“ยักษ์ไอทีไต้หวัน GWS CLOUD เปิดตัวลุยธุรกิจในไทย ชิงเค้กธุรกิจคลาวด์ 5 หมื่นล้าน ชูหลากเทคโนโลยี-โซลูชั่นครบวงจร ตอบโจทย์ผู้ประกอบการยุคดิจิทัล
“GWS CLOUD” บริษัทชั้นนำธุรกิจคลาวด์จากไต้หวัน จับมือ SUPERNAP (Thailand) สยายปีกขยายธุรกิจในไทย ชิงส่วนแบ่งตลาดธุรกิจคลาวด์ไทย 5 หมื่นล้าน หลังภาครัฐสนับสนุนการใช้เทคโนโลยี-องค์กรไทยติดเครื่อง Digital Transformation ยกระบบขึ้นคลาวด์–ความใส่ใจความปลอดภัยข้อมูลสูงขึ้น
ขนทัพเทคโนโลยีโดดเด่นจากไต้หวัน ครอบคลุมโซลูชั่นทั้ง Public-Private Cloud พร้อมนำเสนอ GWStack บริการ Hybrid Cloud เจ้าแรกและเจ้าเดียวในไทย เล็งส่งมอบบริการปลอดภัย เชื่อถือได้ ประสิทธิภาพสูงสุด ควบคู่หลากโซลูชั่นที่ยืดหยุ่น ช่วยสตาร์ทอัพ-เอสเอ็มอีไทย-องค์กรที่ไม่เคยใช้คลาวด์ เปลี่ยนผ่านสู่ยุค AI Cloud
นีนี่ วู ประธานกรรมการ บริษัท จีดับเบิ้ลยูเอส คลาวด์ จำกัด หรือ GWS CLOUD ผู้นำธุรกิจคลาวด์จากไต้หวัน เปิดเผยว่า ตลาดธุรกิจบริการคลาวด์ในประเทศไทยนับเป็นตลาดที่น่าสนใจและมีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยจากข้อมูลของ Gartner คาดการณ์ว่าบริการคลาวด์บนเครือข่ายสาธารณะ (Public Cloud) ในประเทศไทยจะเติบโตถึงราว 31.7% ในปี 2566 มีมูลค่า 5.48 หมื่นล้านบาท
และยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต GWS CLOUD ในฐานะผู้นำธุรกิจคลาวด์ในไต้หวันที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัยด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปี จึงได้สร้างความร่วมมือกับ SUPERNAP (Thailand) ผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูล (Data Center) ที่มีเทคโนโลยีล้ำหน้าที่สุดในอาเซียน ขยายธุรกิจบริการคลาวด์ในประเทศไทย เพื่อส่งมอบบริการคลาวด์คุณภาพ มีความปลอดภัยสูง โดยทีมงานมืออาชีพ สู่ภาคธุรกิจในไทย
“เรามองเห็นหลากหลายปัจจัยบวกที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจคลาวด์ในประเทศไทย 1.ภาครัฐมีนโยบายสนับสนุนให้ภาคธุรกิจหันมาใช้บริการคลาวด์ เพื่อเปลี่ยนผ่านองค์กรสู่ดิจิทัลและนวัตกรรมมากขึ้น 2.องค์กรธุรกิจใส่ใจเรื่องการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล หรือ Digital Transformation มากขึ้น เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการจัดการข้อมูล และประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจ
เช่นที่ธนาคารยักษ์ใหญ่ของไทยเพิ่งประกาศลงทุนย้ายระบบขึ้นคลาวด์เมื่อเร็วๆ นี้ 3.ธุรกิจให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูลมากขึ้น เมื่อทุกภาคส่วนตระหนักถึงความสำคัญกับเทคโนโลยีคลาวด์ในการเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และขับเคลื่อนนวัตกรรม ส่งผลให้ไทยถือเป็นประเทศสำคัญที่จะมีความต้องการบริการคลาวด์เพิ่มอย่างต่อเนื่อง” นางสาวนีนี่ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทจึงได้เตรียมนำเทคโนโลยีและบริการประสิทธิภาพสูงจากไต้หวัน ครอบคลุมทั้งบริการคลาวด์บนเครือข่ายสาธารณะ (Public Cloud) บริการบนเครือข่ายส่วนตัว (Private Cloud) ระบบคลาวด์แบบผสมผสาน (Hybrid Cloud) มาส่งมอบในประเทศไทย ได้แก่ 1.GWS CLOUD แพลตฟอร์มคลาวด์รายแรกของไต้หวันที่ครอบคลุมโซลูชั่นทั้ง Public-Private-Hybrid Cloud สามารถนำใช้งานจริง (deploy) ได้อย่างรวดเร็ว ปรับขนาดได้อย่างยืดหยุ่น และบริการที่สมบูรณ์พร้อมการจัดการมัลติคลาวด์ บริการของเรายังรวมถึงการกู้คืนความเสียหายและบริการสำรองข้อมูลบนคลาวด์ การปรับแต่งสถาปัตยกรรมคลาวด์เฉพาะของลูกค้าตามความต้องการขององค์กร
