Friday, December 5, 2025
CybersecurityNEWS

แอคเคาท์เกมเมอร์ชาวไทย ถูกแฮกสูงสุดเกือบ 1.6 แสนรายการ

infostealer

งานวิจัยภัยคุกคามจาก Kaspersky เผยข้อมูลบัญชีเกมรั่วไหลจำนวน 11 ล้านบัญชีในปี 2024 หลายล้านบัญชีเกี่ยวกับแพลตฟอร์มเกมระดับโลก อาทิ Epic Games Store, Battle.net, Ubisoft Connect, GOG และ EA

านวิจัยภัยคุกคามใหม่จากผู้เชี่ยวชาญทีม Kaspersky Digital Footprint Intelligence (DFI) เผยข้อมูลบัญชีเกมรั่วไหลจำนวน 11 ล้านบัญชีในปี 2024 และพบว่าบัญชี Steam จำนวน 5.7 ล้านบัญชี ถูกโจมตีโดยมัลแวร์ Infostealer มัลแวร์ประเภทนี้ยังทำให้เกิดการรั่วไหลจำนวน 6.2 ล้านบัญชีที่เกี่ยวกับแพลตฟอร์มเกมระดับโลกอื่นๆ ได้แก่แอป Epic Games Store, Battle.net, Ubisoft Connect, GOG และ EA

ผู้เชี่ยวชาญแคสเปอร์สกี้ได้วิเคราะห์ข้อมูลบัญชีเกม Steam ที่รั่วไหลซึ่งเชื่อมโยงกับประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยอ้างอิงจากข้อมูลจากไฟล์บันทึกของมัลแวร์ พบว่า ข้อมูลบัญชีเกมของประเทศไทยที่รั่วไหลมีจำนวนเกือบ 163,000 รายการ 

รองลงมาคือฟิลิปปินส์ที่มีคู่ล็อกอินและพาสเวิร์ดที่ถูกบุกรุก 93,000 คู่ และเวียดนามอยู่ในอันดับสามจำนวนเกือบ 88,000 รายการ และพบว่าจำนวนบัญชีเกมที่รั่วไหลต่ำสุดในจีน ศรีลังกา และสิงคโปร์ โดยมีจำนวนประมาณ 19,000, 11,000 และ 4,000 รายการ ตามลำดับ

ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นศูนย์กลางการเล่นเกมระดับโลก รายงานจาก NewZoo‘s Global Games Market Report ระบุว่านักเล่นเกมทั่วโลกจำนวนมากกว่าครึ่งหนึ่งอยู่ในภูมิภาคนี้ โดยมีตลาดอย่างจีนอินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ภูมิภาคนี้ครองความยิ่งใหญ่ 

การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้อย่างรวดเร็ว การเข้าถึงอุปกรณ์เคลื่อนที่อย่างแพร่หลาย และความต้องการของกลุ่มวัยรุ่นในภูมิภาคนี้ ล้วนเป็นแรงผลักดันให้ตลาดเกมทั้งแบบทั่วไปและแบบแข่งขันเติบโตอย่างก้าวกระโดด

 ด้วยจำนวนผู้เล่นเกือบ 1.8 พันล้านคนและกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ระบบนิเวศเกมในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกไม่เพียงแต่มีขนาดใหญ่ที่สุด แต่ยังเป็นหนึ่งในระบบนิเวศที่มีอิทธิพลมากที่สุดในการกำหนดแนวโน้มและพฤติกรรมการเล่นเกมทั่วโลกอีกด้วย ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจที่ภูมิภาคนี้กำลังกลายเป็นแหล่งภัยคุกคามไซเบอร์ประเภทขโมยข้อมูล

โพลินา เทรตแย็ก นักวิเคราะห์ทีม Digital Footprint Intelligence ของแคสเปอร์สกี้กล่าวว่า “อาชญากรไซเบอร์มักจะปล่อยไฟล์บันทึกที่ขโมยหลังจากการโจมตีครั้งแรกนานหลายเดือน หรือหลายปี แม้แต่ข้อมูลประจำตัวที่ถูกขโมยไปเมื่อหลายปีก่อน ก็อาจกลับมาปรากฏอีกครั้งในฟอรัมดาร์กเว็บ ส่งผลให้มีข้อมูลรั่วไหลเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นจำนวนแอคเคาท์เกมที่ถูกขโมยอาจสูงกว่าที่เห็น”

โพลินากล่าวเสริมว่า “สิ่งสำคัญคือทุกคนต้องเข้าใจว่าภัยคุกคามประเภทที่ขโมยข้อมูลไม่ได้เกิดขึ้นทันทีหรือเห็นได้ชัดเสมอไป หากสงสัยว่าถูกโจมตี การตรวจสอบความปลอดภัยและการลบมัลแวร์เป็นขั้นตอนแรกที่แนะนำ โดยทั่วไปแล้วการอัปเดตพาสเวิร์ดเป็นประจำ และหลีกเลี่ยงการใช้พาสเวิร์ดซ้ำในแพลตฟอร์มต่างๆ จะช่วยลดความเสี่ยงส่วนบุคคลได้”

ภัยคุกคามจากเกมอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

ธุรกิจยุคใหม่ที่อาจไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศเกม แต่ก็ยังมีความเสี่ยงได้เช่น พนักงานลงทะเบียนบนแพลตฟอร์มความบันเทิงโดยใช้อีเมลของบริษัทแทนอีเมลส่วนตัว ผลการศึกษา ของ Kaspersky Digital Footprint Intelligence แสดงให้เห็นว่า ผู้ใช้ Netflix, Roblox และ Discord ที่มีแอคเคาท์รั่วไหลจำนวน 7% ได้ลงทะเบียนโดยใช้อีเมลของบริษัท

การที่พนักงานใช้อีเมลของบริษัทเพื่อลงทะเบียนใช้บริการส่วนบุคคลรวมถึงเกมนำมาซึ่งความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ และหากอีเมลของบริษัทถูกเปิดเผยผ่านการรั่วไหลของข้อมูล อาจเปิดช่องให้เกิดภัยคุกคามในวงกว้างมากขึ้น

ยกตัวอย่างเช่น ผู้โจมตีอาจเข้าถึงพนักงานและล่อลวงให้ติดตั้งมัลแวร์บนอุปกรณ์ของบริษัท หรือใช้วิธี Brute Force ป้อนพาสเวิร์ด หากพาสเวิร์ดใช้รูปแบบที่คาดเดาได้ เช่น Word2025! อาจใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงหรือน้อยกว่านั้นนอกจากนี้ ผู้โจมตีอาจเข้าถึงระบบต่างๆ ที่ไม่ใช่ขององค์กรภายใต้แอคเคาท์พนักงาน และดึงข้อมูลสำคัญบางส่วน รวมถึงเข้าถึงทรัพยากรของบริษัทได้

Infostealers_มักปลอมแปลงตัวเป็นเกมที่ถูกแคร็ก เป็นซอฟต์แวร์โกงเกม หรือม็อดที่ไม่เป็นทางการ มัลแวร์นี้ถูกใช้โดยผู้คุกคามที่ต้องการขโมยข้อมูลสำคัญทุกประเภท เป้าหมายหลักคือพาสเวิร์ด ข้อมูลประจำตัววอลเล็ตคริปโต รายละเอียดบัตรเครดิต และคุกกี้ของเบราว์เซอร์ ข้อมูลที่ขโมยมาจะถูกนำไปซื้อขายหรือให้ฟรีบนแพลตฟอร์มดาร์กเน็ต และอาจถูกอาชญากรไซเบอร์รายอื่นนำไปใช้ในการโจมตีเพิ่มเติม

นอกเหนือจากอันตรายที่ infostealer อาจก่อให้เกิดขึ้นได้ แพ็คเกจมุ่งร้ายนี้ยังเป็นอันตรายอย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมแบบไฮบริดและแบบที่นำอุปกรณ์ส่วนตัวมาใช้เอง (BYOD) ซึ่งพบได้แพร่หลายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่ผู้ใช้มักจะทำกิจกรรมส่วนตัวและงานในอุปกรณ์เครื่องเดียวกัน

วิธีสร้างระบบป้องกันจาก infostealer

หากพบปัญหาข้อมูลรั่วไหลผ่าน infostealer ควรดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปนี้ทันที

  • ขั้นแรกให้สแกนความปลอดภัยทั้งหมดบนอุปกรณ์ทั้งหมด และลบมัลแวร์ที่ตรวจพบออก
  • ขั้นตอนที่สองคือการเปลี่ยนพาสเวิร์ดแอคเคาท์ที่ถูกบุกรุก
  • แนะนำให้ตรวจสอบกิจกรรมที่น่าสงสัยที่เกี่ยวข้องกับแอคเคาท์ที่ได้รับผลกระทบจากผู้ขโมยข้อมูล

บริษัทต่างๆ ควรตรวจสอบตลาดมืดเชิงรุกเพื่อตรวจจับแอคเคาท์ที่ถูกบุกรุกก่อนที่จะก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อลูกค้าหรือพนักงาน และใช้ประโยชน์จากเครื่องมือตรวจจับที่มีปนะสิทธิภาพ เพื่อติดตามสิ่งที่อาชญากรไซเบอร์รู้เกี่ยวกับทรัพย์สินของบริษัท ทั้งยังสามารถระบุช่องทางการโจมตีที่อาจเกิดขึ้น และดำเนินมาตรการป้องกันอย่างทันท่วงที