Tuesday, April 30, 2024
NEWS

ไต้หวันผนึกความร่วมมือระดับโลก เปิดงาน SCSE 2024 และ Net Zero City Expo

ไต้หวันผนึกความร่วมมือระดับโลก เปิดงาน SCSE 2024 และ Net Zero City Expo โดยมีภาครัฐ บริษัท องค์กรธุรกิจทั้งในประเทศไต้หวันและต่างประเทศเข้าร่วมงานจัดประชุมประชุมสัมมนาทางวิชาการและนิทรรศการเมืองอัจฉริยะ 2024 ภายใต้ธีม AI

านประชุมสัมมนาทางวิชาการและนิทรรศการเมืองอัจฉริยะ 2024 ครั้งที่ 11 (Smart City Summit & Expo – SCSE 2024)  และงานประชุมสุดยอดผู้นำเมือง Net Zero City Expo ครั้งที่ 2 ซึ่งจัดขึ้นที่ไทเประหว่างวันที่ 19-22 มีนาคม และเมืองเกาสงระหว่างวันที่ 21-23 มีนาคม 2024

โดยเป็นการผนึกความร่วมมือของสมาคมคอมพิวเตอร์แห่งไทเป สภาการพัฒนาแห่งชาติ และรัฐบาลเมืองเกาสง โดยมีผู้แสดงสินค้า 450 ราย และบูธ 1,650 บูธ ทั้งในและต่างประเทศรวม 2,200 ราย โดยมีภาครัฐ บริษัท องค์กรธุรกิจทั้งในประเทศไต้หวันและต่างประเทศเข้าร่วมงานจัดประชุมประชุมสัมมนาทางวิชาการและนิทรรศการเมืองอัจฉริยะ 2024 ภายใต้ธีม AI งานประจำปีนี้เน้นการใช้เทคโนโลยีขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะในด้านการขนส่งและโซลูชั่นสุทธิเป็นศูนย์

พอล  เปง (Paul Peng) ประธานสมาคมคอมพิวเตอร์ไทเป  ร่วมเปิดงาน Smart City Summit & Expo ครั้งที่ 11 เมืองไทเป  ไต้หวัน  โดยกล่าวเน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือระดับภูมิภาคและไต้หวันในฐานะศูนย์กลางและผู้เริ่มจัดงานในเอเชีย ซึ่ง นิทรรศการฯ นี้ได้จัดแสดงด้านเทคโนโลยี นวัตกรรมและความก้าวหน้าด้านการขนส่ง ด้านเฮลท์แคร์ การก่อสร้าง และอื่นๆ คาดในปีนี้เติบโตราว 13% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว  พร้อมคาดหวังว่าการแบ่งปัน ความร่วมมือ และการแลกเปลี่ยนระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับองค์กร ภาคอุตสาหกรรมทั้งในและต่างประเทศ ด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและการสร้างเมืองอัจฉริยะสีเขียว เพื่อบรรลุวิสัยทัศน์และเป้าหมายความเป็นศูนย์กลางเมืองอัจฉริยะที่ชาญฉลาดและสุทธิเป็นศูนย์

เฉิง  เหวิน-จั่น รองนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงาน  เทคโนโลยีอัจฉริยะและดิจิทัลเป็นส่วนสำคัญของการเปลี่ยนแปลงอย่างมั่นคงสู่การบูรณาการอัจฉริยะ โดยมีเป้าหมายในการเปลี่ยนแปลงสุทธิเป็นศูนย์มากกว่า 60%  และพวกเราทุกภาคส่วนจะสามารถช่วยบรรลุการเปลี่ยนแปลงที่มีเสถียรภาพมากขึ้น และสร้างรากฐานที่สำคัญในการก้าวไปสู่การบูรณาการอย่างชาญฉลาด

นอกจากนี้ เลขาธิการสำนักงานประธานาธิบดี หลิน เชียลุง  ยังกล่าวเน้นย้ำถึงบทบาทผู้นำของไต้หวันในด้านไอซีทีและเซมิคอนดักเตอร์เทคโนโลยี AI  ไต้หวันมีส่วนร่วมและเป็นผู้นำในการจัดการสร้างเมืองอัจฉริยะและการเชื่อมโยงเมืองสีเขียว  “ผมเชื่อว่าเมืองอัจฉริยะจะต้องเป็นเมืองสีเขียวและการที่จะกลายเป็นเมืองสีเขียวนั้นจะต้องเป็นเมืองอัจฉริยะ”

กุง หมิง-ฮิน (Kung Ming-hsin) รัฐมนตรีสภาการพัฒนาแห่งชาติ (National Development Council Minister)ได้กล่าว ไต้หวันเรามีชื่อเสียงจากการจัดงาน Computex ต่อเนื่องมายาวนาน ซึ่งเป็นงานแสดงคอมพิวเตอร์ประจำปีที่จัดขึ้นที่ไทเป เนื่องจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์เป็นจุดแข็งของบริษัทในไต้หวัน

นอกจากนี้การสร้างและพัฒนาเมืองอัจฉริยะก้าวกระโดดจากการผลิตฮาร์ดแวร์ ซึ่งเป็นการพัฒนาเทคโนฯ โซลูชั่นเพื่อนำมารับมือและแก้ปัญหาการบริหารจัดการเมืองในอนาคตให้มีความอัจฉริยะ โดยมีเป้าหมายคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ในปี ค.ศ. 2050  พร้อมเน้นย้ำว่า การจัดงานแสดงนิทรรศการฯ ครั้งนี้ เป็นการรับมือกับความท้าทายของการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ เทคโนโลยี โซลูชั่นที่มีแนวคิดก้าวหน้า และการจัดแสดงความมุ่งมั่นของไต้หวันในการบรรลุเป้าหมายสุทธิเป็นศูนย์ ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญที่จะลดการปล่อยมลพิษสุทธิเป็นศูนย์ของรัฐบาลไต้หวันในปี ค.ศ. 2050  โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือระดับโลกร่วมกัน

