Tuesday, September 23, 2025
NEWS

SCG จับมือ แสนสิริ และ Green Partners มุ่งพัฒนา Sustainable Home

ผู้นำนวัตกรรมที่อยู่อาศัย SCG จับมือร่วมกับ แสนสิริ และ Green Partners มุ่งพัฒนา Sustainable Home บ้านเพื่อความยั่งยืนแห่งแรกของไทย

อสซีจี สมาร์ทลีฟวิง เดินหน้าพันธกิจในการสร้างสังคมยั่งยืน ตามแนวทางของ SCG ด้วยการร่วมเป็นส่วนหนึ่ง ของโครงการ Sansiri Sustainable Home – Prototype 1 โครงการบ้านที่มุ่งเน้นความยั่งยืน และคุณภาพชีวิต ที่ไม่สร้างผลกระทบต่อทั้งคน และสิ่งแวดล้อม

โดย แสนสิริ เลือกใช้ผลิตภัณฑ์รักษ์โลก ฉนวนกันความร้อน รุ่น STAY COOL ของ SCG เป็นผลิตภัณฑ์นวัตกรรมบ้านเย็น (Cooliving Design) ที่ช่วยลดอุณหภูมิ และสะท้อนรังสีความร้อน ทำให้บ้านเย็นสบาย แม้ในสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย

ฉนวนกันความร้อน เอสซีจี รุ่น STAY COOL ฉนวนใยแก้วรักษ์โลก ผลิตจากขวดแก้วใสรีไซเคิล 100% ผ่านการรับรองความปลอดภัยสูงสุด ต่อสุขภาพตามมาตรฐานยุโรป EUCEB (EUropean CErtification Board for mineral wool products) รายแรกในอาเซียน สามารถป้องกัน และสะท้อนรังสีความร้อนจากโถงหลังคาเข้าสู่ตัวบ้านผ่านฝ้าเพดานได้

ซึ่งช่วยลดอุณหภูมิได้ 1-4 องศา ทำให้ประหยัดค่าไฟ จากเครื่องปรับอากาศสูงสุดถึง 47% ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 420 ล้านกิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์ (ในระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมา) เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ถึง 29 ล้านต้น และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมรับรองด้วยฉลาก Green Choice

ฉลากประหยัดพลังงานประสิทธิภาพสูง และฉลากรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint Label) เพื่อก้าวสู่อนาคตที่อยู่อาศัยคาร์บอนต่ำ โดย Sansiri Sustainable Home-Prototype 1 โดดเด่นด้วยนวัตกรรม 4 ด้าน ที่ออกแบบโดย คำนึงถึงผู้อยู่อาศัยและสิ่งแวดล้อม เป็นหลัก

Sansiri Sustainable Home-Prototype 1 โดดเด่นด้วยนวัตกรรม 4 ด้าน

1. Health and Well-being Design (การออกแบบเพื่อสุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดี) เป็นบ้านปลอดฝุ่น ด้วยนวัตกรรมการกรองอากาศ และฆ่าเชื้อโรคระบบแรงดันบวกที่ป้องกันฝุ่นและมลพิษจากภายนอกแพร่เข้าสู่ตัวบ้าน เลือกใช้วัสดุปลอดภัย Zero VOC ไม่ปล่อยสารระเหยที่เป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจและสุขภาพของผู้อยู่อาศัย

2. Cooliving Design (นวัตกรรมบ้านเย็น) ด้วยการออกแบบตามหลักธรรมชาติ คำนึงถึงทิศทางของภูมิอากาศ แสงแดด ทิศทางลมและฝน มีการเลือกใช้วัสดุพิเศษ ที่ช่วยลดอุณหภูมิและสะท้อนรังสีความร้อน ทำให้บ้านเย็นสบาย แม้ในสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย

3. Resource Efficiency (การใช้ทรัพยากรให้ได้คุณค่าสูงสุด) มีการติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์ ช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้ถึง 83% ตามการคำนวณด้วยโปรแกรมประเมิน ประสิทธิภาพพลังงานของอาคาร รวมถึงระบบบริหารจัดการน้ำอัจฉริยะ สามารถบำบัดน้ำได้ถึง 12,450 ลิตรต่อเดือน เพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ในการรดน้ำต้นไม้และทำความสะอาดพื้นที่ภายนอก เทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยให้ผู้อยู่อาศัย ประหยัดค่าไฟฟ้าและค่าน้ำ ได้อย่างมีนัยสำคัญในระยะยาว

4. Green Materials (การใช้วัสดุรักษ์โลก) ใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กว่า 70% งานสถาปัตย์ งานตกแต่งภายใน งานระบบ ทุกการสั่งซื้อจากคู่ค้าต้องคำนึงถึงกระบวนการผลิตที่ยั่งยืน

ความร่วมมือนี้เป็นการผสานจุดแข็งของทั้ง SCG โดยจิรภา นวลอุทัย Housing Material Component Product Manager ตัวแทนจาก Housing Product Solution Business, SCG Smart Living Business พร้อมด้วยผู้บริหารจาก แสนสิริ

รวมไปถึง Green Partners แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และยังคำนึงถึงคุณภาพชีวิต ที่ดีกว่าให้กับผู้อยู่อาศัย ทั้งด้านสุขภาพ ความสบาย และความคุ้มค่าในระยะยาว ให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิต ของคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม