archiveวิริยะประกันภัย

ไพบูลย์ ศุภบุญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง พร้อมด้วย อนุสรณ์ ตรียะเวชกุล ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการภาค 4 (ภาคกลางและภาคตะวันตก) ด้านสาขา และ พรชัย มรรคไชยสถาพร ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการภาค 4 (ภาคกลางและภาคตะวันตก) ด้านศูนย์ปฎิบัติการสินไหมทดแทน บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ร่วมมอบ “หมวกนิรภัยวัยใส Chalotte และผองเพื่อน” จำนวน 152 ใบ ให้แก่นักเรียนโรงเรียนบ้านน้ำผึ้ง ภายใต้โครงการ “สถานศึกษาสวมหมวกนิรภัย 100%” เพื่อรณรงค์พฤติกรรมการสวมหมวกนิรภัยในกลุ่มเด็กและเยาวชน ควบคู่ไปกับการปลูกฝังจิตสำนึกด้านความปลอดภัยบนท้องถนนอย่างยั่งยืน ในโอกาสนี้ ยังได้รับเกียรติจาก นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมเป็นประธานในพิธี ณ โรงเรียนบ้านน้ำผึ้ง ต.บ้านอิฐ อ.เมือง จ.อ่างทอง

สำหรับ โครงการ “สถานศึกษาสวมหมวกนิรภัย 100%” ประจำปี 2568 นี้ วิริยะประกันภัย และมูลนิธิเมาไม่ขับ ได้จับมือกับ “Mackcha” หรือ นางสาวชรารัตติ์ สาระอาภรณ์ ศิลปินหญิงไทยรุ่นใหม่ มาร่วมขับเคลื่อนแนวทางการสื่อสารความปลอดภัยทางถนนอย่างสร้างสรรค์ ผ่านการออกแบบหมวกนิรภัยวัยใส Chalotte และผองเพื่อน โดยหมวกนิรภัยลายพิเศษนี้ จะถูกส่งต่อให้กับสถานศึกษาและศูนย์พัฒนาเด็กเล็กภายใต้เครือข่ายมูลนิธิเมาไม่ขับ เพื่อเป็นสื่อกลางในการส่งเสริมพฤติกรรมสวมหมวกนิรภัยสำหรับเด็กและเยาวชนทั่วประเทศ นอกจากนี้ กลุ่มวิริยะจิตอาสาในแต่ละพื้นที่ ยังได้ร่วมจัดกิจกรรมรณรงค์วินัยทางการจราจร พร้อมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการสวมหมวกนิรภัยอย่างถูกต้อง เพื่อเสริมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยบนท้องถนนที่มั่นคงต่อไป

รศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย รับมอบวิกผมแท้ จำนวน 50 หัว ภายใต้โครงการ “วิริยะรวมใจกัน ปันเส้นผม เพื่อผู้ป่วยมะเร็ง” จาก บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน

โดยมี พิศเพลิน วิริยะพันธุ์ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กร เป็นผู้แทนมอบ พร้อมด้วย ดร.อรณัฏฐ์ อชีรญาวัฒน์ ประธานกรรมการมูลนิธิจากนางฟ้าถึงคุณวันใหม่ เพื่อส่งต่อวิกผมแท้ธรรมชาติที่มีคุณภาพและความปลอดภัยแก่ผู้ป่วยมะเร็งยากไร้ทั่วประเทศ

ซึ่งวิกผมเหล่านี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งการรักษาสภาพจิตใจและช่วยเสริมสร้างความมั่นใจแก่ผู้ป่วย ให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติอีกครั้ง โดยพิธีมอบจัดขึ้น ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ

สำหรับ โครงการ “วิริยะรวมใจกัน ปันเส้นผม เพื่อผู้ป่วยมะเร็ง” ดำเนินการต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 ด้วยการรับบริจาคเส้นผมของพนักงานและครอบครัววิริยะประกันภัยจากทั่วประเทศ พร้อมดำเนินการจัดกิจกรรมจิตอาสาคัดแยกเส้นผม และสนับสนุนงบประมาณแก่มูลนิธิจากนางฟ้าถึงคุณวันใหม่

ที่ได้มีการจ้างแรงงานฝีมือจากกลุ่มผู้ต้องขังและเกษตรกรหญิง เพื่อดำเนินกระบวนการถักทอเส้นผมบริจาคให้กลายเป็นวิกผมแท้ที่สมบูรณ์ สำหรับส่งมอบให้แก่ผู้ป่วยมะเร็งผ่านโรงพยาบาลนางฟ้ากว่า 90 แห่งทั่วประเทศ การดำเนินโครงการในครั้งนี้ จึงไม่เพียงแต่ช่วยเหลือผู้ป่วยมะเร็งให้รับการรักษาทางจิตใจที่เหมาะสม แต่ยังสนับสนุนกลุ่มผู้เปราะบางทางสังคมให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอีกด้วย

เนาวรัตน์ ยุทธนารังสรรค์ หัวหน้าฝ่ายใบอนุญาตขับรถ สำนักงานขนส่งจังหวัดชลบุรี เธียรวิทย์ หาญเมธีคุณา ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการภาค 3 (ภาคตะวันออก) ด้านสาขา และ พงษ์ทิวา กฤษณพันธุ์ ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการภาค 3 (ภาคตะวันออก) ด้านศูนย์ปฏิบัติการสินไหมทดแทน บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ร่วมเปิดโครงการ “อบรมเสริมความรู้ให้แก่ผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถยนต์” รอบภูมิภาค รุ่นที่ 163 เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการขับขี่รถยนต์สำหรับผู้ขับขี่มือใหม่ และอำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่ต้องการขอรับใบอนุญาตขับรถยนต์ โดยการอบรมครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมอบรมทั้งสิ้น จำนวน 93 ท่าน ณ สำนักงานขนส่งจังหวัดชลบุรี ต.หนองไม้แดง อ.เมืองฯ จ.ชลบุรี

ทั้งนี้ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ กรมการขนส่งทางบก ได้ดำเนินโครงการ “อบรมเสริมความรู้ให้แก่ผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถยนต์” มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2533 แบ่งเป็นรอบส่วนกลางจำนวน 379 รุ่น และรอบภูมิภาค จำนวน 162 รุ่น โดยมีการอบรมความรู้อย่างรอบด้าน ทั้งข้อกำหนดทางกฎหมาย ความรู้ด้านประกันภัย วิธีปฏิบัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ตลอดจนมารยาทและจิตสำนึกที่ดีในการขับขี่ โดยมุ่งหวังให้ผู้ขับขี่รถยนต์มือใหม่สามารถนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง และเกิดพฤติกรรมการขับขี่อย่างมีความรับผิดชอบต่อตนเองและผู้ใช้ถนนร่วมกัน อันเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมความปลอดภัยทางถนนอย่างยั่งยืน

“วิริยะประกันภัย มอบความคุ้มค่าเหนือระดับ เจาะกลุ่มลูกค้าไลฟ์สไตล์ท่องเที่ยว มอบสิทธิพิเศษ “Viriyah Privileges ทริปเที่ยวเมืองโบราณ สู่ประสบการณ์สุดประทับใจ”

ดร.อรณัฏฐ์ อชีรญาวัฒน์ ประธานกรรมการมูลนิธิจากนางฟ้าถึงคุณวันใหม่ รับมอบงบสนับสนุน มูลค่า 100,000 บาท จาก บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) โดยมี พงศ์พันธ์ ประภาศิริลักษณ์ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กร เป็นผู้แทนมอบ ภายใต้โครงการ “วิริยะรวมใจกัน ปันเส้นผม เพื่อผู้ป่วยมะเร็ง” ปีที่ 5 เพื่อสนับสนุนการถักทอวิกผมแท้แก่ผู้ป่วยมะเร็ง พร้อมกันนี้ กลุ่มวิริยะจิตอาสา ครอบครัวพนักงานวิริยะประกันภัย และกลุ่มจิตอาสาจากมูลนิธิฯ ยังได้ร่วมกิจกรรมคัดแยกเส้นผมที่ได้รับการบริจาคจากพนักงานวิริยะประกันภัยทั่วประเทศ และจากมูลนิธิฯ จำนวนทั้งหมด 600 หัว เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่ดำเนินกระบวนการถักทอวิกผมต่อไป ณ ห้องประชุมประไพ วิริยะพันธุ์ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) สาขาลุมพินี

