“ManageEngine ประกาศความมุ่งมั่นในการขยายธุรกิจในไทย เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลของประเทศ พร้อมเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์
เมื่อ ปลายมิถุนายนที่ผ่านมา อรุณ คูมาร์ รองประธานประจำภูมิภาค ของ ManageEngine_กล่าวในวาระการเดินทางมาสนับสนุนการขยายธุรกิจในประเทศไทยว่า “เพื่อฉลองความสำเร็จกว่า 20 ปีในการสร้างนวัตกรรมระดับโลก พร้อมชุดผลิตภัณฑ์ด้านไอทีที่ครอบคลุมมากกว่า 60 รายการ ManageEngine มีแผนการดำเนินงานเชิงกลยุทธ์ด้านการลงทุนอย่างต่อเนื่องในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”
“โดยให้ความสำคัญกับประเทศไทย ที่ถูกจัดให้เป็นหนึ่งใน พื้นที่ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และถือเป็นตลาดยุทธศาสตร์สำคัญ โดยมีกรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางหลักในการดำเนินงาน พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังได้เปิดเผยแผนการขยายธุรกิจสู่กลุ่มตลาดในเมืองรอง ที่มีศักยภาพในการเติบโต อาทิ จังหวัดชลบุรี และจังหวัดเชียงใหม่”
“ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในตลาดที่มีความเคลื่อนไหวและเติบโตอย่างรวดเร็วที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภารกิจของเราคือการส่งเสริมศักยภาพให้องค์กรธุรกิจภายในประเทศด้วยโซลูชันไอทีที่ปลอดภัยและยืดหยุ่น รองรับยุคของปัญญาประดิษฐ์และระบบอัตโนมัติในปัจจุบัน” อรุณ คูมาร์ กล่าว
ManageEngine ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาอย่างยาวนานกว่า 10 ปี และโอกาสนี้จึงได้ขยายความแข็งแกร่งในตลาดเพิ่มเติมผ่านความร่วมมือกับผู้จัดจำหน่ายชั้นนำ โดยภาพรวมการเติบโตของ_ManageEngine ประเทศไทย พบว่า มีการใช้งานระบบคลาวด์เพิ่มขึ้นถึง 30% มีอัตราการเติบโตต่อปี (YoY) อยู่ที่ 25% และมีฐานลูกค้าในประเทศไทยมากกว่า 500 ราย
กลุ่มอุตสาหกรรมหลักที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ได้แก่ ธนาคารและบริการทางการเงิน ยานยนต์ การผลิต หน่วยงานภาครัฐ และสาธารณสุข โดยในปัจจุบัน_ManageEngine ให้บริการแก่ลูกค้ารายสำคัญหลายแห่ง อาทิ CIMB, Fujikura และ Panasonic
ประกาศความมุ่งมั่นในประเทศไทย
ณัฐวิชช์ ว่องสิทธิโรจน์ ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคระดับภูมิภาค ประจำประเทศไทย ให้ข้อมูลว่า “ManageEngine_เน้นย้ำความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจระยะยาวในประเทศไทย ผ่านการดำเนินงานที่ครอบคลุมหลายด้าน ได้แก่ การจ้างงานและขยายทีมงานในประเทศ โดยเฉพาะในตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับงานด้านเทคนิคและการดูแลลูกค้า”
“การสนับสนุนและพัฒนาพันธมิตรทางธุรกิจ ผ่านการฝึกอบรมขั้นสูงและเครื่องมือเสริมศักยภาพ และการนำเสนอเทคโนโลยีด้านไอทีและความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ทันสมัย ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ระดับประเทศ อาทิ Thailand 4.0, Smart Cities และภารกิจขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของ สำนักงานพัฒนาอุตสาหกรรมดิจิทัล (depa)
“วิสัยทัศน์ของเราคือการเป็นแรงขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลในประเทศไทยอย่างมั่นคง ปลอดภัย ขยายตัวได้ และยั่งยืน”
