Thursday, December 11, 2025
AIBig DataCloudCybersecurityInfrastructureNEWS

ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป เสนอ 8 โซลูชันขับเคลื่อนธุรกิจไทยให้ประสบความสำเร็จ

Digital Intelligence Fabric

ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป เผยเทคโซลูชันยุค AI ชู Digital Intelligence Fabric โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล แนะนำ 8 โซลูชันที่ช่วยขับเคลื่อนองค์กรธุรกิจไทยให้ก้าวทันเทคโนโลยีพร้อมสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจได้ชัดเจน

รู ดิจิทัล กรุ๊ป เสนอ Digital Intelligence Fabric โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลสำคัญ ที่ประกอบด้วย 8 โซลูชันหลัก ที่ทุกองค์กรจำเป็นต้องมี ซึ่งผสมผสานหลากหลายเทคโนโลยีอย่างลงตัว เป็นนวัตกรรมโซลูชันอัจฉริยะที่เชื่อมโยงทุกระบบ กระบวนการทำงาน เทคโนโลยีและข้อมูลเข้าด้วยกันอย่างชาญฉลาด

โดยประเมินว่าจะเป็นโซลูชันที่ช่วยขับเคลื่อนองค์กรธุรกิจให้ก้าวผ่านความท้าทายและรับมือกับความเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพตัดสินใจเชิงธุรกิจได้อย่างแม่นยำ รวดเร็ว และสามารถสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจได้อย่างชัดเจนเป็นรูปธรรม

เอกราช ปัญจวีณิน หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านดิจิทัล บมจ. ทรูคอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า “ปี 2569 จะเป็นปีสำคัญที่องค์กรไทยต้องเร่งวางโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลใหม่อย่างจริงจัง เพราะการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลไม่ใช่ตัวเลือกอีกต่อไป”

“แต่เป็นเงื่อนไขของการแข่งขัน เราจะเห็น 3 การเปลี่ยนแปลงใหญ่ที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน คือ การหลอมรวมเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน (Integration), การสร้างนวัตกรรมที่นำไปใช้ได้จริงในธุรกิจ (Innovation at Scale) และความเร็วในการส่งมอบผลลัพธ์ (Acceleration) เทคโนโลยีดิจิทัลจะเชื่อมโยงและหลอมรวมกันอย่างไร้รอยต่อมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมี AI เป็นกลจักรสำคัญ” 

“หากองค์กรยังไม่เริ่มวางรากฐานที่สามารถเชื่อมโยงต่อยอดเทคโนโลยีและระบบเข้าด้วยกัน อาจสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน เกิดความเสี่ยงในการเติบโตและลดโอกาสทางธุรกิจ” 

“ทั้งหมดนี้จึงกลายเป็นแรงผลักสำคัญให้ทุกองค์กรต้องพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลยุคใหม่ที่เชื่อมต่อได้แบบครบวงจร ซึ่ง Digital Intelligence Fabric จะเข้ามาช่วยให้องค์กรสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลง ทำหน้าที่เชื่อมต่อทุกระบบเข้าด้วยกัน ลดความซับซ้อน เพิ่มความเร็ว และทำให้เทคโนโลยีสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจจริง เป็นโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลยุคใหม่ที่จำเป็นสำหรับทุกองค์กรธุรกิจทุกขนาด”

8 โซลูชันอัจฉริยะสำหรับองค์กรทุกขนาด

Digital Intelligence Fabric เป็นองค์ประกอบของเทคโนโลยีดิจิทัลที่ถักทอเชื่อมโยงตั้งแต่ระดับโครงสร้างพื้นฐาน คือ การเชื่อมต่อผ่านเครือข่ายทั้งโมบายล์และอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์

ต่อยอดเชื่อมต่อไปจนถึงระดับซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชัน เสริมพลังระบบต่างๆ ขององค์กรให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ลดความซับซ้อน เพิ่มความแม่นยำและทำให้การใช้เทคโนโลยีเกิดผลลัพธ์จริง ไม่ใช่แค่การทดลองเหมือนในอดีตที่ต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะจับต้องได้เป็นรูปธรรม

Digital_Intelligence Fabric ประกอบด้วย 8 องค์ประกอบหลัก ดังนี้

  1. Vertical Cloud with Embedded Security คลาวด์อัจฉริยะพร้อมระบบความปลอดภัยในตัวตั้งแต่ต้นทาง ลดความเสี่ยงในการถูกโจมตี ลดภาระด้านบุคลากรไอที ช่วยให้องค์กรสามารถใช้งานคลาวด์ได้อย่างมั่นใจและขยายระบบได้ทันทีโดยไม่ต้องลงทุนเพิ่มด้านความปลอดภัยไซเบอร์ (Cybersecurity)
  2. Connectivity & IoT Platform เชื่อมทุกสิ่งรอบตัว ทั้งอุปกรณ์ เครื่องจักร และเซ็นเซอร์ต่างๆ เข้ากับโลกดิจิทัลแบบไร้รอยต่อรวบรวมข้อมูลจากอุปกรณ์ภาคสนาม อาคาร ยานพาหนะ ไปจนถึงโรงงานอุตสาหกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุม การตรวจสอบ และการวิเคราะห์เชิงลึก
  3. Computer Vision AI เปลี่ยนกล้องวงจรปิดเดิมให้ฉลาดขึ้นทันทีด้วย AI โดยไม่ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ ตรวจจับ วิเคราะห์ แจ้งเตือนความผิดปกติแบบเรียลไทม์ ทั้งด้านความปลอดภัย การปฏิบัติงานและประสบการณ์ลูกค้า ช่วยลดต้นทุนขณะที่ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น
  4. Connected Building & Energy Management แพลตฟอร์มบริหารอาคารและพลังงานเพื่อประหยัดต้นทุนและตอบโจทย์ความยั่งยืน (Sustainability) ควบคุมอุณหภูมิ แสงสว่างและการใช้พลังงานไฟฟ้าแบบอัตโนมัติ พร้อมระบบรายงานการปล่อยคาร์บอนครบวงจรรองรับเป้าหมาย ESG
  5. Smart Logistics & Supply Chain ระบบจัดการขนส่งและซัพพลายเชนแบบอัจฉริยะ เพื่อความรวดเร็ว ปลอดภัยและคุ้มค่าสูงสุด เก็บข้อมูล Telemetric วิเคราะห์พฤติกรรมการขับ เลือกเส้นทางที่เหมาะสม ลดอุบัติเหตุ ลดค่าใช้จ่าย และบริหารส่วนอื่นๆ ในระบบซัพพลายเชน เช่น การต่อเชื่อมกับระบบคลังสินค้า (warehouse)
  6. Data & AI Platform ดึงพลังจากข้อมูลทุกแหล่งเพื่อนำไปสร้างรายได้ ลดต้นทุน และเร่งการสร้าง AI ให้เร็วขึ้น รวมข้อมูลทั้งองค์กร ใช้งานง่ายแบบ No-code / Low-code ช่วยให้หน่วยธุรกิจสร้างแดชบอร์ด วิเคราะห์โมเดล AI และพัฒนาบริการใหม่ได้อย่างทันที รวมถึงการควบรวมข้อมูลจาก Telco ให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด
  7. Managed Cybersecurity ระบบความปลอดภัยครบวงจรที่ช่วยปกป้ององค์กรจากภัยคุกคามยุคใหม่ตลอด 24/7 บริหารจัดการความเสี่ยงเชิงรุกปรับมาตรฐานความปลอดภัยรองรับการขยายระบบช่วยองค์กรลดภาระด้านเครื่องมือและบุคลากร พร้อมผลลัพธ์ด้าน Compliance
  8. Digital Skill & Development ยกระดับคนให้พร้อมเติบโตไปกับเทคโนโลยี เรียนรู้ ทดลองทำจริง และสร้างวัฒนธรรมดิจิทัลในองค์กร พัฒนาความรู้ด้าน Data, AI, Cyber, Cloud พร้อมวางโรดแมปการ upskill & reskill เพื่อให้บุคลากรพร้อมรับเทคโนโลยีใหม่ตลอดเวลา

