Sunday, December 7, 2025
Movement

VST ECS คว้ารางวัลผู้แทนจำหน่าย Cloud ยอดเยี่ยมแห่งปีจาก Microsoft

ริษัท วีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย) จำกัด ในเครือของวีเอสที อีซีเอส กรุ๊ป ผู้นำด้านการจัดจำหน่ายสินค้าไอทีในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค รับมอบรางวัลคู่ค้ายอดเยี่ยมแห่งปี 2022 คือ Microsoft Cloud Distributor of the Year 2022 จาก ธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด

ในงาน Microsoft Thailand Partner of the Year Awards 2022 ซึ่งจัดขึ้น ณ สำนักงานใหญ่ประจำประเทศไทยของบริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด โดยวีเอสที อีซีเอส ได้รับรางวัลดังกล่าวในฐานะสุดยอดตัวแทนจำหน่ายที่สามารถสร้างยอดขายสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Microsoft Cloud และ Perpetual ได้สูงสุดในประเทศไทย

CloudDigital TransformationNEWS

INET ปักหมุดปี 66 รุกธุรกิจ Cloud Service หวังดันผลงานโต 15%

INET ทุบสถิติใหม่กำไรปี 65 พุ่งแตะ 201.76 ลบ. เพิ่มขึ้น 24% เคาะจ่ายปันผลเงินสด 0.1061 บาท/หุ้น พ่วงแจก INET-W2 อัตรา 5:1 ปักหมุดปี 66 รุกธุรกิจ Cloud Service หนุนผลงานโต 15% นิวไฮต่อเนื่อง

NEWS

สมาคมประกันชีวิตไทยเผยภาพรวมธุรกิจประกันชีวิตไทย ปี 65 และ แนวโน้มธุรกิจประกันชีวิตไทย ปี 66

าระ ล่ำซำ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย เผยภาพรวมธุรกิจประกันชีวิตของปี 2565 ระหว่าง มกราคม – ธันวาคม มีเบี้ยประกันภัยรับรวมอยู่ที่ 611,374 ล้านบาท เติบโตลดลงร้อยละ 0.45 เมื่อเทียบกับ ปี 2564 จำแนกเป็น เบี้ยประกันภัยรับรายใหม่ 169,878 ล้านบาท อัตราการเติบโตลดลงร้อยละ 0.49 และเบี้ยประกันภัยรับปีต่อไป 441,496 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตลดลงร้อยละ 0.43 โดยมีอัตราความคงอยู่ของกรมธรรม์ร้อยละ 82

สำหรับเบี้ยประกันภัยรับรายใหม่ ประกอบด้วย

1.) เบี้ยประกันภัยรับปีแรก 105,192 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.42

2.) เบี้ยประกันภัยจ่ายครั้งเดียว 64,686 ล้านบาท เติบโตลดลงร้อยละ 14.27

จำแนกเบี้ยประกันภัยรับรวมแยกตามช่องทางการจำหน่าย ดังนี้

1. การขายผ่านช่องทางตัวแทนประกันชีวิต มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 325,227 ล้านบาท อัตรา การเติบโตร้อยละ 1.43 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 53.20

2. การขายผ่านช่องทางธนาคาร มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 235,788 ล้านบาทอัตราการเติบโตลดลง ร้อยละ 3.39 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 38.57

3. การขายผ่านช่องทางนายหน้าประกันชีวิต มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 26,516 ล้านบาท อัตราการเติบโตร้อยละ 8.63 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 4.34

4. การขายผ่านช่องทางการตลาดแบบตรง มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 13,981 ล้านบาท อัตราการเติบโตลดลงร้อยละ 2.04 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 2.29

5. การขายผ่านช่องทางดิจิทัล มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 1,738 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 29.11 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 0.28

6. การขายผ่านช่องทางอื่น เช่น การขาย Worksite, การขายผ่านการออกบูธ, การขายผ่านร้านค้าสะดวกซื้อ เป็นต้น มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 8,124 ล้านบาท เติบโตลดลงร้อยละ 13.44 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 1.33

สำหรับผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่ได้รับความนิยมในปี 2565 คือ สัญญาเพิ่มเติม (Riders) โดยเฉพาะอย่างยิ่งความคุ้มครองสุขภาพและโรคร้ายแรง ที่มีเบี้ยประกันภัยรับรวมสูงถึง 103,635 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.85 หรือ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 16.95 มาจากการที่ประชาชนตระหนักถึงการดูแลและวางแผนเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพมากขึ้น

ทั้งยังสามารถเปรียบเทียบข้อมูลและเลือกแบบประกันได้ตรงตามความต้องการด้วยความสะดวกรวดเร็ว และผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตแบบบำนาญ (Pension) สามารถเติบโตได้ดีด้วยเบี้ยประกันภัยรับรวม 15,741 ล้านบาท อัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.72 หรือ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 2.57

สำหรับปี 2566 สมาคมประกันชีวิตไทยคาดการณ์ว่าธุรกิจประกันชีวิตจะมีเบี้ยประกันภัยรับรวม 612,500 – 623,500 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตระหว่างร้อยละ 0 – 2 มีอัตราความคงอยู่ของกรมธรรม์ ร้อยละ 81 – 82 ซึ่งการคาดการณ์ในครั้งนี้ก็ยังสอดคล้องกับการคาดการณ์ GDP ของประเทศที่มีการขยายตัว ร้อยละ 2.7 – 3.7 (ข้อมูลจากสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติด้วยอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทย ปี 2566)

ส่วนทิศทางผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตนั้น ภาคธุรกิจมองว่าผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่จะได้รับความนิยมและมีศักยภาพในการเติบโตสูง คือ ผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพและโรคร้ายแรง (Health & CI) เนื่องจากมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง และมีการบริการหลังการขายที่ครบวงจร (ทั้งระบบ online และ offline) เช่น telemedicine บริการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉิน (SOS) ฯลฯ โดยได้เชื่อมต่อกับระบบของโรงพยาบาลทำให้เกิดความสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าได้ครบทุกความต้องการและทุกกลุ่มเป้าหมาย

รวมถึงผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุน (Universal Life และ Unit Linked) เนื่องจากนักลงทุนเริ่มมองหาช่องทางการลงทุนใหม่ ที่มีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนที่สูงขึ้นภายใต้ระดับความเสี่ยงที่พอรับได้ รวมถึงได้รับความคุ้มครองจากการประกันชีวิตรวมอยู่ด้วย

อย่างไรก็ตามธุรกิจประกันชีวิตยังคงต้องติดตาม สถานการณ์ความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจภายในประเทศ รวมถึงแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย (Yield Curve) แต่ที่ผ่านมาภาคธุรกิจได้เตรียมความพร้อมในการปรับพอร์ตทั้งในส่วนของการลงทุนและ Product mix และทิศทางกลยุทธ์การดำเนินงานของบริษัทประกันชีวิตที่ต้องปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์อย่างทันท่วงที รวมทั้งการปฏิบัติตามมาตฐานกฎหมายสากล เช่น มาตรฐานการรายงานทางการเงิน TFRS กฏหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ดังนั้น สมาคมประกันชีวิตไทยจึงมีแผนดำเนินงานเพื่อเตรียมพร้อมรับมือต่อปัจจัยท้าทายรอบด้าน เช่น การส่งเสริมให้มีการพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตรูปแบบใหม่ ผลักดันกระบวนการให้ความเห็นชอบผลิตภัณฑ์แบบอัตโนมัติ รวมถึงการผ่อนคลายการคำนวณอัตราเบี้ยประกันภัยที่เหมาะสม สนับสนุนการพัฒนากระบวนการขายให้ครบถ้วนทุกช่องทาง สนับสนุนให้นำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานอย่างครอบคลุม เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างบริษัทและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ซึ่งช่วยบริหารต้นทุนในระยะยาว อีกทั้งการสร้างองค์ความรู้ให้แก่ประชาชนถึงการป้องกันและรู้เท่าทันเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างองค์ความรู้เพื่อป้องกันภัยจากกลุ่มผู้ไม่หวังดี ซึ่งจะเป็นการปกป้องผลประโยชน์ของผู้เอาประกันภัย รวมถึงการดำเนินงานเชิงรุกในการขอปรับปรุงกฎเกณฑ์ต่างๆ ให้เป็นปัจจุบัน ผลักดันระบบการจัดสอบความรู้ ระบบออกใบอนุญาตในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์และระบบอำนวยความสะดวกต่างๆ รวมไปถึงการประชาสัมพันธ์เชิงรุกเพื่อให้บริษัทสมาชิกและบุคคลทั่วไปใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่

