Friday, March 29, 2024
Case StudyInsurTech

ทิพยประกันภัย เปลี่ยนสู่ digital insurance พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพระบบไอทีดีขึ้น 99%

กรณีศึกษา ทิพยประกันภัย เปลี่ยนสู่ digital insurance ด้วยโซลูชันการสำรองข้อมูลที่มีระบบใช้งานง่าย ยืดหยุ่น มั่นใจในการปกป้องข้อมูลมากขึ้น ความเสี่ยงแทบจะเป็นศูนย์และยังทำงานได้รวดเร็วกว่าเดิมถึง 50%

ทิพยประกันภัย คือหนึ่งในบริษัทประกันวินาศภัยยักษ์ใหญ่ของประเทศไทยที่ต้องเผชิญกับความท้าทาย ดิจิทัลดิสรัปชัน ครั้งสำคัญ เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคมีความคุ้นชิน ให้การยอมรับการทำธุรกรรมการเงินผ่านช่องทางดิจิทัลมากขึ้น

ด้วยเหตุนี้ ทิพยฯ จึงต้องมั่นใจว่าองค์กรจะสามารถปรับกระบวนการทางธุรกิจให้เป็นดิจิทัล เพื่อสร้างบริการและรองรับผลิตภัณฑ์ใหม่ด้านประกันภัย จะได้ปรับตัวเพื่อตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สุรชัย วิบูลย์กิจโชติ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารระบบสารสนเทศและเครือข่าย บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เล่าถึงความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ว่า “การปรับตัวไม่ใช่แค่การซื้อเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ แต่เราจะเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสม เพราะอีกด้านผู้ไม่หวังดีก็ใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือมาโจมตีทางไซเบอร์พร้อมใช้ความสำคัญของข้อมูลและข้อบังคับกฎหมายมาบังคับเรียกค่าไถ่”

“องค์กรต้องศึกษาเรื่องความเสี่ยงให้ดี และหาวิธีปิดหรือบรรเทาความเสี่ยงนั้นเสีย เพื่อให้มั่นใจได้ว่าธุรกิจจะเติบโตต่อไปได้ดี”

“ทิพยฯ เรามีเป้าหมายเป็นผู้นำ Digital Insurance การเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมและคุ้มค่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อสร้างนวัตกรรมพร้อมบริการที่ดีเลิสให้ลูกค้าเกิดความประทับใจในการใช้งาน ผลิตภัณฑ์ที่เน้นตามความต้องการของลูกค้า การให้บริการเสริมใหม่ๆ การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลจึงเป็น พันธกิจที่สำคัญของไอที เพื่อทำให้เป้าหมายของบริษัทฯ สำเร็จ”

“การขับเคลื่อนธุรกิจในยุคดิจิทัล ข้อมูลคือหัวใจสำคัญของธุรกิจ เราต้องมั่นใจในระบบสำรองข้อมูลของเราว่าจะพร้อมใช้งานในทุกสถานการณ์ถ้าหากข้อมูลเกิดเสียหายหรือสูญหายขึ้นมา นี่เป็นเรื่องสำคัญมากนะเพราะข้อมูลเหล่านั้นสามารถทำให้ธุรกิจหยุดชะงักได้ซึ่งจะสร้างความเสียหายมหาศาล เราเลยต้องการโซลูชันที่สามารถปกป้องข้อมูลของเราและทำให้การดำเนินธุรกิจของเรามีความเสี่ยงน้อยที่สุด” สุรชัย กล่าวต่อ

โซลูชันการสำรองข้อมูลซึ่งตอบโจทย์ทุกอย่างขององค์กร

สุรชัย รู้จัก Veeam จากงานสัมมนาด้านไอทีงานหนึ่งเมื่อเกือบสิบปีที่แล้ว ในตอนที่เขากำลังมองหาระบบการสำรองข้อมูลที่ตอบโจทย์ จึงได้ตัดสินใจใช้งาน Veeam เพราะมองว่าน่าจะตอบความต้องการของบริษัท ณ เวลานั้น

การเลือกให้ถูกเป็นเรื่องสำคัญ ต้องเลือกผู้ให้บริการสำรองข้อมูลที่มีระบบใช้งานง่าย ยืดหยุ่น พร้อมด้วยทีมงานที่มีทักษะ นั่นเพราะบริษัทเคยมีประสบการณ์ไม่ดีจากผู้ให้บริการสำรองข้อมูลรายก่อน และเมื่อโครงการทำระบบ Virtualize ประสบความสำเร็จด้วยความสนับสนุนจาก Veeam ทิพยฯ จึงตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้ Veeam Availability Suite โซลูชันการสำรองข้อมูลซึ่งตอบโจทย์ทุกอย่างขององค์กรได้

ทิพยฯ ให้ Veeam สำรองข้อมูลระบบสำคัญๆ เช่น ERP (Enterprise Resource Planning), CRM (Customer Relationship Management) และ Core marketing รวมถึงระบบอื่นๆ แทบทั้งหมดขององค์กร โดย Veeam สำรองข้อมูลไปถึง 50 TB จาก 300 VM คิดเป็นสัดส่วนถึง 95%

