Wednesday, October 9, 2024
CloudNEWSTechnology

เทนเซ็นต์ คลาวด์ ร่วมกับ แอคคลิวิส นําเสนอโซลูชันคลาวด์-ไอซีทีระดับชั้นนำ

“เทนเซ็นต์ คลาวด์” ผนึกกำลัง “แอคคลิวิส” นําเสนอโซลูชันคลาวด์-ไอซีทีระดับชั้นนำ สำหรับอุตสาหกรรมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จีน ฮ่องกง รวมถึงประเทศไทย มุ่งส่งมอบโซลูชันแบบครบวงจรที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการไอทีได้เต็มรูปแบบ ด้วยแพลตฟอร์ม Acclivis x Tencent Cloud

ทนเซ็นต์ คลาวด์ กลุ่มธุรกิจคลาวด์ภายใต้เทนเซ็นต์ ผู้ให้บริการคลาวด์ชั้นนำระดับโลก จับมือ “แอคคลิวิส เทคโนโลยี แอนด์ โซลูชันส์” (Acclivis) ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีชั้นนําในเอเชียแปซิฟิกและเป็นบริษัทในเครือของซิติก เทเลคอม อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้ง ประกาศลงนามในข้อตกลงความร่วมมือ เชิงกลยุทธ์ เพื่อนําเสนอโซลูชันคลาวด์ทั้งในแบบ Private cloud, Public cloud และ Hybrid cloud รวมถึงโซลูชันด้านไอซีทีที่ดีที่สุดให้กับองค์กรธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จีน และ ฮ่องกง

กฤตธี มโนลีหกุล รองประธาน เทนเซ็นต์ คลาวด์ อินเตอร์เนชันแนล ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) จำกัด

ด้วยความเป็นผู้นำของแอคคลิวิส ในสิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ไทย ฟิลิปปินส์ และฮ่องกง ผสานกับความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์อันแข็งแกร่งของเทนเซ็นต์ คลาวด์ในจีน จะช่วยให้ทั้งสองฝ่ายพร้อมที่จะให้บริการแก่ลูกค้าทุกองค์กรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไม่ว่าจะเป็นองค์กรที่ต้องการเปิดประตูสู่การดำเนินธุรกิจในประเทศจีน หรือผู้ประกอบการจีนที่ต้องการขยายธุรกิจไปยังตลาดต่างๆ ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย

โดยความร่วมมือนี้มุ่งมั่นที่จะส่งมอบบริการคลาวด์ และโซลูชันต่างๆ จากเทนเซ็นต์ คลาวด์ ที่มีความน่าเชื่อถือ คุณภาพ และประสิทธิภาพสูง เหมาะสำหรับธุรกิจต่างๆ ในหลากหลายอุตสาหกรรม อาทิ บริการทางการเงิน ความบันเทิง เกม สื่อและความบันเทิง ค้าปลีก และอื่นๆ

นอกจากนี้ ความร่วมมือดังกล่าวยังช่วยให้แพลตฟอร์มนี้ ส่งมอบบริการแบบครบวงจรให้กับลูกค้าได้อย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการด้านอินเทอร์เน็ต บริการที่มีการจัดการ (Managed Service) และบริการสนับสนุนทางเทคนิคด้านไอทีสำหรับ end-user เพื่อเติมเต็มความต้องการที่หลากหลาย และการสร้างความเชื่อมโยงในทุกด้านให้กับการปรับตัวสู่ยุคดิจิทัลของทุกองค์กร

โดยแพลตฟอร์มนี้นอกจากจะมีบริการไอซีทีที่ทำงานได้อย่างเต็มรูปแบบแล้วยังช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถยกระดับการประสบการณ์ของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น ผ่านการจัดการด้านไอทีที่ง่าย และไม่ซับซ้อน ด้วยเทคโนโลยี AI และ Machine Learning  อีกทั้งยังช่วยให้องค์กรสามารถลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ตามเป้าหมายที่เทนเซ็นต์ คลาวด์ และแอคคลิวิสตั้งไว้ภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้

กฤตธี มโนลีหกุล รองประธาน เทนเซ็นต์ คลาวด์ อินเตอร์เนชันแนล ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าการร่วมมือกันในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการตอกย้ำ ถึงความมุ่งมั่นของเทนเซ็นต์ คลาวด์ได้อย่างชัดเจนแล้ว ยังเป็นการร่วมกันนำเสนอโซลูชันคลาวด์ที่ดีที่สุดและมีประสิทธิภาพสูงให้กับทุกภาคส่วน

มาร์คัส เฉิง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ แอคคลิวิส เทคโนโลยี แอนด์โซลูชันส์

โดยเฉพาะองค์กรธุรกิจในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ต้องการขยายธุรกิจไปยังประเทศจีน ไปจนถึงการปูทางให้กับองค์กรธุรกิจจีนจํานวนมากสามารถมองหาโอกาสและความเป็นไปได้ในการขยายธุรกิจในตลาดของประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย

เคนเน็ธ เซียว ผู้อํานวยการระดับภูมิภาค ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และผู้จัดการทั่วไป ประจำสิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย เทนเซ็นต์ คลาวด์ อินเตอร์เนชันแนล กล่าวว่า “องค์กรธุรกิจต่างๆ ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่างพากันตื่นตัวในการใช้เทคโนโลยีคลาวด์ เพื่อช่วยให้องค์กรของพวกเขาสามารถเชื่อมต่อทางธุรกิจกับจีนได้ง่ายยิ่งขึ้น เรามีความยินดีที่ได้ทําข้อตกลงใหม่นี้ร่วมกับแอคคลิวิส เพื่อช่วยให้ธุรกิจและองค์กรต่างๆ สามารถขยายขอบเขตการดําเนินงานไปในทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นบริษัทที่มาจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือจีนก็ตาม”

มาร์คัส เฉิง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ แอคคลิวิส เทคโนโลยี แอนด์โซลูชันส์ กล่าวทิ้งท้ายว่า “พันธกิจของแอคคลิวิส คือการจัดหาโซลูชันด้านไอซีทีที่มีความครอบคลุมและเชื่อถือได้ เพื่อช่วยให้องค์กรตระหนักถึงความสำคัญของการปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัล

การต่อยอดความร่วมมือครั้งใหม่ ที่ผสานความแข็งแกร่งของเราในด้านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตและความสามารถในการบริการแบบ Managed Service ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เข้ากับประสบการณ์อันยาวนานของเทนเซ็นต์ คลาวด์ ในการให้บริการคลาวด์แก่ธุรกิจในอุตสาหกรรมต่างๆ จะช่วยให้ทั้งสองบริษัทฯ มีความแข็งแกร่ง และ ก้าวล้ำในการการเข้าถึงโอกาสทางธุรกิจมากขึ้นทั้งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประเทศจีน”