Friday, December 5, 2025
NEWS

ไอเอฟดีโพล เผย คนไทย 45% ยังไม่แน่ใจจะเลือกพรรคการเมืองใด

ไอเอฟดีโพล เผย คนไทยถึง 45% ยังไม่แน่ใจจะเลือกพรรคใด ขณะที่ คนอยากได้ ภูมิใจไทย แกนนำตั้งรัฐบาลรอบหน้า แซงขึ้นนำ พรรคประชาชน

มื่อวันที่ 6 ต.ค. 2568 ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ (ดร.แดน) ประธานสถาบันการสร้างชาติ ประธานสถาบันอนาคตศึกษาเพื่อการพัฒนา และ จิตติมา บุญวิทยา ผู้อำนวยการไอเอฟดีโพลและเซอร์เวย์ ร่วมแถลงผลการสำรวจความคิดเห็นประชาชนไทยตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป เรื่อง ประชาชน อยากได้–ไม่อยากได้ พรรคไหนเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ในการเลือกตั้งครั้งหน้า 

โดยมีการสำรวจกลุ่มตัวอย่าง 1,230 ราย เมื่อ 3-5 ตุลาคม 2568 ใน 6 ภูมิภาค โดยการลงภาคสนามและการโทรศัพท์ สุ่ม‍ตัวอย่างความน่าจะเป็น Stratified Five-Stage Random Sampling ค่าความผิดพลาด 3% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95% 

ประชาชนอยากได้ พรรคภูมิใจไทย 20.5%

โดยผล ไอเอฟดีโพล สำรวจความเห็นประชาชนพบว่า พรรคภูมิใจไทยขึ้นนำ (20.57%) ตามมาด้วยพรรคประชาชน (16.91%) ขณะที่ยังมีผู้ไม่เลือกพรรคใดเลย ในสัดส่วนสูง (23.82%) และ ยังไม่แน่ใจ (21.87%) โดยมี พรรคหน้าใหม่ทางเลือกใหม่ เข้ามาในสายตาบางส่วน (7.40%) ส่วนเพื่อไทยอยู่ที่ (5.28%)

ส่วน ฝั่ง ไม่อยากให้เป็นแกนนำ สะท้อนแรงต้านต่อเพื่อไทยสูงสุด (41.86%) ตามด้วยพรรคประชาชน (24.19%) และภูมิใจไทย (16.78%) สอดคล้องกับบรรยากาศความกังวลเรื่องเสถียรภาพและธรรมาภิบาลในสายตาประชาชน

เมื่อถามถึง วันนี้เห็นว่าพรรคใดมีโอกาสได้เป็นแกนนำมากที่สุด แนวโน้มไปที่ภูมิใจไทย (25.53%) ตามด้วยพรรคประชาชน (18.70%) อย่างไรก็ดี กลุ่ม ยังไม่แน่ใจ ยังคงสูง (34.96%) และ ไม่สน/ไม่ตอบ (11.30%) ขณะเดียวกัน พรรคทางเลือกใหม่ ถูกมองว่ามีโอกาส (5.85%) ส่วนเพื่อไทยอยู่ที่ (3.41%)

ทั้งนี้เมื่อดูผลแยกรายพรรคพบว่า 

พรรคภูมิใจไทย: ค่อนข้างนำมาในช่วงนี้ ประชาชน อยากให้ (20.57%) และเชื่อว่า มีโอกาสได้จริง (25.53%) ช่องว่างบวก +4.96 จุด บอกว่าใจชอบกับความเป็นไปได้ไปทางเดียวกัน ขณะ ไม่อยากให้ อยู่ที่ (16.78%) 

พรรคประชาชน: แรงเชียร์เชิงอุดมการณ์ “อยากให้” (16.91%) แต่แรงต้านสูงกว่า “ไม่อยากให้”ถึง(24.19%) ทำให้ภาพรวมติดลบ เหตุหลักที่ถูกต้านคือประเด็น ม.112 (20.50%) และมีโอกาสเป็นแกนนำ (18.70%)

ส่วนพรรคเพื่อไทย: เด่น ไม่อยากให้ สูงสุด (41.86%) ขณะที่ อยากให้ ต่ำ (5.28%) และถูกมองว่า มีโอกาสได้เป็นแกนนำ เพียง (3.41%) สะท้อนความเชื่อมั่นถดถอย อาจต้องออกแรงในช่วงนี้อย่างมาก 

ส่วนที่ ยังไม่แน่ใจ” ยังสูงทั้งพรรคที่อยากให้ (21.87%) และพรรคที่คาดว่าจะได้จริง (34.96%) ชี้ว่าประชาชนยังเปิดกว้าง โค้งสุดท้ายในการทำคะแนน สร้างความไว้ใจ มีลุ้นพลิกคะแนน 

ดร.แดน ชี้ประชาชนยังไม่ตัดสินใจ

สำหรับภาพรวมผลโพลสะท้อนว่า ช่วงก่อนเลือกตั้งนี้ ปัจจัยการจะเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลได้ในมุมมองประชาชน คือ ต้องมีอุดมการณ์ทำเพื่อประชาชน พูดจริงและทำได้จริง มุ่งแก้ปากท้อง ซึ่งคือโจทย์ใหญ่ในสายตาประชาชน 

ขณะเดียวกัน ฐานยังไม่แน่ใจ ยังสูง ทำให้เกมการเมืองยังเปิดกว้างในช่วงโค้งก่อนเลือกตั้งต้นปีหน้า พรรคใดสื่อสารโรดแมปตั้งรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ พร้อมมาตรการปากท้องที่จับต้องได้ และยืนบนความโปร่งใสตรวจสอบได้ มีโอกาสแปลงความคาดหวังเป็นความเชื่อใจและคะแนนเสียงจริง ผลสำรวจครั้งนี้จึงเป็นสัญญาณเตือนทุกพรรคให้เร่งพิสูจน์ด้วย งานที่ทำได้จริง

ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ แสดงความเห็นเพิ่มเติมว่า “จากผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน พบว่า การเมืองสามก๊กใหญ่ พรรคภูมิใจไทยพรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทย ยังไม่ใช่คำตอบของคนไทย ซึ่งประชาชนที่ไม่อยากได้พรรคไหน เมื่อรวมกับประชาชนที่ยังไม่แน่ใจจะเลือกพรรคไหน เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลมีสูงถึง 45%

แต่พรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาชนมีโอกาสมากสุดในการจัดตั้งรัฐบาลรอบหน้า แม้กระทั่งพรรคใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว ก็ยังไม่เข้าตาประชาชน ยังไม่ใช่ทางออกของประเทศ” 

“ทั้งนี้ถ้ามีพรรคใหม่ที่ดี มีหัวหน้าพรรคที่เป็นไปตามทฤษฎีแสงตะวัน เป็นดาวฤกษ์และในพรรคมีสปอตไลท์หลายๆดวงช่วยเสริม เพื่อจะช่วยดึงหลอดไฟและแสงหิ่งห้อยเข้ามาสมทบ ก็จะสามารถเป็นทางออกเป็นความหวังให้ประชาชนจะเกิดปรากฏการณ์แลนด์สไลด์ได้” 

“ซึ่งโดยธรรมชาติเกิดขึ้นได้ยากจึงต้องมีการเชิญแสงตะวันเข้ามาในพรรคใหม่ เพื่อเปลี่ยนแปลงการเมืองจากน้ำเน่าเป็นการเมืองน้ำดี หากประชาชนและนักการเมืองที่เข้ามาไม่หวังผลประโยชน์ส่วนตัว ซึ่งก็ไม่ง่ายอย่างที่คิด ถ้าหากไม่มีนักการเมือง พรรคการเมืองที่เป็นแสงตะวันตามที่กล่าวมา การเมืองไทยก็จะยังพายเรือในอ่างเข้าขั้นตกต่ำลงอีก”