Tuesday, March 19, 2024
Executive Talk

วีเอสที อีซีเอส วางกลยุทธ์ปี 2566 พัฒนาคน องค์กร ผลิตภัณฑ์ ขยายฐานลูกค้า

วีเอสที อีซีเอส

วีเอสที อีซีเอส วางแผนกลยุทธ์ปี 66 ขับเคลื่อน 4 ประเด็นหลัก พัฒนาคน, องค์กรดิจิทัล ขยายผลิตภัณฑ์ใหม่ ขยายตลาดไปสู่ต่างจังหวัด รวมถึงให้ความสำคัญนโยบายสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

มศักดิ์ เพ็ชรทวีพรเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยแผนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจปี 2566 โดยกล่าวว่า “สถานการณ์การของอุตสาหกรรมไอซีทีในช่วงที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากปัญหาการส่งมอบอุปกรณ์จากต่างประเทศ ทำให้ทั้งซัพพลายเชนของอุตสาหกรรมไอทีเกิดการชะลอตัว โครงการไอทีต่างๆ ได้รับผลกระทบ”

“การดำเนินธุรกิจของวีเอสที อีซีเอส ในครึ่งปีแรกนั้นคาดการณ์รายได้ครึ่งปีแรกอยู่ที่ประมาณ 17,000 ล้านบาท เติบโตขึ้นประมาณ 12% ซึ่งเป็นตัวเลขที่ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงของอุปทานที่ขาดแคลน ผู้ผลิตไม่สามารถส่งมอบสินค้าได้ โดยเฉพาะอุปกรณ์เครือข่ายในกลุ่มธุรกิจเอนเตอร์ไพรส์”

“วีเอสที อีซีเอส คาดการณ์ว่ารายได้น่าจะอยู่ที่ 34,000 ล้านบาท และทีการเติบโตที่ 10-12% สำหรับปี 2022”

“แต่อย่างไรก็ดี ในสถานการณ์คลี่คลายหลังภัยจากโรคระบาด ผมได้รับข้อมูลคาดการณ์จากสถาบันที่น่าเชื่อถือว่าหลังจากนี้ราว 2 ปี ทั่วโลกจะมีการลงทุนด้านไอทีสูงขึ้นประมาณ 25% เพราะการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน กลายเป็นสิ่งที่จำเป็นและสร้างความอยู่รอดให้กับผู้ดำเนินธุรกิจ ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ไอที” สมศักดิ์ กล่าว

วางยุทธศาสตร์ปี 66 พัฒนาคน องค์กร ผลิตภัณฑ์ ขยายฐานลูกค้า
สมศักดิ์ เพ็ชรทวีพรเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วีเอสที_อีซีเอส (ประเทศไทย) จำกัด

สมศักดิ์ กล่าวว่า “สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2566 นั้น วางแผนเอาไว้ใน 4 ประเด็นหลัก คือพัฒนาคน, พัฒนาองค์กรไปสู่ดิจิทัลให้สมบูรณ์แบบมากขึ้น, การขายผลิตภัณฑ์ในกลุ่มใหม่ๆ, การขยายตลาดไปสู่ต่างจังหวัด รวมถึงให้ความสำคัญนโยบายสิ่งแวดล้อมมากขึ้น”

“ประการแรก การเพิ่มศักยภาพบุคลากร ด้านการขายและบริการ ด้วยการเตรียมความพร้อมให้สามารถรองรับการขยายตลาดไปสู่ต่างจังหวัด และผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ในปีหน้า ทั้งจำนวนและองค์ความรู้ที่จะเข้าไปสนับสนุนการติดตั้งและใช้งาน ให้ทั่วทั้งประเทศไทย รองรับดีมานด์ที่มีอยู่”

ประการที่สอง การพัฒนาองค์กรไปสู่ดิจิทัลให้สมบูรณ์แบบมากขึ้น สมศักดิ์กล่าวว่า “วีเอสที อีซีเอส ได้วางแผนและเริ่มเปลี่ยนระบบภายในองค์กรให้เป็นดิจิทัลมาก่อนเกิดสถานการณ์ COVID-19 ราว 2 ปี โดยเริ่มที่การทำกระบวนการด้านเอกสารให้เป็นดิจิทัล”

“จากนั้น ได้ปรับปรุงระบบฐานข้อมูลและโครงสร้างพื้นฐานไอทีใหม่ทั้งหมด เพื่อรองรับการทำงานแบบ Anywhere ให้มีการทำงานอย่างรวดเร็วและปลอดภัย โดยเฉพาะการสร้างระบบความปลอดภัยไซเบอร์ที่ลงทุนไปราว 30 ล้านบาท”