อย่างไรก็ตาม สมาคมประกันชีวิตไทยยังคงยึดมั่นต่อบทบาทการเป็นแกนกลางในการประสานพันธกิจทั้งในรูปแบบประชุมหารือรับฟังความคิดเห็นที่ได้รับความร่วมมือทั้งจากบริษัทประกันชีวิตและหน่วยงานกำกับ รวมถึงการจัดตั้งคณะทำงานกลุ่มย่อย เพื่อทำงานร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) โดยมีคณะกรรมการบริหารสมาคมเป็นประธานเพื่อกำกับและติดตามงานอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ธุรกิจประกันชีวิตสามารถดำเนินการได้ตามแผนงาน และสามารถขับเคลื่อนธุรกิจ พร้อมทั้งให้บริการลูกค้าได้ทุกรูปแบบไปพร้อมกับเติบโตได้อย่างยั่งยืน

Movement

EXIM BANK ต้อนรับและร่วมบรรยายหลักสูตรผู้นำการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล

ร.เบญจรงค์ สุวรรณคีรี รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ให้การต้อนรับ พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมด้วยผู้อบรมหลักสูตรผู้นำการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital CEO) รุ่นที่ 6

จัดโดยสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดย ดร.เบญจรงค์ ร่วมบรรยายหัวข้อ “โอกาสและความเสี่ยงธุรกิจส่งออกไทย : เทคโนโลยีและบทบาทของ EXIM BANK ในการส่งเสริมเศรษฐกิจไทย” เพื่อถ่ายทอดมุมมองเกี่ยวกับโอกาสและความเสี่ยงของธุรกิจส่งออกในโลกดิจิทัลกับบทบาทของ EXIM BANK ในการขับเคลื่อนธุรกิจไทยให้เติบโตในเวทีโลก ณ EXIM BANK สำนักงานใหญ่ เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2566

NEWS

NT นำสายสื่อสารตัวเมืองพัทยาลงท่อ ร้อยสายใต้ดิน พร้อมเดินหน้าต่อ

NT ชูศักยภาพความพร้อมเดินหน้า จัดระเบียบสายสื่อสารลงท่อร้อยสายใต้ดินทั่วประเทศ ปรับภูมิทัศน์เมือง ให้สวยงามเพิ่มศักยภาพและความปลอดภัยของโครงข่ายสื่อสาร

NEWS

อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต โชว์ผลงานปี 65 แกร่ง ตั้งเป้าโต 10% ในสิ้นปี 66

อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต โชว์ผลงานปี 65 แกร่ง เดินหน้าลุยเร่งสปีดการเติบโต ด้วยกลยุทธ์ตอบโจทย์ทุกความต้องการลูกค้า ตั้งเป้าโต 10% ในสิ้นปี 66

Movement

BKI ร่วมสนับสนุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในตุรกีและซีเรีย

วีณา จูชวน (ขวา) ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI เป็นผู้แทนบริษัทฯ มอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวสาธารณรัฐตุรกีและสาธารณรัฐอาหรับซีเรีย จำนวน 500,000 บาท (ห้าแสนบาทถ้วน) ให้แก่ จันทร์ประภา วิชิตชลชัย (ซ้าย) รองผู้อำนวยการสำนักงานจัดหารายได้  สภากาชาดไทย เพื่อส่งต่อความช่วยเหลือผ่านสภาเสี้ยววงเดือนแดงตุรกีและสภาเสี้ยววงเดือนแดงอาหรับซีเรีย ในฐานะสมาชิกขบวนการกาชาดระหว่างประเทศ (RCRC Movement) ที่มีบทบาทด้านมนุษยธรรมช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยพิบัติต่างๆ ณ ห้องรับรอง ชั้น 1 ตึกอำนวยนรธรรม สภากาชาดไทย เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566

