บริหารจัดการทรัพยากรบุคคลได้อย่างคล่องตัว
  • WAYLAR BOOKING: เว็บแอปพลิเคชันสำหรับลูกค้าของเวลาร์ เพื่อจัดการคำสั่งซื้อ/บริการ รวมทั้งดูสถานะของบริการได้แบบเรียลไทม์ มีการเก็บข้อมูลคำสั่งซื้อสินค้าและบริการในรูปแบบดิจิทัล สามารถดึงรายงานและตรวจสอบย้อนหลังได้

3.หน่วยธุรกิจด้านแพลตฟอร์มการบริหารงานจัดการงานขนส่งและโลจิสติกส์ หน่วยธุรกิจที่ดูแลช่วยในการจัดสรรงานขนส่ง ผ่านแพลตฟอร์มซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมความต้องการในการบริหารงานจัดการงานระหว่างผู้ว่าจ้าง ทั้งในกลุ่ม ของ B2B, B2C และ C2C กับผู้ประกอบการขนส่งที่เป็นลูกค้าของเวลาร์

รวมถึงกองรถที่เป็น ฟลีทพันธมิตรทางธุรกิจของเวลาร์เอง ซึ่งในบริการนี้เราจะต่างจากมาร์เก็ตเพลสรายอื่นๆ โดยอธิบายต่อว่าธุรกิจโลจิสติกส์ บางแห่งมีงานเยอะ บางบริษัทมีงานน้อย ซึ่งไม่มีการแชร์ริ่งข้อมูลกัน ทำให้ไม่สามารถต่อยอดธุรกิจได้ ดังนั้นจุดแข็งของเวลาร์ คือ เข้ามาบริหารจัดการระบบขนส่ง ซึ่งมีระบบมาตรฐานการขนส่ง โดยใช้แอพพลิเคชั่นและแมชชิ่งงาน

4.หน่วยธุรกิจด้านบริการสนับสนุนอื่นๆ หน่วยธุรกิจที่มองถึงการเติบโตอย่าแข็งแกร่งและยั่งยืนระหว่าง เวลาร์ และ ผู้ประกอบการขนส่งที่เป็นลูกค้าของบริษัทฯรวมถึงกองรถที่เป็นฟลีทพันธมิตรทางธุรกิจของเวลาร์ โดยการบูรณาการชุดข้อมูลจากอุปกรณ์ IoT (IoT Data Integration) เพื่อสร้างความสมบูรณ์ให้แก่ระบบนิเวศขนส่ง

เช่น การนำวิธีการเติมน้ำมันแบบดิจิทัลเต็มรูปแบบ (digital fleet cards) มาใช้เพื่อตรวจสอบการทุจริต การเบิกจ่ายเกินจริง และวางแผนในการเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่ง รวมถึงการบูรณาการ การซ่อมบำรุง การสรรหาบุคลากร การสรรหาประกันภัย แบบ One Stop Service กับผู้ประกอบการขนส่งที่เป็นลูกค้าของเวลาร์ เพื่อลดภาระงาน รวมถึงต้นทุนค่าใช้จ่ายในการดำเนินการทางธุรกิจ

“บริษัทฯ เตรียมขยายการบริการและต่อยอดธุรกิจ โดยอธิบายต่อว่า หากบริษัทขนส่งจะเพิ่มและขยายรถมาให้บริการจะต้องผ่านกระบวนการ ตรวจสอบจากไฟแนนซ์ตามขั้นตอน แต่บริการของเราจะทำเป็นลิสซิ่ง (MA Serviced) เพื่อรองรับการขยายธุรกิจของพาร์ทเนอร์”

“พร้อมเน้นย้ำว่ารถของบริษัทฯ จะมีแค่ในส่วนของลิสซิ่งเท่านั้น แต่ไม่ได้จะมาแข่งกับลูกค้า หรือพาร์ทเนอร์บริษัทฯ เราจะเคียงข้างและขับเคลื่อนธุรกิจคู่ค้าให้เติบโต และมุ่งสู่การประสบความสำเร็จทางธุรกิจในระยะยาวไปพร้อมกัน”

ตั้งเป้าปี 67 กวาดรายได้ 500 ลบ. 

