Saturday, April 27, 2024
ArticlesCase StudyCloudEdge ComputingInfrastructure

เอดจ์คอมพิวติ้ง ที่จะยกระดับประสบการณ์ของผู้บริโภคในธุรกิจค้าปลีก

ธุรกิจค้าปลีกจะตอบโจทย์เหล่านี้อย่างไร วันที่บรรยากาศในร้านแน่นขนัด ที่ต้องสามารถรองรับการชำระเงินที่หลากหลาย การรู้ปริมาณสินค้าคงคลังที่เป็นปัจจุบัน การรองรับคำสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์ เทคโนโลยี Edge Computing คือคำตอบ

ารปฏิวัติวงการค้าปลีก ต้องใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือหลากหลาย แต่ AI คือเทคโนโลยีที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพให้กระบวนการต่างๆ ได้อย่างชัดเจนที่สุด ตั้งแต่การชำระเงินด้วยตนเอง ไปจนถึงการบริหารจัดการสินค้าคงคลังและอื่นๆ อีกมาก

แต่แค่นำ AI มาใช้ในร้านค้านั้นไม่เพียงพอ ผู้ค้าปลีกต้องใช้แพลตฟอร์มเดียวสำหรับเอดจ์คอมพิวติ้ง (Edge Computing) ที่สามารถรองรับการใช้ AI และเทคโนโลยีสำคัญอื่นๆ ที่อยู่ในกลยุทธ์การทรานส์ฟอร์มของตน

ทั้งนี้เอดจ์คอมพิวติ้งเป็นหัวข้อสนทนาอย่างต่อเนื่องในหมู่ผู้นำองค์กร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเอดจ์ในอวกาศที่ห่างไกล ยานพาหนะที่ควบคุมด้วยซอฟต์แวร์ที่เป็นอุปกรณ์เอดจ์คอมพิวติ้งต่างๆ หรือเซ็นเซอร์ระยะไกลที่ติดตั้งอยู่ในทะเลทราย กล่าวได้ว่า เอดจ์คอมพิวติ้ง กำลังช่วยขับเคลื่อนนวัตกรรมที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงให้กับอุตสาหกรรมทุกประเภท

ความคาดหวังของลูกค้าที่สูงขึ้นและตลาดที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทำให้มีการนำเทคโนโลยีด้านการค้าปลีกมาใช้มากขึ้น การระบาดของโรคเป็นสถานการณ์ที่เร่งให้ร้านอาหารและซูเปอร์มาร์เก็ตต้องเปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกิจให้มีทางเลือกให้ลูกค้ามากขึ้น เช่น การรับสินค้าโดยไม่ต้องลงจากรถและอีคอมเมิร์ซ

บทความโดย: โชบัน ลักปรากาดา, ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการจัดการผลิตภัณฑ์เอดจ์คอมพิวติ้ง, เร้ดแฮด

นอกจากนี้การที่ต้นทุนด้านแรงงานกำลังเพิ่มขึ้น แต่ต้นทุนของเทคโนโลยีหลักต่างๆ กำลังลดลง โดยเฉพาะเทคโนโลยีที่ใช้ที่เอดจ์ ทำให้ผู้ค้าปลีกกำลังเริ่มมองหาโซลูชันใหม่ๆ ที่จะช่วยให้สามารถมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งให้กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและตรงตามความต้องการเฉพาะตัวของลูกค้าแต่ละรายมากขึ้น เช่น

  • ประสบการณ์ระหว่างการช้อปหน้าร้านและออนไลน์แบบไร้รอยต่อ ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการมองเห็นสินค้าคงคลังได้แบบเรียลไทม์และทางเลือกแบบเจาะจงเฉพาะบุคคลอย่างแท้จริงได้มากขึ้น ไปจนถึงการจัดส่งด่วนและอื่นๆ
  • การจัดวางสินค้าในร้านรูปแบบใหม่ที่ทันสมัย ที่ช่วยให้การช้อปหน้าร้านสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเลือกดูสินค้าในร้าน หรือการรับสินค้าที่สั่งซื้อไว้ทางออนไลน์
  • ประสบการณ์การชำระเงินด้วยตนเองที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยลูกค้าสามารถหยิบสินค้าและชำระเงินด้วยตนเองได้เลย
  • โซลูชันป้องกันการสูญเสียที่ทันสมัย เพื่อลดความเสี่ยงและผลกระทบของ “shrinkage” หรือความสูญเสียสินค้าคงคลังที่เกิดจากการลักขโมยและการใช้ความรุนแรง
Edge Computing สามารถยกระดับประสบการณ์ของผู้บริโภคในธุรกิจค้าปลีกได้อย่างมาก

ด้วยเหตุดังกล่าวข้างต้น เราจึงเห็นผู้ค้าปลีก ลงทุนกับส่วนสำคัญสามด้าน คือ ปรับปรุงระบบขายหน้าร้าน (point of sale: POS) ให้ทันสมัย, ลงทุนด้านคอมพิวเตอร์วิชัน และ คลังสินค้าอัตโนมัติ

ตัวอย่าง ค้าปลีกรายหนึ่งมีร้านค้า 1,200 แห่งทั่วประเทศ ให้บริการลูกค้ามากกว่า 65 ล้านรายในอเมริกาเหนือ ค้าปลีกรายนี้ต้องประเมินเทคโนโลยีที่ใช้อยู่ใหม่ เพราะเผชิญกับต้นทุนการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น มีความจำเป็นต้องเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าที่เข้ามาในร้านอย่างต่อเนื่อง ณ จุดชำระเงินที่อาจต้องใช้โปรแกรมสะสมคะแนน และต้องเผชิญกับคำสั่งที่เกิดขึ้นตลอดเวลาเพื่อจัดการระบบ POS ของร้านค้าทั่วประเทศให้มีประสิทธิภาพ

เพื่อแก้ไขความท้าทายดังกล่าว บริษัทเลือกที่จะรีเซ็ตโครงสร้างพื้นฐาน POS ใหม่ โดยใช้แพลตฟอร์มระดับองค์กรครบวงจรในแพลตฟอร์มเดียวสำหรับการประมวลผล ณ จุดขายสินค้า

การตัดสินใจดังกล่าว เป็นการจัดการความท้าทายทางเทคนิคสำคัญ 4 ประการคือ

  • ต้องทำความเข้าใจแพลตฟอร์มซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เน้นไปที่เอดจ์ เพื่อสร้างแอปพลิเคชัน POS ใหม่
  • การโยกย้ายการทำงานไปที่ระบบ POS ที่ไม่ต้องใช้เซิร์ฟเวอร์ด้วยการวางแอปพลิเคชันต่างๆ ไว้บนคอนเทนเนอร์
  • คงความแข็งแกร่งด้านความปลอดภัยและความปลอดภัยในการชำระเงินด้วยบัตร
  • สามารถใช้อุปกรณ์ต่อพ่วงที่เชื่อมต่อที่ได้มาตรฐานความปลอดภัยในการชำระเงินด้วยบัตร เช่นเครื่องสแกนบาร์โค้ด อุปกรณ์การป้อนรหัส (PIN pads) และเครื่องพิมพ์ใบเสร็จต่างๆ เพื่อให้สามารถรันแอปพลิเคชัน POS ที่พัฒนาใหม่ได้

ค้าปลีกรายนี้ เลือกที่จะปรับโครงสร้างพื้นฐาน POS ของตนให้ทันสมัยด้วยแพลตฟอร์มระดับองค์กรที่สามารถจัดการกับความต้องการด้านเครือข่ายเอดจ์ให้กับอุตสาหกรรมค้าปลีกได้ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ค้าปลีกใช้ข้อมูลได้ใกล้กับจุดที่ข้อมูลเข้าสู่ระบบได้มากขึ้น และเป็นจุดที่เกิดปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าส่วนใหญ่ หากพิจารณาตัวอย่างที่ยกมาข้างต้น ก็คือลูกค้าจากร้านค้า 1,200 แห่งของบริษัทค้าปลีกรายนั้น

