ในงาน ProPak Asia 2024 ที่จัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ประสิทธิ์ กานตกุล รองประธาน Industrial & Process Automation ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ร่วมเป็นวิทยากรในงานสัมมนา “สุดยอดกลยุทธ์การทำธุรกิจยุคดิจิทัลสำหรับผู้ประกอบการไทย”พร้อมถ่ายทอดความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสำหรับอุตสาหกรรม 4.0 และ IIoT (Industrial Internet of Things) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่สำคัญในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับภาคการผลิต โดยช่วยเปลี่ยนระบบโรงงานธรรมดา ให้เป็นโรงงานอัตโนมัติ หรือ สมาร์ทแฟคทอรี่ ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจในประเทศรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว มีความยืดหยุ่นในกระบวนการผลิต และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ยังช่วยลดการใช้พลังงานและการปล่อยคาร์บอน เพื่อนำไปสู่เส้นทางความยั่งยืนอีกด้วย โดยได้เผยถึงโรงงานอัจฉริยะของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ที่ได้รับการยอมรับจากสภาเศรษฐกิจโลกว่าเป็นประภาคารแห่งการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 มาเป็นกรณีศึกษาให้ผู้ประกอบการโรงงานได้เห็นภาพถึงหลักการใช้เทคโนโลยีอย่างชัดเจน
มงคล ตั้งศิริวิช ประธานกลุ่มคลัสเตอร์ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ดูแลประเทศไทย ลาว เมียนมา ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง กับ นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ในการยกระดับการใช้ระบบอัตโนมัติในการดำเนินธุรกิจ เพิ่มทักษะด้านเทคโนโลยีอัตโนมัติให้กับบุคลากร สนับสนุนอุปกรณ์ เครื่องมือ ผู้เชี่ยวชาญ และร่วมพัฒนาเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติ รวมถึงระบบบริหารจัดการ/ประหยัดพลังงานต้นแบบ สำหรับกระบวนการต่างๆ ในฟาร์ม และโรงงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้เกิดประโยชน์สูงสุด
เพื่อช่วยให้องค์กรของลูกค้าสามารถขับเคลื่อนธุรกิจ พร้อมๆ กับการสร้างความยั่งยืน ชไนเดอร์ อิเล็คทริค จึงคิดค้นเทคโนโลยีดิจิทัลแบบเปิดที่สามารถประยุกต์ใช้ได้กับทุกธุรกิจ และอุตสาหกรรม โดยมุ่งเน้นไปสู่การบรรลุเป้าหมายในการสร้างความยั่งยืน สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกและวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพในแบบเรียลไทม์ ลดกระบวนการทำงานที่ซ้ำซ้อน ลดต้นทุนด้านการซ่อมบำรุง และที่สำคัญช่วยให้สามารถใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
มงคล ตั้งศิริวิช ประธานกลุ่มคลัสเตอร์ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ดูแลประเทศไทย ลาว เมียนมา เผยว่า “เรารู้สึกยินดีที่ได้รับความไว้วางใจจาก ซีพีเอฟ ในการร่วมมือกันพัฒนาเทคโนโลยีอัตโนมัติด้านอุตสาหกรรมอาหาร โดยการลงนามบันทึกความร่วมมือในครั้งนี้ มุ่งเน้นในการยกระดับระบบอัตโนมัติของซีพีเอฟ ร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับกระบวนการต่างๆ ทั้งในฟาร์ม และโรงงาน นอกจากนี้ เรายังมีความพร้อมในการถ่ายทอดองค์ความรู้ผ่านผู้เชี่ยวชาญของเรา ที่มีประสบการณ์จากทั่วโลก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน”