2.GWStack โซลูชั่น All-in-one เฉพาะตัวของ GWS CLOUD เพื่อให้บริการองค์กรในรูปแบบ Hybrid Cloud ตอบโจทย์การทำงานร่วมกันระหว่างระบบที่อยู่ต่างสถานที่ ให้สามารถทำงานร่วมกัน รองรับการขยายตัวอย่างรวดเร็ว มีราคาคุ้มค่า ควบคุมความปลอดภัยได้อย่างเหมาะสม
3.SD-WAN หรือ MPLS Killer ช่วยเพิ่มความเสถียรในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และเพิ่มความปลอดภัยผ่านช่องทางที่เข้ารหัส ในอัตราค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่า MPLS ถึง 80% ทำให้องค์กรสามารถออกแบบการต่อเชื่อมระบบสาขาได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพสูง และได้รับประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมกว่ารูปแบบเดิม
นีนี่ กล่าวอีกว่า นอกเหนือจากเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยแล้ว GWS CLOUD ยังมีบริการที่ดีเยี่ยม ยืดหยุ่นตามความต้องการของลูกค้า พร้อมบริการหลังการขายครบวงจร ในราคาที่จับต้องได้ และไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง มีตัวเลือกการชำระเงินทั้งแบบรายเดือนและรายปี ช่วยให้องค์กรบริหารจัดการงบประมาณได้ง่าย
ขณะเดียวกัน ยังมีบริการที่ตอบโจทย์ธุรกิจสตาร์ทอัพ เอสเอ็มอี รวมถึงองค์กรที่ไม่เคยใช้บริการคลาวด์มาก่อน แต่มีความต้องการเปลี่ยนผ่านองค์กรสู่ดิจิทัลด้วย อาทิ GWS CLOUD’s Secure Drive Service บริการที่จัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ (Cloud Storage) ที่ใช้งานได้ง่าย มาพร้อมกับซอฟต์แวร์ตรวจจับการขู่กรรโชก เพื่อเพิ่มความปลอดภัยข้อมูลระดับสูง GWS CLOUD-O บริการคลาวด์แบบไฮบริดที่ครอบคลุมฟังก์ชันการสำรองข้อมูล การจัดการความซ้ำซ้อน และการกู้คืน
“โลกขณะนี้กำลังก้าวเข้าสู่ยุค AI Cloud การใช้คลาวด์จึงไม่ได้จำกัดอยู่แค่กับองค์กรขนาดใหญ่เท่านั้น แบรนด์ระดับโลกหรือผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่อาจไม่ได้เหมาะสมที่สุดสำหรับทุกองค์กร เราจึงมุ่งมั่นนำเสนอเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญระดับแนวหน้าของไต้หวันสู่ตลาดไทย พร้อมบริการคลาวด์ที่ยอดเยี่ยมและใส่ใจ เป็นทางเลือกใหม่ให้กับผู้ที่ใช้ระบบคลาวด์อยู่แล้วหรือกำลังพิจารณาที่จะลองใช้ระบบคลาวด์” นีนี่ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายเป็นพันธมิตรกลุ่มแรกที่จะมาช่วยสตาร์ทอัพไทยและองค์กรระดับเอสเอ็มอีในการเดินหน้าขับเคลื่อน Digital Transformation เพื่อช่วยเปลี่ยนแปลงอนาคตขององค์กรเหล่านั้นสู่เส้นทางการเติบโตที่แข็งแกร่ง
GWS CLOUD มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 10 ปีในฐานะผู้นำธุรกิจคลาวด์ในไต้หวัน และไม่นานมานี้ได้จัดตั้งสำนักงานในไทย มีทีมงานสนับสนุนด้านเทคนิค ทีมงานตรวจสอบ ตลอดจนบริการ Network Hosting Center (NOC) ตลอด 24 ชั่วโมง ได้รับการรับรองจากสถาบันมาตรฐานอังกฤษ (BSI) และมาตรฐาน ISO ซีรีส์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ขณะเดียวกัน ยังมีทีมงานมืออาชีพที่หลงใหลในระบบคลาวด์ พร้อมช่วยองค์กรบรรลุเป้าหมาย Digital Transformation