เมื่อได้ปรับ POS ให้ทันสมัยแล้ว กระบวนการซื้อขายสินค้าจะตอบสนองต่อสภาวะที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้ดีขึ้น สามารถสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างให้กับลูกค้า และเพิ่มผลลัพธ์จากการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โครงสร้างพื้นฐานที่เชื่อถือได้และเสถียร ช่วยให้ผู้ค้าปลีกสามารถมุ่งให้ความสำคัญกับการปฏิบัติตามกฎระเบียบและมาตรการด้านความปลอดภัยได้อย่างเต็มที่

ระบบอัตโนมัติจะช่วยให้ทีมไอทีทำการบำรุงรักษาหรืออัปเดทระบบความปลอดภัยได้ตามความจำเป็นตามต้องการ และยังคงคำนึงถึงความปลอดภัยมาเป็นอันดับแรกอยู่เสมอ ซึ่งอาจหมายถึงการตรวจจับปัญหาที่อาจเกิดขึ้น ก่อนที่จะเข้าสู่กระบวนการผลิต และบรรเทาหรือขจัดปัญหานั้นๆ ให้หมดไป

ทีมไอทีจึงไม่ต้องใช้เวลาไปกับการบำรุงรักษาด้วยวิธีการซ้ำๆ และหันไปโฟกัสเรื่องอื่นที่สำคัญ เช่น ความปลอดภัยด้านไอทีและการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ซึ่งจะส่งผลให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีมากขึ้นพร้อมๆ กับลดต้นทุนการดำเนินงาน และเพิ่มผลกำไร

นวัตกรรมต้องสามารถช่วยเพิ่มประสบการณ์ในร้านค้าให้ทันสมัย 

ขณะที่มีค้าปลีกหลายรายใช้โซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI และคอมพิวเตอร์วิชันที่ทันสมัยจากผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์อิสระ (ISVs) เพื่อให้ลูกค้าสามารถชำระเงินได้ด้วยตนเอง ด้วยวิธีการที่ง่ายมากกว่าการสแกนบาร์โค้ด ซึ่งนั่นหมายความว่า ลูกค้าผู้ซื้อของสามารถหยิบสินค้าที่ต้องการใส่ตระกร้าและกลับออกไปโดยไม่ต้องต่อแถวชำระเงิน

ในทำนองเดียวกับแอปพลิเคชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI สามารถช่วยวิเคราะห์การเคลื่อนที่ของลูกค้า เพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภค และโซลูชันป้องกันสินค้าสูญหายที่ทันสมัยที่ไม่ต้องพึ่งพา RFIDs หรือแท็กข้อมูลเพื่อความปลอดภัยที่ติดอยู่กับตัวสินค้า

การจะใช้แอปพลิเคชันประเภทนี้ได้นั้น ผู้ค้าปลีกต้องใช้แพลตฟอร์มการพัฒนาแอปพลิเคชันระดับองค์กรที่ทันสมัยกับเซิร์ฟเวอร์ในร้านค้า ที่เชื่อมต่อกลับไปยังแอปพลิเคชันหลักต่างๆ ของร้านผ่านโครงสร้างพื้นฐานแบบไฮบริดคลาวด์ที่มีประสิทธิภาพสูงสามารถสเกลได้ และแพลตฟอร์มที่ออกแบบมารองรับงานประมวลผลระดับ AI ที่จะสามารถช่วยให้ลูกค้าใช้แอปพลิเคชันเหล่านี้ได้ ไม่ว่าแพลตฟอร์มเหล่านั้นจะเป็นแบบพัฒนาขึ้นมาเองหรือ ISV

การพิจารณาแพลตฟอร์มและโครงสร้างพื้นฐานที่มีเสถียรภาพสูง และออกแบบมาสำหรับสภาพแวดล้อมที่มีทรัพยากรจำกัด โดยเฉพาะสภาพแวดล้อมที่ต้องการการประมวลผลที่เอดจ์ จึงจำเป็นและเหมาะสมกับระบบ POS ของร้านค้าปลีกเป็นอย่างมาก ที่จะสร้างความแตกต่างและประสบการณ์ที่ดีขึ้นของลูกค้าในวันที่แสนจะยุ่งวุ่นวาย ของร้านค้า

Featured Image: Image by Freepik