“วีเอสที_อีซีเอส ได้มีการใช้งานเครื่องมือในการวิเคราะห์ข้อมูลธุรกิจ (Business Analytics Tool) ช่วยให้ผู้บริหารมองเห็นข้อมูลและตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง ส่งผลให้ระบบการจัดการคลังสินค้ามีประสิทธิภาพ”

“ที่สำคัญบริษัทฯ กำลังยกระดับระบบเครือข่ายเพื่อความปลอดภัยมากขึ้นสำหรับปีหน้า ที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้พนักงานและลูกค้า ในฐานะผู้ดำเนินธุรกิจผู้กระจายสินค้าที่ต้องสร้างตัวอย่างและมาตรฐานด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ เป็นผลพลอยได้สำหรับการเป็นศูนย์โชว์เทคโนโลยีอีกด้วย” สมศักดิ์ กล่าว

เห็นโอกาสรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า และระบบโซล่าเซลล์

สำหรับแผนเรื่องสินค้าและผลิตภัณฑ์นั้น สมศักดิ์ กล่าวว่า “การดำเนินธุรกิจหลักผู้กระจายสินค้าไอทีนั้น ยังคงยึดหลักการ การเป็นผู้กระจายสินค้าแบบผสมผสานทั้ง volume distributor และ value added distributor ที่มีสินค้าครบถ้วยความต้องการของตลาด ทั้งสินค้าไอทีสำหรับผู้บริโภค สินค้าไอทีสำหรับองค์กรและการพาณิชย์”

“ในปีหน้า วีเอสที_อีซีเอส ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้กระจายสินค้าของ HP Multi-Function A3 แต่เพียงผู้เดียว ซึ่งนั่นหมายถึงการตอดย้ำความครบถ้วนของผลิตภัณฑ์ไอที”

“นอกจากนั้น สืบเนื่องจากที่ วีเอสที_อีซีเอส มองเห็นโอกาสการขายผลิตภัณฑ์รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ระบบโซล่าเซลล์ จึงมีการวางแผนให้การขายและการเตรียมคนให้สามารถรองรับการเปิดธุรกิจขายสินค้าในกลุ่มนี้ เริ่มตั้งแต่ การเพิ่มตัวแทนจำหน่าย การสร้างศูนย์บริการและการอบรมแห่งใหม่ แบบครบวงจรเรื่องจักรยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อบริการให้กับตัวแทนจำหน่าย”

“รวมถึง กำลังวางแผนที่จะขยายสินค้าไปในกลุ่มโซล่าเซลล์ พวกอุปกรณ์แปลงกระแสไฟฟ้า ซึ่งอยู่ในช่วงของการเตรียมความพร้อมให้ตัวแทนจำหน่าย ทั้งองค์ความรู้เรื่องไฟฟ้า เรื่องกฎระเบียบต่างๆ เรื่องพฤติกรรมผู้บริโภคกับการใช้ไฟฟ้า ให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการอย่างแท้จริง” สมศักดิ์ กล่าวเสริม

ตลาดต่างจังหวัดที่มีดีมานด์และความพร้อม

“อย่างที่กล่าวคือ ธุรกิจหลักยังต้องให้ความสำคัญมากขึ้น โดยมีแผนขยายไปตามต่างจังหวัดให้ครบคลุม เพราะเป็นกลุ่มที่มีความพร้อมทั้งองค์ความรู้และความต้องการในสินค้ากลุ่มองค์กรมากขึ้น มีการปรับตัวมองหาเทคโนโลยีชั้นสูง”

“ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำคือ เตรียมความพร้อมทีมงานให้รองรับความต้องการต่างจังหวัด โดยวางมาตรการเพิ่มจำนวนตัวแทนจำหน่ายให้ครอบคลุมมากขึ้น จากที่มีอยู่ราว 2,800 ราย ให้เพิ่มเป็น 3,500 ราย”

“รวมถึงวางมาตรการรองรับเรื่องการเงิน เพื่อช่วยเหลือพาร์ทเนอร์ บริหารแคชโฟล์ ช่วยวางกลยุทธ์และสนับสนุนให้ตัวแทนจำหน่ายด้วย”

“ในปีหน้ายังมีอีกประเด็นที่เราต้องช่วยกันคือ การดำเนินธุรกิจด้วยหลักการที่สนับสนุนความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม และการลดพลังงาน ที่มีความสำคัญไม่แพ้เรื่องอื่น” สมศักดิ์ กล่าวปิดท้าย

Leave a Response