สำหรับผู้ที่ต้องการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวสาธารณรัฐตุรกีและสาธารณรัฐอาหรับซีเรีย สามารถร่วมบริจาคเงินผ่านบัญชี ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสภากาชาดไทย ชื่อบัญชี สภากาชาดไทย เพื่อภัยพิบัติ เลขที่บัญชี 045–3–04637-0

NEWS

กรุงไทย–แอกซ่า ประกันชีวิต เปิดตัว Digital Remote Selling พร้อม e-KYC

มจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต ตอกย้ำการเป็นผู้นำด้านดิจิทัลด้วยการขายประกันชีวิตดิจิทัลในรูปแบบใหม่ “Digital Remote Selling” พร้อมการระบุตัวตนและพิสูจน์ทราบตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-KYC) เพื่อรองรับการซื้อขายประกันโดยผ่านระบบดิจิทัลอย่างครบวงจร

พร้อมอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า และตัวแทนประกันชีวิต ในการซื้อ-ขาย อนุมัติ แบบประกันโดยไม่ต้องพบกัน ซึ่งการขายประกันรูปแบบใหม่นี้ ได้เสริมสร้างความมั่นใจ เพิ่มเติมความสะดวกให้กับลูกค้า และคำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุดในทุกกระบวนการ ซึ่งบริการดังกล่าวสอดคล้องกับนโยบายของบริษัทฯ ที่มีลูกค้ามาที่หนึ่ง และพร้อมจะอยู่เคียงข้างทุกความเชื่อมั่นดูแลกันตลอดไป  

Digital Remote Selling เป็นการขายประกันชีวิตในรูปแบบดิจิทัล ผ่านแอปพลิเคชัน Advisor Zone และนำเทคโนโลยีการระบุตัวตนและพิสูจน์ทราบตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-KYC) รูปแบบใหม่มาใช้ร่วมกัน ซึ่งเครื่องมือนี้เป็นอีกหนึ่งช่องทางการขายที่ทันสมัย เพิ่มความสะดวกสบายให้กับทั้งฝ่ายขายและลูกค้า

ทั้งนี้ฝ่ายขายสามารถสร้างลิงก์จากแอปพลิเคชัน Advisor Zone ส่งให้ลูกค้าผ่าน SMS และนำเสนอการขายผ่าน VDO Call ในทุกขั้นตอนตั้งแต่สอบถามความต้องการของลูกค้า ลูกค้าดำเนินการระบุตัวตนและพิสูจน์ทราบตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-KYC) ก่อนนำเสนอแบบประกันที่เหมาะสม กรอกใบคำขอ และเอกสารอื่นๆผ่านระบบออนไลน์

รวมถึง ช่วยพิจารณารับประกันเบื้องต้นแบบเรียลไทม์ และการชำระเงินผ่านระบบ พร้อมนำส่งข้อมูลเข้าสู่ระบบออนไลน์ที่มีระบบความปลอดภัยด้านข้อมูล ซึ่งช่วยลดระยะเวลาในการนำส่งข้อมูลแบบเดิม พร้อมพิจารณาใบคำขอได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละกรมธรรม์

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเรื่อง การระบุตัวตนและพิสูจน์ทราบตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-KYC) ได้ที่ https://www.krungthai-axa.co.ekyc

CloudNEWS

เทนเซ็นต์ คลาวด์ ครองแชมป์ผู้ให้บริการคลาวด์ในตลาดบริการสื่อ

เทนเซ็นต์ คลาวด์ ครองแชมป์ผู้ให้บริการคลาวด์ในตลาดบริการสื่อ จากข้อมูลของฟรอส์ท แอนด์ ซัลลิวัน บริการสื่อในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกคาดว่าจะเติบโตแตะ 6,987 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2569 ด้วยอัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้น (CAGR) ร้อยละ 27 ตลอดระยะเวลา 4 ปีข้างหน้า

1 336 337 338 339 340 415
Page 338 of 415