ในปีที่ผ่านมา 2566 มีรายได้ประมาณ 100 ล้านบาท ตั้งเป้าปีนี้ มีรายได้ราว 500 ล้านบาท ขณะนี้กลุ่มบิสซิเนสยูนิต 3 มีสัดส่วนรายได้มากสุดปีที่ผ่านมาประมาณ 40-50% และ ปี 67 จะปรับเป็น 70-80% ซึ่งบริษัทฯ มีเป้าหมาย ในการขยายพาร์ทเนอร์เพิ่มเติม อาทิ กลุ่มบริษัทน้ำมัน บริษัทกลุ่มรถที่นำรถใหม่ๆ เข้ามาให้บริการ เพื่อขยายธุรกิจ

ปัจจุบันมีลูกค้า 18,000 ราย ซึ่งมีตั้งแต่รถหนึ่งคันจนถึงหลักร้อยกว่าคัน แพลตฟอร์ม ของเราเน้นเรื่องดาต้า จุดแข็ง ในส่วนของแผนการตลาดมีการดำเนินการต่อยอดกับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ จากข้อมูลเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมากรมการขนส่ง มีข้อบังคับที่จะต้องติดตั้งอุปกรณ์ GPS แล้วจะต้องส่งข้อมูลเรียลไทม์ไปที่ขนส่ง มีจำนวนรถประมาณ 700,000-1 ล้านคัน ซึ่งปัจจุบันเพิ่มขึ้นตามดีมานด์ตลาด

ลงทุนสร้าง Smart Yard สู่ Eco System ครบวงจร

นอกจากนี้ยังได้ลงทุนในส่วน Smart Yard โดยบริษัทฯ สร้าง Eco System ในพื้นที่ของ Yard จัดโซนที่พักคนและจุดพักรถ เพื่อลดคอร์สและเป็นพื้นที่ที่ใกล้ลูกค้ามากที่สุด ปัจจุบันมี 1 จุดที่บางบ่อ และขยายไปอีก 4 จุดในปีนี้ พร้อมต่อยอดความเชี่ยวชาญด้านพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านโลจิสติกส์ เพื่อลงทุนด้านบุคลากร (คนขับรถ) โดยสร้างอิเล็กทรอนิกส์ CV เพื่อเป็นมาตรฐาน ต่อยอดสู่การเทรนนิ่งและเป็นบริษัทในการคัดสรรบุคลากรเสิร์ฟตลาดงานในอนาคต

ขณะนี้บริษัทฯ ได้ร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจในการจัดหารถบรรทุกใหม่ ทั้ง 4 ล้อ 4ล้อจัมโบ้ 6ล้อ และ 10 ล้อ ให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าในกลุ่มต่างๆ และยังมีแผนสรรหารถเข้าร่วมเพิ่มเติมอีกทั้งรถใหม่และมือสอง รวมทั้งรถของพันธมิตรที่จะนำมาเข้าร่วมกับบริษัท

โดยตั้งเป้าขยายฟลีทรถรวมจำนวนกว่า 1,000 คัน ผ่านแพลตฟอร์มจัดการงานขนส่งและโลจิสติกส์ ของเวลาร์ภายในปีนี้

ไทยพร้อมศูนย์กลางโลจิสติกส์

“ผมมองว่า ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์และขยายไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ พม่า สำหรับบริการไกลสุดคือ ประเทศจีน เพราะมีซัพพลายและดีมานด์สูง และย้ำจุดแข็งของบริษัทฯ ด้วยการพัฒนาแพลตฟอร์ม และระบบ GPS Tracking เป็นระบบที่เราพัฒนาเอง สามารถนำไปต่อยอดทางบิซิเนสได้ ทั้งนี้เปิดรับพันธมิตร ผู้ประกอบการทุกกลุ่มโดยต้องนำข้อมูลเมิร์ทกันก่อน แล้วบริษัทฯ จะเข้าไปบริหารรถที่ไม่มีงาน”

พร้อมปิดท้ายกับมุมมองแนวโน้มและเทรนด์ธุรกิจโลจิสติกส์ในไทยโดยให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า ในส่วนของดีมานด์การขนส่งไม่ได้กลับมาหลังโควิดยังที่มีการคาดการณ์ไว้ ซึ่งปีนี้ถือว่าสถานการณ์ซบเซา แต่จะมีการทรานซิชันกลุ่มรถเก่ามาใหม่ คาดว่าอีก 3 ปี จะฟื้นกลับมา

โดยมีปัจจัยสนับสนุนคือ ราคาของการทำตลาด Red Ocean มากขึ้น เนื่องจากซัพพลายกับดีมานด์ไม่สอดคล้องกัน ดังนั้นการเตรียมความพร้อมรองรับการเติบโตของธุรกิจจะเสริมแกร่งศักยภาพการแข่งขันของบริษัทฯ ได้อย่างยั่งยืน