Sunday, June 16, 2024
NEWS

จีเอเบิล ประกาศผลประกอบการ ไตรมาส 1/2567 แบ็คล็อคสูงสุดเป็นประวัติการณ์

จีเอเบิล ประกาศผลประกอบการ ไตรมาส 1/2567 แบ็คล็อคสูงสุดเป็นประวัติการณ์ มีแบ็คล็อคสูงกว่า 5,569 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51% จากไตรมาส 1/2566 เดินหน้าพันธมิตรทางธุรกิจต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ

จีเอเบิล (GABLE) ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2567 ยังคงความแข็งแกร่งและเติบโต โดยมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) 5,569 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51% จากไตรมาส 1/2566 และเพิ่มขึ้น 23% จากไตรมาส 4/2566 ขณะที่มีรายได้จากการขายและบริการ 1,153 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งโดยปกติในไตรมาสแรกของปีจะเป็นช่วงที่กลุ่มบริษัทฯ รับรู้รายได้ต่ำที่สุดของปี

ดร.ชัยยุทธ ชุณหะชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีเอเบิล จำกัด (มหาชน)

ดร.ชัยยุทธ ชุณหะชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีเอเบิล จำกัด (มหาชน) หรือ GABLE เปิดเผยว่าไตรมาสแรกปี 2567 กลุ่มบริษัทฯ ยังคงมีผลประกอบการเป็นที่น่าพอใจ โดยมีแบ็คล็อกสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และมีประกาศความร่วมมือทางธุรกิจกับผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีทั้งในประเทศ และต่างประเทศ

โดยเบลนเดต้า (Blendata) ผู้พัฒนาเทคโนโลยีบริหารจัดการ Big Data อัจฉริยะ ในเครือของกลุ่มบริษัท จีเอเบิล จำกัด (มหาชน) ได้เข้าลงทุนในบริษัท ออพซ์ตา (ประเทศไทย) จำกัด หรือ Opsta ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี DevSecOps รองรับการเปลี่ยนแปลงในยุค AI Transformation

และประกาศความร่วมมือกับเวิร์กเดย์ (Workday) ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์จัดการทรัพยากรบุคคลชั้นนำของโลก เพื่อนำเทคโนโลยี Human Capital Management (HCM) หรือระบบบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล เพื่อปรับปรุงให้องค์กรมีทรัพยากรบุคคลที่มีศักยภาพ ในยุค Digital Transformation

รวีรัตน์ สัจจวโรดม ประธานบริหารสายงานการเงินและกลยุทธ์ บริษัท จีเอเบิล จำกัด (มหาชน) หรือ GABLE เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ การเติบโตของยอดขายที่แข็งแกร่ง โดย ณ สิ้นไตรมาส 1/2567

โดยมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) สูงสุดเป็นประวัติการณ์ในระดับ 5,569 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51% จากไตรมาส 1/2566 และเพิ่มขึ้น 23% จากไตรมาส 4/2566 รองรับการรับรู้รายได้ในอนาคต และมี Backlog ที่พร้อมรองรับรายได้ในปี 2567 แล้วกว่า 3,341 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนกว่า 70% ของเป้าหมายรายได้ในช่วงที่เหลือในปี 2567

สำหรับในไตรมาส 1/2567 รายได้จากการขายและบริการ 1,153 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งโดยปกติในไตรมาสแรกของปีจะเป็นช่วงที่กลุ่มบริษัทฯ รับรู้รายได้ต่ำที่สุดของปี ขณะที่ในไตรมาส 1/2567 กลุ่มบริษัทฯ มีแบ็คล็อค และยอดขายที่แข็งแกร่ง ทำให้มีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการสนับสนุนด้านการขาย ส่งผลให้กลุ่มบริษัทฯ มีกำไรจากการดำเนินงานและกำไรสุทธิลดลงจากปีก่อน

สำหรับไตรมาส 1/2567 กลุ่มบริษัทฯ มีอัตราส่วนรายได้ที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง (Recurring Income) ในระดับเกือบ 60% ของรายได้ ซึ่งยังคงสูงกว่าปีก่อน และสูงกว่าเป้าหมายรายได้ประจำในสัดส่วนระดับกว่า 50%

จากความสามารถในการทำกำไรอย่างต่อเนื่อง และการมีวินัยทางการเงินของกลุ่มบริษัทฯ โดย มีอัตราส่วน ที่มีภาระหนี้สินที่มีดอกเบี้ยต่อทุนในระดับต่ำเพียง 0.09 เท่า และมีกระแสเงินสดแข็งแกร่งกว่า 1,300 ล้านบาท ที่พร้อมรองรับการเติบโตของกลุ่มบริษัทฯ ในการลงทุนธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่มีศักยภาพ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทฯ

G-Able ในฐานะ Tech Enabler ผู้นำดิจิทัลโซลูชันชั้นนำด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันสำหรับองค์กร ด้วยความเชี่ยวชาญระดับมืออาชีพในการวางระบบโครงสร้างพื้นฐาน IT และ Digital Solutions ที่หลากหลายและครบวงจร พร้อมต่อยอดธุรกิจโดยร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในประเทศ และต่างประเทศ สำหรับการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาวของกลุ่มบริษัทฯ

“ในไตรมาส 1/2567 ถือเป็นความประสบความสำเร็จนอกจากผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ ที่มียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) สูงสุดเป็นประวัติการณ์แล้ว เบลนเดต้า (Blendata) ผู้พัฒนาเทคโนโลยีบริหารจัดการ Big Data อัจฉริยะ ในเครือของกลุ่มบริษัท จีเอเบิล จำกัด (มหาชน) ได้เข้าลงทุนในบริษัท ออพซ์ตา (ประเทศไทย) จำกัด หรือ Opsta ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี DevSecOps

โดยเป็นการลงทุนเชิงกลยุทธ์เพื่อยกระดับเทคโนโลยีไทย ผสานความสามารถ Big Data, AI และ DevSecOps เพื่อให้บริการโซลูชันด้านการจัดการข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูลและ DevSecOps แบบครบวงจร

นอกจากนี้การประกาศความร่วมมือระหว่างจีเอเบิลและเวิร์กเดย์ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการพลิกโฉมนวัตกรรมการบริหารทรัพยากรบุคคลอย่างครบวงจรผ่าน “Workday” ที่เป็น Total HR Solutions รายใหญ่ของโลก

จะเป็นตัวช่วยสำคัญสำหรับผู้บริหารและผู้ประกอบการในการจัดการกับความท้าทายใหม่ๆ ในโลกธุรกิจดิจิทัล และสามารถเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และสร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง”ดร.ชัยยุทธ กล่าวสรุป