“โครงสร้างพื้นฐานยุคใหม่ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป ทุกวันนี้เทคโนโลยีสามารถใช้ได้ในราคาที่เข้าถึงง่ายขึ้นผ่าน Platform as a Service องค์กรจึงไม่จำเป็นต้องลงทุนขนาดใหญ่เหมือนในอดีต สามารถเริ่มต้นเล็ก ปรับขยาย หรือยกเลิกได้ตามความต้องการทำให้การขับเคลื่อนธุรกิจมีความยืดหยุ่นสูง” 

“มั่นใจว่า Digital_Intelligence Fabric จะยกระดับองค์กร เชื่อมกระบวนการทั้งหมดเข้าด้วยกัน เพื่อการทำงานที่รวดเร็วขึ้นแก้ปัญหาได้ตรงจุด และสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจได้อย่างเป็นรูปธรรมพร้อมแข่งขันและเติบโตได้อย่างยั่งยืน” เอกราช กล่าว

ยืนยันบทบาท ดิจิทัลอินทิเกรเตอร์ ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงในอีโคซีสเต็มอุตสาหกรรมไอที

เอกราช กล่าวว่า “นิยามของ ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป หลังจากนี้คือ การเป็น ดิจิทัลอินทิเกรเตอร์ หรือผู้รวบรวมเทคโนโลยีและพัฒนาเพิ่มให้กลายเป็นโซลูชันสำหรับองค์กรธุรกิจ โดยทำหน้าที่มากกว่าแค่การซื้อเทคโนโลยีมาขายหรือติดตั้งให้ลูกค้า ซึ่งกว่า 60% ของบริการมีการพัฒนาต่อยอดจากเทคโนโลยีระดับโลก เพื่อให้มีองค์ความรู้เป็นของประเทศไทย สร้างเทคโนโลยีเพื่อตอบโจทย์ความต้องการจริงของภาคธุรกิจ”

“สำหรับการเสนอโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล Digital_Intelligence Fabric ที่ประกอบด้วย 8 โซลูชันหลักในครั้งนี้ ถือเป็น การวางบทบาทเป็นผู้นำเทคโนโลยียุคใหม่สำหรับองค์กร โดยทรูดิจิทัลจะกลายเป็นผู้นำเทรนด์ให้ผู้เล่น หรือผู้ให้บริการรายอื่นๆ เดินตาม”

“ในปีหน้านั้น ประเมินว่าอุตสาหกรรมไอที ดิจิทัล จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในลักษณะ การเปลี่ยนกระบวนทัศน์ (Paradigm Shift) นำไปสู่การเปลี่ยน วิธีคิด มุมมอง วิธีปฏิบัติ แนวการดำเนินชีวิต ความเชื่อพื้นฐาน ซึ่งจะทำให้มุมมองหรือทัศนคติเปลี่ยนไปด้วย 

“โดยเฉพาะในแง่ของการลงทุนเทคโนโลยี จะเสริมสร้างให้คนไทยเป็นผู้สร้างเทคโนโลยีมากขึ้น และยังเป็นผู้ที่มีบทบาทการเพิ่มมูลมูลค่าทางเศรษฐกิจ ในแง่มุมของการช่วยลูกค้าประหยัด การช่วยเพิ่มรายได้ รวมถึงการสร้างความสามารถการแข่งขันอย่างยั่งยืนให้ธุรกิจลูกค้า” เอกราช กล่าวสรุป