สำหรับ โครงการ “วิริยะรวมใจกัน ปันเส้นผม เพื่อผู้ป่วยมะเร็ง” ก่อตั้งขึ้นด้วยเจตนารมณ์ของการส่งต่อความหวังและกำลังใจแก่ผู้ป่วยมะเร็ง ให้มีกำลังใจในการต่อสู้กับโรคภัยและใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุข เนื่องด้วยการรักษาด้วยเคมีบำบัดหรือการฉายรังสี มักส่งผลกระทบข้างเคียงคืออาการผมร่วง ซึ่งส่งผลให้ผู้ป่วยบางรายขาดความมั่นใจ และนำไปสู่ภาวะทางร่างกายและจิตใจที่แย่ลง วิริยะประกันภัยจึงได้ร่วมมือกับมูลนิธิจากนางฟ้าถึงคุณวันใหม่ ดำเนินโครงการจัดทำวิกผมแท้ ตั้งแต่กระบวนการรับบริจาคเส้นผม คัดแยกเส้นผม ตลอดจนสนับสนุนค่าถักทอวิกผม เพื่อส่งมอบวิกผมแท้ที่สมบูรณ์แล้วให้กับผู้ป่วยมะเร็ง ผ่านธนาคารนางฟ้า หรือโรงพยาบาลรัฐกว่า 80 แห่งทั่วประเทศ

กานดา วัฒนายิ่งสมสุข ที่ปรึกษาฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) นำกลุ่มวิริยะจิตอาสา ร่วมสนับสนุนมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย และกลุ่มอาสาสมัครจากองค์กรภาคีเครือข่ายมูลนิธิฯ ร่วมบรรจุถุงยังชีพพระราชทาน จำนวน 5,000 ถุง ซึ่งภายในถุงประกอบไปด้วยสิ่งของจำเป็น เช่น อาหารแห้ง ยาสามัญประจำบ้าน เครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน และอื่น ๆ เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดสุโขทัยและพื้นที่ใกล้เคียง ทั้งนี้ กลุ่มวิริยะจิตอาสาได้ร่วมแรงร่วมใจกันบรรจุถุงยังชีพด้วยความมุ่งมั่นแห่งจิตสำนึกสาธารณะ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งมอบความห่วงใยและกำลังใจสู่พี่น้องผู้ประสบภัย ที่ยังคงได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่องจากอิทธิพลของพายุวิภาในช่วงเวลาที่ผ่านมา ณ กองการบิน ศูนย์การเคลื่อนย้ายกองทัพบก เขตบางเขน กรุงเทพฯ

สำหรับ สถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคเหนือ ส่งผลให้หลายจังหวัดได้รับผลกระทบอย่างหนัก จากปริมาณน้ำที่เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ชุมชน พื้นที่เกษตรกรรม และเส้นทางคมนาคม ประชาชนจำนวนมากต้องอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย และประสบปัญหาขาดแคลนเครื่องอุปโภค – บริโภคที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ วิริยะประกันภัย ในฐานะองค์กรที่ตระหนักถึงความสำคัญของการช่วยเหลือสังคมมาอย่างต่อเนื่อง จึงมุ่งมั่นดำเนินภารกิจบรรเทาทุกข์แก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ภาคเหนือหลายจังหวัด โดยมีการส่งมอบถุงยังชีพ เครื่องอุปโภค – บริโภค รถประกอบอาหาร ตลอดจนสนับสนุนกิจกรรมจิตอาสาร่วมกับองค์กรภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อร่วมฟื้นฟูและเยียวยาความเสียหายให้ทุกชุมชนกลับคืนสู่สภาวะปกติโดยเร็วที่สุด