“หลังจากเลือก Veeam เป็นพันธมิตรด้านไอที เราก็สามารถที่จะวางกรอบเพื่อกำหนดกลยุทธ์ใหม่ และนั่นทำให้เราเห็นผลลัพธ์ชัดเจนทันที เราเลือก Veeam จากความเชื่อถือได้เป็นสำคัญก็จริง แต่ Veeam ยังตอบโจทย์เรื่องความสมบูรณ์ของผลิตภัณฑ์ด้วย นั่นทำให้ระยะเวลาในการทำงานลดลง ต้นทุนค่าใช้จ่ายก็ลดลง แต่ประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มสูงขึ้น”

ไม่เพียงแต่ความเชื่อถือได้และความสมบูรณ์ของผลิตภัณฑ์ ความยืดหยุ่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เห็นได้ชัด หลังจาก ทิพยฯ ใช้บริการ Veeam Direct Restore to AWS

“Veeam สามารถทำงานสำรองข้อมูลร่วมกับ AWS ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เราแทบไม่ต้องทำอะไรมากเลย แค่ Enable มันเท่านั้น”

“นอกจากนี้แล้ว Veeam ยังมีเครื่องมือที่มาช่วยในเรื่องของการ monitoring เพื่อคอยลดภาระการทำงานของผู้ดูแลระบบ ซึ่งช่วยให้ทีมทำงานได้ง่ายขึ้น และยังมีรายงาน เก็บไว้เป็นหลักฐานให้ผู้สอบบัญชี ตรวจสอบได้ จึงสามารถช่วยยกระดับความเชื่อมั่นของบริษัทได้ในอีกทางหนึ่ง”

“ในอนาคตเทคโนโลยีจะยิ่งทวีความสำคัญต่อ ทิพยฯ มากขึ้น และเรากับ Veeam ก็มีโร้ดแมปที่สอดคล้องกับทิศทางของบริษัท ไม่จำเป็นต้องรอให้เกิดความเสี่ยงขึ้นก่อน แต่เลือกที่จะลดโอกาสไม่ให้ความเสี่ยงนั้นเกิดขึ้น และนั่นคือวิธีการที่เราใช้สร้างความเชื่อมั่นทางธุรกิจ” สุรชัย กล่าว

ผลจากการตัดสินใจเลือกเทคโนโลยีที่ถูกต้อง

ระยะเวลาที่ใช้ในการสำรองข้อมูลลดลง 50%

ก่อนหน้านี้ ทิพยฯ เคยใช้เวลาในการสำรองข้อมูลต่อหนึ่งระบบที่ 6 ชั่วโมง แต่เมื่อมี Veeam เวลาก็ลดลงถึงครึ่งนึง ทั้งที่บริษัทใช้งานแบบ Full Backup ด้วยซ้ำ นั่นทำให้ตัว Production ไม่ถูกกวนในเรื่อง Performance แม้จะเปิดใช้ระบบเพื่อรองรับลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน โดยไม่ต้องพะวงเรื่องเวลาปิดทำการของระบบเพื่อทำการบำรุงรักษาเหมือนในอดีต

ประหยัดค่าใช้จ่ายได้ทันทีอย่างน้อย 40%

“วิธีการคิดค่าใช้จ่ายของ Veeam ไม่ซับซ้อน และครอบคลุมการทำงานทั้งหมดมาตั้งแต่ต้น ไม่ต้องมีการจ่ายเพิ่มทีละเล็กทีละน้อยเพื่อการใช้งานเต็ม ส่งผลให้การบริหารค่าใช้จ่ายทำได้อย่างแม่นยำ และประหยัดค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นได้ทันทีอย่างน้อย 40%” สุรชัย กล่าว

ประสิทธิภาพส่วนงานไอทีเพิ่มสูงขึ้น 99%

ที่ ทิพยฯ มีการตั้งกรอบผลลัพธ์ด้านไอทีไว้เพื่อให้การทำงานเป็นไปด้วยความต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพสูง โดยทำงานร่วมกับ Veeam ตั้งแต่ในขั้นกำหนดกลยุทธ์ และนั่นทำให้ได้ผลลัพธ์ที่เหนือคาด อย่างการสำรองข้อมูลและการกู้คืนข้อมูลสำเร็จที่มีประสิทธิภาพเพิ่มสูงขึ้น 99%

ทั้งที่สำรองข้อมูลระบบสำคัญต่างๆ ในปริมาณมหาศาลในทุก 2-3 ชั่วโมง เช่นเดียวกับความพร้อมใช้งานที่ประสิทธิภาพเพิ่มสูงขึ้น 99% ขณะที่ RTO/RPO ซึ่งกำหนดมาตรฐานไว้ให้ไม่เกิน 15 นาที โดยเมื่อทดสอบจริงก็ใช้เวลาน้อยกว่าที่ตั้งเอาไว้มาก

Featured Image: Woman notebook photo created by rawpixel.com – www.freepik.com

Leave a Response