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ประเทศไทย ผู้นำด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นด้านการจัดการพลังงาน และระบบออโตเมชั่น ได้รับการรับรองมาตรฐานในการเป็นสถานที่ทำงานที่ยอดเยี่ยม จาก Great Place to Work อย่างต่อเนื่อง โดยการรับรองดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องในการที่ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ต้องการสร้างองค์กรที่ดีที่สุดเพื่อพนักงาน โดยมีเป้าหมายที่ให้คุณค่าในเรื่องการทำงาน ตลอดจนการสนับสนุนให้เกิดวัฒนธรรมการยอมรับความแตกต่าง และการเพิ่มขีดความสามารถ และเสรีภาพในการทำงานของพนักงาน
มงคล ตั้งศิริวิช ประธานกลุ่มคลัสเตอร์ ดูแลประเทศไทย ลาว และเมียนมา ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เผยว่า “ผมรู้สึกภูมิใจที่เราได้รับการรับรองให้เป็นสถานที่ทำงานที่ยอดเยี่ยม หรือ Great Place to Work ความสำเร็จนี้นับเป็นภาพสะท้อนถึงความพยายามและความมุ่งมั่นในการสร้างสภาพแวดล้อมเชิงบวก ที่ทุกคนสามารถสร้างแรงบันดาลใจที่ดีต่อกันและกัน เจริญเติบโตไปด้วยกัน แบ่งปันองค์ความรู้ซึ่งกันและกัน เรียกได้ว่าเป็นทีมเวิร์กที่ดีที่สุด ทำให้เราสามารถเป็นที่ไว้วางใจแก่ลูกค้า คู่ค้า ตลอดทั้ง Ecosystem ที่เราให้บริการ”
สิ่งที่ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ยึดถือเสมอคือการต้องทำให้พนักงานรู้สึกมีคุณค่าและปลอดภัย และสิ่งนี้คือกุญแจสำคัญในการสร้างนวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ ประสิทธิภาพ และความคล่องตัวที่มากขึ้น และจะนำพวกเขาไปสู่ความสำเร็จ นอกจากนี้ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ยังสนับสนุนให้พนักงานมอบสิ่งที่มีคุณค่าสู่สังคม ชุมชน และโลกอีกด้วย
Great Place to Work เป็นองค์กรระดับโลกที่มุ่งเน้นการวิจัยไปที่วัฒนธรรมองค์กร ที่ผ่านมาได้สำรวจพนักงานมากกว่า 100 ล้านคนทั่วโลก ตั้งแต่ปี 1992 และใช้ข้อมูลเชิงลึกนั้นเพื่อพิจารณาว่าอะไรที่เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้เป็นบริษัทที่ยอดเยี่ยมและได้รับความไว้วางใจ
ณัฏฐพัชร์ ชลภัทรธนัทสิริ ผู้อำนวยการกลุ่ม Digital Energy ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ดูแลประเทศไทย ลาว และเมียนมา ร่วมงาน Sustainability Forum 2024 เพื่อนำเสนอแนวทางการก้าวสู่
โดยในครั้งนี้ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค มาพร้อมกันใน 3 บทบาท ได้แก่ ผู้ทรานส์ฟอร์มตัวเองไปสู่ดิจิ
อันนา ลอรี ลู เดอเลค เอ็บ เดอ ฟูโกด์ (ขวา) ผู้อำนวยการด้านความยั่งยืน และ พัฒนาธุรกิจ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ดูแลประเทศไทย ลาว และเมียนมา รับมอบประกาศนียบัตรเครื่องหมายรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์ประจำปี 2566 ในโครงการ Carbon Footprint Organization (CFO) จาก เกียรติชาย ไมตรีวงษ์ (ซ้าย) ผู้อำนวยการ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ TGO
ซึ่งการรับมอบในครั้งนี้เป็นหนึ่งในความมุ่งมั่นในการไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ประเทศไทย โดยกระบวนการหลักที่ทำให้บรรลุเป้าหมายได้แก่ การทรานส์ฟอร์มสู่ดิจิทัล ทั้งด้านอุตสาหกรรมและพลังงาน โดยล่าสุด ได้ติดตั้งระบบโซลาร์รูฟท็อป ขนาด 1,395 กิโลวัตต์ ทำให้ลดการปล่อยคาร์บอนได้อย่างมหาศาล เมื่อเทียบกับกิจกรรมเชิงธุรกิจต่างๆ ในประเทศไทย โดยที่ผ่านมาชไนเดอร์ อิเล็คทริค ประเทศไทยได้ใช้ประโยชน์จากดิจิทัลมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้การรวบรวมตัวเลขที่สำคัญ เช่น เส้นทางของคาร์บอน ทำได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ปัจจุบันชไนเดอร์ อิเล็คทริค ประเทศไทย จัดเป็น “องค์กรผู้นำด้านการจัดการก๊าซเรือนกระจก” ในลิสต์รายชื่อของ TGO ซึ่งเป็นรายแรกของประเทศไทยในกลุ่มธุรกิจเดียวกัน