ภาย ในงานครั้งนี้ยังมีงานประชุมสุดยอดผู้นำเมือง Net Zero City Expo ครั้งที่ 2 (เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์) ภายใต้ปณิธานโลก COP  เพื่อการปรับปรุงสภาพแวดล้อมเมืองและการแก้ไขปัญหาด้วยโซลูชั่นดิจิทัลอัจฉริยะ (Digital Smart Solutions)  ซึ่งจะมีการร่วมหารือในกลุ่มผู้บริหาร ภาครัฐ ภาคธุรกิจ องค์กรต่างๆ จากนานาชาติ  สู่การพัฒนาเมืองอัจฉริยะที่ปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์

เจสัน  เฉิน ประธานของ Taiwan Smart City Solutions Alliance และประธานของ Acer Group กล่าวว่า  ในฐานะผู้จัดงาน SCSE 2024  จัดขึ้นเป็นปีที่ 11 ซึ่งมีการนำเทคโนโลยี นวัตกรรมใหม่มาจัดแสดงทุกปี  สำหรับปีนี้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI เป็นไฮไลท์ที่น่าสนใจและมุ่งเน้นไปที่ ESG ด้วย  เนื่องจาก SCSE 2024  ต้องเน้นย้ำถึงเป้าหมายที่จะบรรลุการปล่อยก๊าซสุทธิเป็นศูนย์ เช่นเดียวกับความเป็นกลางคาร์บอน 100% ภายในปีค.ศ. 2050

ชาร์ลส์  ลิน รองนายกเทศมนตรีเมืองเกาสง ไต้หวัน กล่าวว่า เน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของงาน SCSE เป็นแพลตฟอร์มเพื่อแสดงโซลูชันเมืองอัจฉริยะ และการจัดแสดงสินค้า พร้อมด้วยโซลูชั่นต่างๆ ที่ปรับให้เหมาะกับตลาดต่างประเทศ ที่ผ่านมาทั่วโลกจะรู้จักไต้หวันในฐานะเมืองที่ผลิตฮาร์ดแวร์และเซมิคอนดักเตอร์ระดับสูง แต่ทางด้านโซลูชัน ซอฟต์แวร์ของไต้หวันเราก็มีความโดดเด่นในตลาดโลกเช่นกัน  พร้อมย้ำถึงความสำคัญในการเปลี่ยนแปลงเมืองเกาสงและบทบาทหลักในการพยายามสร้างเมืองอัจฉริยะของไต้หวัน  ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญในการผสมผสานคุณลักษณะของเมืองอัจฉริยะเข้ากับโครงสร้างพื้นฐานเพื่อมอบประสบการณ์การใช้ชีวิตที่ดีขึ้นแก่ประชาชน

ทางด้านมาร์ค อิริค (Marc Elrich) ผู้บริหารเขตมอนต์โกเมอรี่จากสหรัฐอเมริกา ได้กล่าวยกย่องถึงความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีที่จัดแสดงนิทรรศการและการประชุมสุดยอดเมืองอัจฉริยะครั้งนี้  นอกจากนี้ระบุว่ารัฐบาลของเรามีบทบาทสำคัญโดยได้มีการจำลองอาคาร เพื่อบริหารจัดการการใช้แผงโซลาร์เซลล์บนผนังหรือการแปลงไฮโดรเจนชนิดใดก็ตามที่สามารถทำได้โดยทำในเชิงเศรษฐกิจ  ซึ่งเมืองมอนต์โกเมอรี่ได้พิสูจน์แล้วว่าวิธีนี้ใช้ได้ผล เราก็สามารถแบ่งปันและประยุกต์ใช้ในรัฐอื่นๆ ได้เช่นกัน  พร้อมระบุว่าเทคโนโลยีไฮโดรเจนเป็นตัวอย่างของความก้าวหน้าในการบรรลุเป้าหมายการทำให้ไฟฟ้าสะอาด 100% ภายในปีพ.ศ. 2578  พร้อมด้วยเวทีแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ประสบการณ์และเน้นย้ำถึงศักยภาพของการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกของเมืองอัจฉริยะทั่วโลก

Vitezslav Schrek ประธาน ภูมิภาค Vysočina สาธารณรัฐเช็ก กล่าวถึงความร่วมมือระหว่างสาธารณรัฐเช็กและไต้หวันที่ดำเนินมาหลายปีแล้ว โดยเน้นย้ำถึงประสบการณ์และแรงบันดาลใจที่ได้รับจากการเยือนไต้หวัน พร้อมด้วยการศึกษาแนวทาง วิธีการใหม่ๆ  เพื่อแก้ไขปัญหาทั้งด้านการดูแลสุขภาพ การจราจร ซึ่งงานในครั้งนี้ได้จัดแสดงนิทรรศการ นวัตกรรมที่ตอบโจทย์ปัญหาดังกล่าวได้

เดวิด กอลเดง (David Golding) หัวหน้าฝ่ายความร่วมมือด้านนวัตกรรมระดับโลก Innovate UK ได้ให้มุมมองและสะท้อนถึงความร่วมมือ โดยเน้นย้ำถึงบทบาทที่สำคัญของพันธมิตรในการจัดการกับความท้าทายระดับโลกร่วมกัน และ Golding เน้นย้ำถึงการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ร่วมกับกรมเทคโนโลยีอุตสาหกรรมเพื่อนำไปสู่การทำงานร่วมกันและขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะ