Tottenham Hotspur Stadium ไม่ใช่แค่สนามฟุตบอล แต่คือ Digital Business Platform

“เมื่อสนามฟุตบอลกลายเป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อประสบการณ์ลูกค้า กรณีศึกษาจาก Tottenham Hotspur: Stadium Intelligence ที่ออกแบบจาก ความหลงใหลของฟุตบอลที่เป็นมากกว่าเกมกีฬา และถูกแปลงเป็น Digital Business Platform ที่สร้างรายได้ใหม่จากประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร เพื่อตอบโจทย์แฟนบอล ธุรกิจ และชุมชน

ทุกบ่ายวันเสาร์ เมื่อเดินเข้าสู่ Tottenham Hotspur Stadium สิ่งแรกที่สัมผัสได้ไม่ใช่เพียงเสียงเชียร์กึกก้อง แต่คือความรู้สึกว่า ทุกอย่างถูกออกแบบมาเพื่อเรา ตั้งแต่การสแกนบัตรเข้าชม ร้านค้าแบบไร้เงินสด ไปจนถึงสัญญาณไวไฟที่เชื่อมต่ออัตโนมัติ

ทั้งหมดคือผลลัพธ์จากการตัดสินใจเดินหน้า สร้างสนามฟุตบอลที่ฉลาดที่สุดในโลก เพื่อทำให้วันแข่งขันเป็นประสบการณ์ที่ไม่อาจลืมเลือนสำหรับแฟนบอลมากกว่า 60,000 คนในทุกแมตช์

สนามแห่งนี้ไม่ใช่แค่สถานที่จัดกีฬา แต่เป็นจุดเชื่อมต่อของ ประสบการณ์ บวก ข้อมูล ที่ถูกออกแบบไว้ในทุกมิติ ตั้งแต่ตั๋วเข้าชม การสั่งอาหาร การเดินทางภายในสนาม ไปจนถึงการใช้เวลาอยู่ในพื้นที่ก่อนและหลังเกม ทุกพฤติกรรมของผู้ชมกลายเป็นข้อมูลที่ช่วยให้สโมสรเข้าใจแฟนบอลได้มากขึ้นในทุกวินาที

และผลลัพธ์ก็ชัดเจนมาก คะแนนความพึงพอใจจากแฟนบอลพุ่งขึ้นจาก 52% ในช่วงที่สโมสรใช้สนามเวมบลีย์ เป็น 95% ภายในปีแรกที่ย้ายเข้าสนามใหม่แห่งนี้

ร็อบ พิคเคอริง, CTO ของสโมสร ผู้ที่จะมาถ่ายทอดความสำเร็จของสนาม Tottenham Hotspur Stadium ในแง่มุมของเทคโนโลยีดิจิทัล กับการตอบโจทย์ความต้องการของแผนบอล บอร์ดบริหาร และการพลิกมุมมองใหม่จากสนามกีฬาไปสู่ Digital Business Platform 

จาก “สนามกีฬา” สู่ “ธุรกิจประสบการณ์”

ร็อบ เร่ิมต้นอธิบายว่า “เบื้องหลังความสำเร็จนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว แต่มาจากการคิดแบบ ธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ทุกสิ่งที่เราคิดในการออกแบบสนามแห่งนี้ เริ่มจากคำถามเดียว คือ แฟนบอลควรได้ประสบการณ์แบบไหน?”

“เราต้องการสนามที่เป็นสัญลักษณ์ เป็นที่รู้จักทั่วโลก และยืนหยัดได้ยาวนาน เทคโนโลยีทุกอย่างที่คิดในการออกแบบสนามแห่งนี้ ตั้งอยู่บนพื้นฐานของการสร้างประสบการณ์ที่ดีของแฟนบอล”

โครงสร้างอัฒจันทร์แบบ กำแพงเสียง ช่วยขยายมิติความดังของเสียงเชียร์และเสียงฉลองประตู หน้าจอภายในสนามที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป รวมพื้นที่กว่า 1 ตารางกิโลเมตร แสดงทุกช่วงเวลาสำคัญของเกม

ผู้ชมสามารถเลือกประสบการณ์ได้ตามต้องการ ตั้งแต่เครื่องดื่มและของว่างทั่วไปภายในสนาม อาหารค่ำจากเชฟระดับมิชลิน ไปจนถึงกิจกรรมพิเศษกับตำนานนักเตะก่อนและหลังเกม ทุกอย่างถูกออกแบบให้ยืดหยุ่น เชื่อมต่อ และอัตโนมัติ เพื่อลดความยุ่งยาก ตั้งแต่ระบบผ่านประตูอัจฉริยะ แสงไฟ ไปจนถึงอุณหภูมิ

ประสบการณ์ที่ดีขึ้นบนวันแข่งขัน ทำให้แฟนบอลอยู่ในสนามนานขึ้น หลังเปิดใช้งานปีแรก สนามแห่งนี้ได้รับคะแนนความพึงพอใจสูงถึง 95% เพิ่มจากเดิมที่ใช้สนามเวมบลีย์เพียง 52%

ประสบการณ์แบบ Mobile-first สำหรับไลฟ์อีเวนต์

คุณต้องลองจินตนาการว่า คนหลายหมื่นคนจะมีประสบการณ์เริ่มต้นก่อนที่จะเดินทางถึงสนามอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นการซื้อบัตร การเดินทาง จุดทางเข้า หรือที่นั่ง แอปฯ มือถือ Spurs Official จะปรับข้อมูลให้เหมาะกับผู้ใช้งานแต่ละคน พร้อมมอบคอนเทนต์พิเศษระหว่างงาน

เพราะสนามมีพื้นที่กว่า 1.3 ล้านตารางฟุต บริการระบุตำแหน่ง (Location Services) จะเป็นตัวช่วยให้ผู้มาเยือนครั้งแรกหาทางไปยัง The Tottenham Experience (ร้านค้าสโมสรที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป) หรือ The Goal Line Bar (บาร์ที่ยาวที่สุดในสหราชอาณาจักร) ได้ง่ายขึ้น รวมถึงการนัดพบเพื่อน 

ระบบการเงินไร้เงินสด และการบริหารฝูงชนที่ปลอดภัยกว่า

สนามแห่งนี้ คือสนามแรกของโลกที่ ไร้เงินสด 100% แฟนบอลสามารถชำระเงินผ่านบัตร Contactless มือถือ หรืออุปกรณ์สวมใส่ ทำให้จ่ายเร็ว คิวสั้น และสุขอนามัยดีขึ้น “เราบริการแฟนบอลได้เร็วขึ้นมาก และเห็นยอดขายแบบเรียลไทม์” ร็อบ กล่าว

และเสริมว่า “สำหรับสโมสร ข้อมูลนี้มีคุณค่ามาก ตอนนี้เราเป็นสนามที่มีแหล่งข้อมูลมากที่สุดในโลก นั่นหมายความว่า สโมสรสามารถวิเคราะห์พฤติกรรมแฟนบอล เพื่อทำโปรโมชั่นเฉพาะกลุ่มได้แบบทันที”

รวมถึง ระบบชำระเงินไร้เงินสดยังช่วยรองรับมาตรการสุขอนามัยหลังโควิด โดยบัตรเข้าชมถูกเปลี่ยนเป็นดิจิทัล 100% ผ่านเทคโนโลยี NFC

ตอบไลฟ์สไตล์ที่ทุกคนต้องการเชื่อมต่ออยู่เสมอ

“เมื่อแฟนบอลสนุก พวกเขาต้องการแบ่งปันประสบการณ์กับคนอื่น จึงต้องมีอินเทอร์เน็ตที่ดีสำหรับคนกว่า 62,000 คน สนามจึงติดตั้งจุดปล่อยสัญญาณ (Access Point) ใต้ที่นั่งที่ทำให้การเชื่อมต่อไร้สายเปลี่ยนเกมของเราไปเลย”

มากกว่า 30% ของผู้ชมเชื่อมต่อ Wi-Fi ในวันแข่งขัน ใช้ข้อมูลรวมกว่า 4 TB เครือข่ายนี้รองรับการถ่ายทอดวิดีโอ HD พร้อมกันกว่า 40,000 คน แม้แฟนบอลจะไม่เห็น แต่เครือข่ายเดียวกันนี้ถูกใช้ควบคุมระบบอาคารและการปฏิบัติงานของสนามด้วย

“ความเสถียร และความปลอดภัย คือสิ่งสำคัญที่สุด บนความยืดหยุ่น” ร็อบ กล่าว สนามรองรับทั้งเกมของสเปอร์ส คอนเสิร์ต และกีฬาอื่นๆ มีป้ายดิจิทัลที่สามารถเปลี่ยนเนื้อหาได้ทันที รวมถึงพื้นสนามหญ้าที่สามารถแบ่งและเลื่อนออกได้ เพื่อรองรับ NFL ซึ่งจัดอย่างน้อยปีละ 2 เกม”

“อย่างในเกม NFL ครั้งแรก สนามรองรับธุรกรรมกว่า 85,000 ครั้ง และเสิร์ฟเบียร์มากกว่า 100,000 ไพนต์ ด้วยโครงข่ายอัจฉริยะของ HPE ช่วยให้ควบคุมสิทธิ์เข้าถึงของเจ้าหน้าที่ แฟนบอล และพันธมิตรได้ และวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ที่ Edge เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ซึ่งข้อมูลธุรกรรมทั้งหมดเกิดขึ้นที่ Edge และ Edge คือพลังของสนามแห่งนี้” ร็อบ กล่าว

เทคโนโลยีที่ได้รับการออกแบบไว้ตั้งแต่เริ่ม

ร็อบ อธิบายว่า “แพลตฟอร์มดิจิทัลของสนามถูกออกแบบตั้งแต่แรกเริ่ม เพื่อควบคุมทุกอย่างในวันแข่งขัน ตั้งแต่ระบบเข้าออก การค้าปลีก ระบบพลังงาน ไปจนถึงการถ่ายทอดสด”

“สโมสรเลือก HPE เป็นพันธมิตรเพื่อออกแบบและติดตั้งระบบครบวงจร ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนเราตลอดการสร้างสนามที่ล้ำหน้าที่สุดแห่งหนึ่งในโลก บริการของ HPE ยังสนับสนุนต่อเนื่องผ่าน HPE Complete Care Service ให้คำปรึกษาเชิงเทคนิค ช่วยลดเวลาบริหารระบบ และเพิ่มเวลาพัฒนาประสบการณ์แฟนบอล”

“ดาต้าเซ็นเตอร์ ที่รันบนอุปกรณ์ของ HPE คือ หัวใจสำคัญของทุกๆ สิ่งที่เราทำ ที่สนามมีดาต้าเซ็นเตอร์ 2 แห่ง ทำหน้าที่ขับเคลื่อนทุกระบบตั้งแต่วิเคราะห์แฟนบอลจนถึงระบบหลังบ้าน หนึ่งในนั้นเปิดให้ผู้ชมดูผ่านกระจกได้ด้วย”

“รวมถึง เครือข่ายของ HPE เป็นเทคโนโลยีสำคัญที่สุด ของทุกการดำเนินงาน HPE Pointnext Services ได้สร้างเครือข่ายประสิทธิภาพสูงรองรับการเชื่อมต่อของแฟนบอล, สื่อ และโครงสร้างพื้นฐานของสนามกีฬา พร้อมจัดการการเชื่อมโยงโซลูชันจากผู้ให้บริการต่างๆ ถึง 12 ราย 

“ตั้งแต่ระบบจัดการอาคาร, ระบบควบคุมการเข้าออก, ระบบค้าปลีก, การจัดเลี้ยง, ระบบภาพและเสียง ไปจนถึงการสื่อสาร HPE คือเทคโนโลยีที่สำคัญที่สุดในอาคารนี้ เพราะถ้าขาดมัน ระบบอื่นทำงานไม่ได้” ร็อบ กล่าว

Stadium Intelligence คือ ธุรกิจที่ไม่หยุดนิ่ง

ความโดดเด่นอย่างหนึ่งของ Tottenham Hotspur Stadium คือ ความยืดหยุ่น เพราะที่นี่ไม่ได้ใช้จัดแค่ฟุตบอล แต่ยังรองรับ การแข่งขันอเมริกันฟุตบอล (NFL), คอนเสิร์ตระดับโลก, งานอีเวนต์

และล่าสุดยังเปิด F1 DRIVE London สนามโกคาร์ทความเร็วสูง ที่ใช้ระบบเดียวกับสนามฟุตบอลเช่นกัน ทุกบริการใหม่สามารถเปิดได้ทันที เพราะ โครงสร้างทั้งอาคารถูกออกแบบให้เป็น Digital Platform 

บทเรียนจากสนามฟุตบอลสู่โลกธุรกิจ

กรณีศึกษานี้ไม่ใช่เรื่องของ สนามฟุตบอล แต่เป็น ตัวอย่างขององค์กรที่สร้าง Customer Experience ตั้งแต่แผนผังอาคารจนถึงระบบหลังบ้าน และการพลิกมุมมองใหม่จากสนามกีฬาไปสู่ Digital Business Platform 

CIO World Business ขอสรุปเป็นบทเรียนสำคัญได้ดังนี้

1. ออกแบบประสบการณ์ตั้งแต่วันแรก: ไม่ใช่แค่ วางระบบ IT ทีหลัง แต่ต้องคิด Platform ตั้งแต่เริ่มสร้างธุรกิจใหม่
2. ทุก Touchpoint = Data Source: ยิ่งให้บริการหลายรูปแบบ ยิ่งเห็น Customer Behavior แบบแท้จริง
3. Edge คืออนาคตของ Digital Operation: ธุรกิจที่มีหลายสาขา โรงงาน ร้านค้า ต้องคิดเรื่อง Edge ไม่ใช่ Cloud อย่างเดียว
4. ระบบต้อง Flexible ไม่งั้นธุรกิจต่อยอดไม่ได้: สนามนี้สลับจาก Premier League ไป NFL ไป คอนเสิร์ต ได้ในสัปดาห์เดียว เพราะทุกระบบเป็น Digital Configurable
5. เทคโนโลยีต้อง มองไม่เห็น แต่สัมผัสได้: แฟนบอลไม่ได้มองหาระบบที่ทันสมัย แต่ต้องรู้สึกว่า “ทุกอย่างสะดวกขึ้นโดยไม่รู้ตัว”

The Future of Experience

ไม่สำคัญว่านี่จะเป็นสนามของอนาคตหรือไม่ แต่วันนี้ มันเป็นสนามที่ทุกคนพูดถึง และนั่นคือคำตอบสำคัญที่สุด

แต่สนามกีฬาแห่งนี้คือ Living Platform ที่เติบโตได้เรื่อยๆ และสโมสรเพียงแค่ต้อง “ฟังข้อมูล และขยายประสบการณ์ได้อย่างต่อเนื่อง”

คำถามที่เหลือคือ องค์กรของคุณพร้อมหรือยัง? ที่จะกลายเป็น Tottenham Stadium ในอุตสาหกรรมของตัวเอง