“Huawei Cloud แสดงจุดยืนร่วมขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลของไทย ผ่านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล คลาวด์ ที่พร้อมสำหรับ AI เร่งประเทศไทยขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลด้วย AI สู่ศูนย์กลางด้านดิจิทัลและ AI ของอาเซียน
หัวเว่ย จัดงาน Huawei Thailand Digital & AI Summit 2025 นิทรรศการแสดงเทคโนโลยีดิจิทัลและ AI ระดับองค์กร แสดงความก้าวหน้าล่าสุดทางเทคโนโลยี และพร้อมกับแสดงจุดยืนในการร่วมขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลของไทย ด้วยยุทธศาสตร์ครบวงจรที่ครอบคลุมโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล คลาวด์ที่พร้อมสำหรับ AI และการสร้างระบบนิเวศนวัตกรรมร่วมกับพันธมิตร
ในงานนิทรรศการดังกล่าว ได้รับเกียรติจาก ประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวปาฐกถาพิเศษถึง วิสัยทัศน์ผลักดันประเทศไทยสู่การเป็น ศูนย์กลางด้านดิจิทัลและ AI ของอาเซียน ภายในปี 2570 และเชื่อมั่นว่าเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และนวัตกรรมดิจิทัลจะเป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต
โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 2,000 คน รวมถึงผู้นำภาครัฐ ผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก และนักวิชาการ เพื่อร่วมกำหนดทิศทางอนาคตของเศรษฐกิจดิจิทัลไทย
หัวเว่ยเดินหน้าสนับสนุนประเทศไทยสู่อนาคตอัจฉริยะ
งานดังกล่าว นับว่าเป็นการแสดงจุดยืนของหัวเว่ย ที่มุ่งมั่นในการร่วมขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลของไทย ด้วยยุทธศาสตร์ครบวงจรที่ครอบคลุมโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล คลาวด์ที่พร้อมสำหรับ AI และการสร้างระบบนิเวศนวัตกรรมร่วมกับพันธมิตร
เดวิด หลี่ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “AI มาถึงในช่วงเวลาที่เหมาะสมอย่างยิ่งในการเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลและอัจฉริยะไทย ในอีก 5 ปี ข้างหน้า เศรษฐกิจดิจิทัลคาดว่าจะเติบโตเร็วกว่า GDP ถึง 3 เท่า การผสานเทคโนโลยี 5G คลาวด์ และ AI เข้าด้วยกัน ช่วยให้แม้แต่ธุรกิจขนาดเล็ก เช่น เกษตรกร ก็สามารถนำเครื่องมืออย่างอวาตาร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI มาใช้ในการขายสินค้าออนไลน์และไลฟ์สดได้”
ขณะที่ วิลเลียม ตง ประธานฝ่ายการตลาดของหัวเว่ย คลาวด์ เน้นย้ำว่า ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้กลายเป็นกลไกขับเคลื่อนหลักของนวัตกรรมทางเทคโนโลยีระดับโลก โดยมีคลาวด์เป็นรากฐานที่มั่นคงสำหรับการเข้าถึง AI อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม การลงมือทำทันที คือ กุญแจสำคัญในการคว้าโอกาสจาก AI ภายใต้กลยุทธ์ที่ชัดเจน”
“Huawei Cloud พร้อมสนับสนุนประเทศไทยในการก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลาง AI แห่งอาเซียน ด้วยความมุ่งมั่นในการตอบสนองความต้องการเฉพาะด้าน และการพัฒนาบุคลากรในประเทศอย่างต่อเนื่อง”
เปิดตัวโซลูชัน AI รุ่นใหม่ล่าสุด
ภายในงานดังกล่าว หัวเว่ยได้เปิดตัวโซลูชัน AI รุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งประกอบด้วย AI-native Cloud Infrastructure ที่รองรับการประมวลผลแบบตามต้องการ AI-ready Data Infrastructure ที่รวมฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์อย่างครบวงจร
AI Connectivity ที่เชื่อมโยงข้อมูลและระบบได้อย่างไร้รอยต่อ โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLMs) เช่น Pangu LLM และ DeepSeek ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับอุตสาหกรรมไทย
บนเวทีได้มีการกล่าวถึง ความร่วมมือของ Huawei Cloud ได้ทำงานร่วมกับ SiliconFlow ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัพด้านโครงสร้างพื้นฐาน AI เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงโมเดล DeepSeek ได้ เมื่อประมาณต้นปีที่ผ่านมา
โมเดล R1 LLM ของ DeepSeek ที่พัฒนาในประเทศจีนนั้นจัดทำขึ้นภายใต้ใบอนุญาตโอเพนซอร์ส ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้สามารถใช้งานได้ฟรีเท่านั้น แต่ยังมีต้นทุนในการพัฒนาที่ถูกกว่ามากเมื่อเทียบกับ ChatGPT และโมเดล LLM อื่นๆ ของ OpenAI
งานนี้เป็นการยืนยันว่า ทั้ง Huawei Cloud และ SiliconFlow ได้ร่วมมือพัฒนาประสิทธิภาพระหว่างโมเดลการประมวลผล AI ของ DeepSeek ที่ทำงานบนชิปประมวลผลของ Huawei จะสามรถให้ประสิทธิภาพเทียบเท่ากับรุ่น DeepSeek ที่ทำงานบน GPU ระดับพรีเมียม
ภายในงานยังมีการนำเสนอ โซลูชัน Digital Power ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ปลอดภัย และมีเสถียรภาพ รวมถึง แอปพลิเคชัน AI สำหรับผู้บริโภค ครัวเรือน และองค์กรธุรกิจ
นอกจากนี้ งานดังกล่าวยังเปิดเวทีให้พันธมิตรในระบบนิเวศมากกว่า 40 ราย ร่วมจัดแสดงนวัตกรรม AI และดิจิทัลในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น ภาครัฐ การเงิน การศึกษา และค้าปลีก พร้อมเปิดตัวชุมชนเทคโนโลยีใหม่ 3 กลุ่ม ได้แก่ IP Club, OptiX Club และ OceanClub เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ของวิศวกรไทย