จตุรงค์ แสงสุข ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการภาค 1 (ภาคเหนือ) ด้านสาขา บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) นำกลุ่มวิริยะจิตอาสา มอบน้ำดื่ม จำนวน 12,000 ขวด และถุงยังชีพ ให้กับเครือข่ายเตือนภัยพิบัติชุมชนเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) อำเภอปัว จังหวัดน่าน เพื่อเสริมสร้างขวัญและกำลังใจแก่ประชาชนผู้ประสบภัย ตลอดจนสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ภาครัฐและภาคีเครือข่ายด้านการช่วยเหลือฟื้นฟูชุมชน ในโอกาสนี้ กลุ่มวิริยะจิตอาสาในสังกัดสาขาเชียงราย ศูนย์ปฏิบัติการสินไหมทดแทนแพร่และน่าน ได้ร่วมแรงร่วมใจขนย้ายสิ่งของดำรงชีพ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่ ณ องค์การบริหารส่วนตำบลเจดีย์ชัย อำเภอปัว จังหวัดน่าน

พร้อมกันนี้ จตุรงค์ แสงสุข ได้นำกลุ่มวิริยะจิตอาสา ลงพื้นที่ส่งมอบน้ำดื่มและถุงยังชีพ แก่โรงพยาบาลท่าวังผา จังหวัดน่าน และศูนย์เฝ้าระวังและตอบโต้ภัยพิบัติเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย จังหวัดเชียงราย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากเหตุอุทกภัยที่เกิดขึ้นหลายพื้นที่ในภาคเหนืออย่างทั่วถึงมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทฯ ยังได้สนับสนุนมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย จัดทำรถประกอบอาหารเคลื่อนที่ เพื่อส่งมอบอาหารปรุงสุกแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัย พร้อมจัดเตรียม “ปฏิบัติการ FIRST AID” ซึ่งเป็นปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชนนำรถยนต์ออกจากพื้นที่จุดเสี่ยง และสำรวจสถานการณ์ความเดือดร้อนตามเส้นทางที่ได้รับการแจ้งเหตุ เพื่อนำกลุ่มวิริยะจิตอาสา สังกัดสาขาและศูนย์ปฏิบัติการสินไหมทดแทนในจังหวัดที่เกี่ยวข้อง เข้าช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนได้อย่างทันท่วงที สะท้อนเจตนารมย์ของบริษัทฯ มุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนทุกภาคส่วน ทั้งในด้านของการบรรเทาทุกข์ฉุกเฉิน การฟื้นฟูหลังเหตุการณ์ และการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนในระยะยาวต่อไป

กาญจนา  ภัทราพรนันท์ ผู้อำนวยการศูนย์การเรียนรู้พิเศษประภาคารปัญญา รับมอบเงินสนับสนุน จำนวน 90,000 บาท จาก บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) โดยมี พงศ์พันธ์ ประภาศิริลักษณ์ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กร เป็นผู้แทนมอบ เพื่อร่วมพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กและเยาวชนผู้มีความบกพร่องทางสติปัญญา ให้สามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างมีคุณภาพ และมีส่วนร่วมกับสังคมได้อย่างมั่นใจ ตลอดจนพัฒนาศักยภาพของบุคลากรผู้ปฏิบัติงานให้มีความรู้ความสามารถ และทักษะที่จำเป็นต่อการดูแลบุคคลผู้มีความบกพร่องทางสติปัญญาในแต่ละระดับได้อย่างเหมาะสม ณ ศูนย์การเรียนรู้พิเศษประภาคารปัญญา แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ

สำหรับ “ศูนย์การเรียนรู้พิเศษประภาคารปัญญา” เป็นหนึ่งในหน่วยงานของมูลนิธิช่วยคนปัญญาอ่อนแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2525 มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นสถานที่สำหรับฝึกสอนเด็กและเยาวชนผู้มีความบกพร่องทางสติปัญญาในระดับหนักที่ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ตามปกติ รวมถึงเด็กที่มีความพิการซ้ำซ้อน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ควรได้รับการฝึกอบรมอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สามารถกลับไปใช้ชีวิตกับครอบครัวได้ โดยการสนับสนุนจากบริษัทฯ ครั้งนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมคุณภาพชีวิตและการเข้าถึงโอกาสของกลุ่มเปราะบางในสังคม พร้อมกับร่วมสร้างสังคมแห่งการเกื้อกูลและอยู่ร่วมกันอย่างเท่าเทียม

ชูศักดิ์ ศรีวาลี สมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดสระแก้ว รับมอบถุงยังชีพ น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็น จาก บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) โดยมี พงษ์ทิวา กฤษณพันธุ์ ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการภาค 3 (ภาคตะวันออก) ด้านศูนย์ปฏิบัติการสินไหมทดแทน และ วันชีวี สุนากร ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) จังหวัดสระแก้ว ร่วมส่งมอบผ่านเหล่ากาชาดจังหวัดสระแก้ว เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย – กัมพูชา ที่อพยพอยู่ภายใต้ศูนย์พักพิงในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว ให้ได้รับความเป็นอยู่ที่เหมาะสมในเบื้องต้น รวมถึงสนับสนุนเจ้าหน้าที่และจิตอาสาทุกภาคส่วนในการปฏิบัติภารกิจเพื่อช่วยเหลือประชาชนในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ณ ศูนย์ราชการจังหวัดสระแก้ว ต.ท่าเกษม อ.เมืองฯ จ.สระแก้ว

นอกจากนี้ กลุ่มวิริยะจิตอาสา และตัวแทนสาขาและศูนย์ปฏิบัติการสินไหมทดแทน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก ยังได้ร่วมแรงร่วมใจในการจัดเตรียมและลำเลียงถุงยังชีพ และเครื่องอุปโภค – บริโภคต่าง ๆ เพื่อส่งต่อความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยที่อาศัยในศูนย์พักพิงจังหวัดศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ อุบลราชธานี และจันทบุรี พร้อมทั้งสนับสนุนเจ้าหน้าที่ด่านหน้าและอาสาสมัครที่ปฏิบัติงานอย่างเสียสละ ทั้งนี้ บริษัทฯ และขอส่งมอบกำลังใจและความห่วงใยแก่พี่น้องผู้ประสบภัยทุกท่านให้สามารถผ่านพ้นวิกฤตในครั้งนี้ไปได้อย่างเข้มแข็งและปลอดภัย และพร้อมเป็นพลังสนับสนุนเคียงข้างสังคมไทยในทุกสถานการณ์

วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ กรรมการมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย รับมอบเงินสนับสนุนในการจัดทำรถประกอบอาหาร มูลค่า 2,290,000 บาท จาก บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) โดยมี พลตำรวจโท เผ่าไทย ทองธิว กรรมการและที่ปรึกษาบริษัท และในฐานะกรรมการ บริษัท เมืองโบราณ จำกัด เป็นผู้แทนมอบ ภายในพิธีตักบาตรพระสงฆ์ สามเณร และแม่ชี 1,000 รูป ซึ่งเมืองโบราณ จัดขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 28 กรกฎาคม 2568 โดยรถประกอบอาหารดังกล่าว จะนำไปใช้บรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบภัยยามเกิดสถานการณ์ความเดือดร้อน

พร้อมกันนี้ กลุ่มวิริยะจิตอาสา ยังได้ร่วมพิธีตักบาตรและถวายเครื่องอุปโภค – บริโภคบางส่วน เพื่อนำไปช่วยเหลือเจ้าหน้าที่และผู้ประสบภัยจากสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา รวมถึงสถานการณ์น้ำท่วมภาคเหนือ โดยมี หลวงตาสินทรัพย์ จรณธัมโม วัดป่าบ่อน้ำพระอินทร์ เป็นผู้นำบิณฑบาต ณ เมืองโบราณ ต.บางปูใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ

สำหรับ การสนับสนุนรถประกอบอาหารครั้งนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมภารกิจของมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย เพื่อส่งมอบอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ให้กับผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ซึ่งรถประกอบอาหาร จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเตรียมและแจกจ่ายอาหารปรุกสุกได้อย่างรวดเร็ว และสามารถรองรับการดูแลผู้ประสบภัยได้ในวงกว้าง สะท้อนเจตนารมย์ของวิริยะประกันภัย ที่มุ่งมั่นดำเนินภารกิจเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง ทั้งในช่วงเวลาปกติและในภาวะวิกฤตการณ์ ด้วยความตระหนักถึงบทบาทขององค์กรภาคเอกชนในการมีส่วนร่วมสร้างสรรค์สังคมที่เข้มแข็งและเกื้อกูลกันอย่างยั่งยืน